ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นักลงทุนจากพัทยา จับมือนักลงทุนจากจีน ขยายฐานเข้าภูเก็ต ทุ่มกว่า 100 ล้านบาท ยึดอ่าวฉลองเปิดให้บริการเรือภัตตาคาร “ไทยสตาร์ครูซ” รับนักท่องเที่ยวจีน 100% ขายรวมในโปรแกรมทัวร์ ให้บริการวันละ 3 รอบ ลองเรือชมความสวยงามของอ่าวฉลอง-แหลมพรหมเทพ
เมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) ที่ผ่านมา นายก่อเกียรติ สุพลพงษ์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 8 เป็นประธานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเรือภัตตาคาร “ไทยสตาร์ครูซ” ซึ่งจัดขึ้นบนเรือ “ไทยสตาร์ครูซ” ที่จอดลอยลำบริเวณอ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีข้าราชการ ประชาชนทั่วไป และตัวแทนบริษัทนำเที่ยวจีนเข้าร่วมจำนวนมาก
น.ส.ศศิชาวิมล คำบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสตาร์ ครูซ จำกัด กล่าวถึงการเปิดให้บริการเรือภัตตาคาร “ไทยสตาร์ครูซ” ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า เดิมบริษัทเคยทำเรือเกี่ยวกับร้านอาหารอยู่ที่พัทยา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่การเปิดให้บริการที่พัทยาเป็นการบริหารงานโดยบริษัทอื่นๆ ที่เป็นบริษัทในเครือ และจากการมองเห็นลู่ทางทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ จึงได้ขยายฐานการลงทุนจากพัทยาเข้ามาภูเก็ต ด้วยการร่วมทุนกับนักลงทุนจีน ตั้งบริษัท ไทยสตาร์ครูซ จำกัด ขึ้น เพื่อเปิดให้บริการเรือร้านอาหารขึ้น
สำหรับการเปิดให้บริการเรือร้านอาหารนั้น จะเริ่มเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ส.ค.56 เป็นต้นไป ใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วย เรือขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นเรือภัตตาคาร ที่ต่อมาจากเมืองกวางเจา ซึ่งมี 3 ชั้น ด้วยกัน ประกอบไปด้วย ชั้น 1 ใช้เป็นล็อบบี้ สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ ส่วนชั้นที่ 2 เป็นห้องอาหารติดแอร์ และมีเวทีสำหรับการแสดงโชว์ และชั้นที่ 3 เป็นลานโล่งสำหรับให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิว โดยเรือดังกล่าวรับนักท่องเที่ยว และพนักงานบนเรือได้ประมาณ 700 คน นอกจากนั้น ยังมีเรือให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวระหว่างเรือใหญ่กับท่าเทียบเรือท่องเที่ยวอ่าวฉลอง อีกจำนวน 2 ลำ
น.ส.ศศิชาวิมล กล่าวต่อไปว่า เรือไทย สตาร์ครูซ เป็นเรือสำหรับให้บริการดินเนอร์ และชมการแสดงโชว์ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน 100% ที่มีการขายรวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรือลำดังกล่าวเปิดให้บริการนักท่องเที่ยววันละ 3 รอบ ประกอบด้วยรอบแรก เริ่มเวลา 17.00-19.00 น. รอบที่ 2 เริ่มเวลา 19.00-21.00 น. และรอบสุดท้ายเริ่มเวลา 21.00-23.00 น. โดยเรือจะแล่นจากอ่าวฉลองไปทางแหลมพรหมเทพ และกลับมาที่อ่าวฉลอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามของทะเลอ่าวฉลอง และแหลมพรหมเทพซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียของจังหวัดภูเก็ต
เมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) ที่ผ่านมา นายก่อเกียรติ สุพลพงษ์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 8 เป็นประธานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเรือภัตตาคาร “ไทยสตาร์ครูซ” ซึ่งจัดขึ้นบนเรือ “ไทยสตาร์ครูซ” ที่จอดลอยลำบริเวณอ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีข้าราชการ ประชาชนทั่วไป และตัวแทนบริษัทนำเที่ยวจีนเข้าร่วมจำนวนมาก
น.ส.ศศิชาวิมล คำบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสตาร์ ครูซ จำกัด กล่าวถึงการเปิดให้บริการเรือภัตตาคาร “ไทยสตาร์ครูซ” ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า เดิมบริษัทเคยทำเรือเกี่ยวกับร้านอาหารอยู่ที่พัทยา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่การเปิดให้บริการที่พัทยาเป็นการบริหารงานโดยบริษัทอื่นๆ ที่เป็นบริษัทในเครือ และจากการมองเห็นลู่ทางทางด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ จึงได้ขยายฐานการลงทุนจากพัทยาเข้ามาภูเก็ต ด้วยการร่วมทุนกับนักลงทุนจีน ตั้งบริษัท ไทยสตาร์ครูซ จำกัด ขึ้น เพื่อเปิดให้บริการเรือร้านอาหารขึ้น
สำหรับการเปิดให้บริการเรือร้านอาหารนั้น จะเริ่มเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 ส.ค.56 เป็นต้นไป ใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วย เรือขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นเรือภัตตาคาร ที่ต่อมาจากเมืองกวางเจา ซึ่งมี 3 ชั้น ด้วยกัน ประกอบไปด้วย ชั้น 1 ใช้เป็นล็อบบี้ สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ ส่วนชั้นที่ 2 เป็นห้องอาหารติดแอร์ และมีเวทีสำหรับการแสดงโชว์ และชั้นที่ 3 เป็นลานโล่งสำหรับให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิว โดยเรือดังกล่าวรับนักท่องเที่ยว และพนักงานบนเรือได้ประมาณ 700 คน นอกจากนั้น ยังมีเรือให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวระหว่างเรือใหญ่กับท่าเทียบเรือท่องเที่ยวอ่าวฉลอง อีกจำนวน 2 ลำ
น.ส.ศศิชาวิมล กล่าวต่อไปว่า เรือไทย สตาร์ครูซ เป็นเรือสำหรับให้บริการดินเนอร์ และชมการแสดงโชว์ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน 100% ที่มีการขายรวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรือลำดังกล่าวเปิดให้บริการนักท่องเที่ยววันละ 3 รอบ ประกอบด้วยรอบแรก เริ่มเวลา 17.00-19.00 น. รอบที่ 2 เริ่มเวลา 19.00-21.00 น. และรอบสุดท้ายเริ่มเวลา 21.00-23.00 น. โดยเรือจะแล่นจากอ่าวฉลองไปทางแหลมพรหมเทพ และกลับมาที่อ่าวฉลอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามของทะเลอ่าวฉลอง และแหลมพรหมเทพซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียของจังหวัดภูเก็ต