เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- สื่อต่างประเทศรายงาน นักธุรกิจชาวอเมริกันจากเมืองดัลลัสถูกแทงตายนอกร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ของไทย สาเหตุเพราะผู้ตายซึ่งมีอาการมึนเมาและไม่ยอมหยุดร้องเพลงเกิดมีปากเสียงกับนักดนตรีในร้าน
รายงานของสื่อต่างประเทศหลายสำนักรวมถึงสำนักข่าวเอเอฟพีและเว็บไซต์เดลีเมล์ระบุว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพุธ (31)หลังจากผ่านพ้นช่วงขึ้นวันใหม่มาได้ไม่นานที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง บริเวณอ่าวนางจังหวัดกระบี่ โดยตำรวจพบผู้เสียชีวิตคือนายบ๊อบบี้ เรย์ คาร์เตอร์ จูเนียร์ นักธุรกิจชาวอเมริกันวัย 51 ปีนอนจมกองเลือดโดยมีบาดแผลถูกแทงบริเวณหน้าอก ขณะที่ อดัม บุตรชายวัย 27 ปีของเขาก็มีร่องรอยการบาดเจ็บที่เกิดจากการต่อสู้กับสมาชิกของวงดนตรี
รายงานข่าวระบุว่า ตำรวจไทยจับกุมนักดนตรี 3 รายหลังจากก่อเหตุไม่นานโดยทั้งสามคนมีอายุ 26 ปี,27 ปี และ 40 ปีตามลำดับ ซึ่งทั้งหมดให้การกับตำรวจว่าพวกตนไม่ได้เป็นฝ่ายที่ก่อการทะเลาะวิวาทก่อนและไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใครจนเสียชีวิต
อย่างไรก็ดี เบื้องต้นสมาชิกวงดนตรีทั้ง 3 คนถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย รวมถึงข้อหาฆาตกรรม และมีนักดนตรีรายหนึ่งในจำนวนนี้ถูกตั้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มเติมด้วย
พยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า บ๊อบบี้ คาร์เตอร์เกิดหัวเสียอย่างรุนแรง หลังจากที่นักดนตรีเล่นเพลง“Hotel California” แทนที่เพลงที่เขาขอไว้ และนักธุรกิจอเมริกันรายนี้ซึ่งดูเหมือนมีอาการมึนเมาก็ปฏิเสธที่จะลงจากเวทีและพยายามดึงดันร้องเพลงต่อไป ก่อนจะเริ่มโวยวายเรียกร้องขอเงินคืนจากทางร้านในเวลาต่อมา
และเมื่อสองพ่อลูกตระกูลคาร์เตอร์เดินออกจากร้าน พวกเขาก็เผชิญหน้ากับกลุ่มนักดนตรีบริเวณด้านนอกและเริ่มชกต่อยกัน
ทั้งนี้ บ๊อบบี้ เรย์ คาร์เตอร์ จูเนียร์ เป็นเจ้าของบริษัท “LED Cool Lights”ผู้ผลิตอุปกรณ์แอลอีดีซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเมืองดัลลัส มลรัฐเทกซัสของสหรัฐฯ รวมถึงในจีน
ขณะที่คำแถลงของครอบครัวคาร์เตอร์ระบุว่า ผู้เสียชีวิตพร้อมด้วยภรรยา บุตรชายและเพื่อนกำลังอยู่ระหว่างเดินทางมาพักผ่อนในประเทศไทย โดยทางครอบครัวเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรมของไทยดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด