กระบี่ - ตำรวจเมืองดาบ จ่อประสานขอสอบปากคำลูกชายนักธุรกิจอเมริกันที่ถูกนักดนตรี 3 คนรุมยำเสียชีวิต หลังแพทย์ให้ออกจากโรงพยาบาลเพราะอาการปลอดภัย ด้าน ผอ.ททท.กระบี่ยอมรับกระทบการท่องเที่ยว
จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน คือ นายบอบบี้ เรย์ คาร์เตอร์ อายุ 51 ปี เจ้าของบริษัท LED Cool Lights ผู้ผลิตอุปกรณ์แอลอีดี ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเมืองดัลลัส มลรัฐเทกซัส ของสหรัฐฯ รวมถึงในจีน ถูกนายรติกร โรมินทร์ อายุ 27 ปี อาชีพเล่นดนตรีตามผับ พร้อมพวกอีก 2 คนรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนลูกชายของ นายบอบบี้ คือ นายอดัม คาร์เตอร์ อายุ 27 ปี ถูกฟันด้วยของมีคมได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุไม่นานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ทั้ง 3 คน โดยนายรติกร 1 ในผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นคนลงมือแทงผู้ตาย แต่ทำไปเพื่อป้องกันตัวเพราะผู้ตายมาหาเรื่อง และทำร้ายตนก่อน
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ลูกชายผู้ตายที่ได้รับบาดเจ็บคือ นายอดัม คาร์เตอร์ ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต แพทย์ได้อนุญาตให้ออกมาจากโรงพยาบาลได้แล้ว ซึ่งทาง ททท.สำนักงานกระบี่ ได้ไปรับตัวกลับมาที่ จ.กระบี่ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 ส.ค.) และพักอยู่ในที่ปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ของ ททท.คอยดูแลอำนวยความสะดวก แต่ยังอยู่ในอาการเครียด หลังจากนี้จะให้ตำรวจได้สอบปากคำ นายอดัม และกำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.เมืองกระบี่ และยังไม่มีการขอประกันตัวแต่อย่างใด จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดภายในร้านที่เกิดเหตุพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขึ้นไปร้องเพลง และร่วมเล่นดนตรีกับนักดนตรีที่เป็นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน แต่ผู้ตายไม่ยอมลงจากเวที จากนั้นผู้ตายได้เปิดกล่องใส่ทิปหน้าเวที แล้วหยิบเงินออกมาทิ้งบนพื้นก่อนเดินลงจากเวที ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนออกไปนั่งที่หน้าร้าน จากนั้นผู้ตาย และลูกชายเดินออกมาจากร้านตามไป ก่อนที่จะมีการทะเลาะวิวาทกันจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต แต่ในจุดดังกล่าวกล้องไม่สามารถจับภาพได้
ด้านนางวิยะดา ศรีรางกูร ผอ.ททท.สำนักงานกระบี่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก และทราบว่ามีการเสนอข่าวในต่างประเทศด้วย แต่ในการดำเนินการทางกฎหมายก็ต้องปล่อยไปตามกระบวนการ ส่วนในเรื่องการดูแลอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ทาง ททท.สำนักงานกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่
จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน คือ นายบอบบี้ เรย์ คาร์เตอร์ อายุ 51 ปี เจ้าของบริษัท LED Cool Lights ผู้ผลิตอุปกรณ์แอลอีดี ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเมืองดัลลัส มลรัฐเทกซัส ของสหรัฐฯ รวมถึงในจีน ถูกนายรติกร โรมินทร์ อายุ 27 ปี อาชีพเล่นดนตรีตามผับ พร้อมพวกอีก 2 คนรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนลูกชายของ นายบอบบี้ คือ นายอดัม คาร์เตอร์ อายุ 27 ปี ถูกฟันด้วยของมีคมได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุไม่นานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกระบี่ สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ทั้ง 3 คน โดยนายรติกร 1 ในผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นคนลงมือแทงผู้ตาย แต่ทำไปเพื่อป้องกันตัวเพราะผู้ตายมาหาเรื่อง และทำร้ายตนก่อน
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ลูกชายผู้ตายที่ได้รับบาดเจ็บคือ นายอดัม คาร์เตอร์ ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต แพทย์ได้อนุญาตให้ออกมาจากโรงพยาบาลได้แล้ว ซึ่งทาง ททท.สำนักงานกระบี่ ได้ไปรับตัวกลับมาที่ จ.กระบี่ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 ส.ค.) และพักอยู่ในที่ปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ของ ททท.คอยดูแลอำนวยความสะดวก แต่ยังอยู่ในอาการเครียด หลังจากนี้จะให้ตำรวจได้สอบปากคำ นายอดัม และกำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.เมืองกระบี่ และยังไม่มีการขอประกันตัวแต่อย่างใด จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดภายในร้านที่เกิดเหตุพบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขึ้นไปร้องเพลง และร่วมเล่นดนตรีกับนักดนตรีที่เป็นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน แต่ผู้ตายไม่ยอมลงจากเวที จากนั้นผู้ตายได้เปิดกล่องใส่ทิปหน้าเวที แล้วหยิบเงินออกมาทิ้งบนพื้นก่อนเดินลงจากเวที ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนออกไปนั่งที่หน้าร้าน จากนั้นผู้ตาย และลูกชายเดินออกมาจากร้านตามไป ก่อนที่จะมีการทะเลาะวิวาทกันจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต แต่ในจุดดังกล่าวกล้องไม่สามารถจับภาพได้
ด้านนางวิยะดา ศรีรางกูร ผอ.ททท.สำนักงานกระบี่ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก และทราบว่ามีการเสนอข่าวในต่างประเทศด้วย แต่ในการดำเนินการทางกฎหมายก็ต้องปล่อยไปตามกระบวนการ ส่วนในเรื่องการดูแลอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ทาง ททท.สำนักงานกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่