xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอบุกจับตู้คาราโอเกะในภูเก็ตละเมิดลิขสิทธิ์เพลงได้ 9 ตู้ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ดีเอสไอภาค 8 ผนึกกำลังบุกจับตู้คาราโอเกะในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอกะทู้ จ.ภูเก็ต ที่ละเมิดลิขสิทธิ์เพลงของบริษัท ลิขสิทธิ์เพลง จำกัด ได้ 9 ตู้ พร้อมแจ้งข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลง ด้านผู้ประกอบการร้องซื้อมาถูกต้อง มีสติกเกอร์กำกับวันเวลาอายุของลิขสิทธิ์ ดีเอสไอเตรียมหาข้อมูลสาวถึงผู้แอบอ้างขายลิขสิทธิ์เพลงต่อไป

เมื่อเวลา 20.30 น. วานนี้ (26 ก.ค.) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 8 และภาค 9 นำโดย นายอุดม เพชรคุต ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 8 พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 8 และภาค 9 พร้อมตัวแทน บริษัท ลิขสิทธิ์เพลง จำกัด ซึ่งได้ร้องทุกข์มอบคดีให้แก่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ดำเนินคดีต่อผู้ทำกระทำผิดในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลงของบริษัท ลิขสิทธิ์เพลง จำกัด โดยมีการนำตู้คาราโอเกะที่มีเพลงของนักร้องที่บริษัทฯ เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานเพลง งานดนตรีกรรม งานสิ่งบันทึกเสียง งานโสตทัศนวัสดุ และผลิตจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในราชอาณาจักรไทย นำไปบรรจุอยู่ในรูปของฮาร์ดดิสก์ หรือแผ่นวีซีดีคาราโอเกะอยู่ในตู้คาราโอเกะไปเสนอให้แก่ร้านค้าในจังหวัดภูเก็ต เปิดให้ลูกค้าที่เข้ามาเที่ยวในร้านฟัง หรือร้องโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อประโยชน์ทางการค้า ซึ่งได้มีการรับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว

ทั้งนี้ ในการเข้าไปตรวจสอบร้านคาราโอเกะที่มีตู้เพลงคาราโอเกะ และพบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงของบริษัทดังกล่าว ประกอบด้วย ร้านส้มโอคาราโอเกะ ร้านสร้อยฟ้าคาราโอเกะ ร้านน้องมาร์คคาราโอเกะ ร้านศิลาคาราโอเกะ ร้านน้องกรีนคาราโอเกะ ร้านน้องจอยคาราโอเกะ ร้านแม่ยายคาราโอเกะ ร้านน้ำผึ้งราคาโอเกะ และร้านลมเหนือคาราโอเกะ ซึ่งร้านต่างๆ ดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณถนนศรีเสนา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และพื้นที่ อ.กะทู้ โดยได้มีการยึดตู้เพลง และสมุดบัญชีรายชื่อเพลงไปทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ก็ไดมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าของร้าน และผู้ดูร้านต่างๆ ดังกล่าว ในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลงด้วย

จากการสอบสวน ผู้ดูแลร้านทราบว่า ทางร้านได้มีการเช่าตู้คาราโอเกะหยอดเหรียญมาให้บริการแก่ลูกค้า โดยตู้ดังกล่าวจะมีสติกเกอร์แสดงวันเวลาเริ่ม และวันหมดอายุอนุญาต ซึ่งทางเจ้าของตู้ที่ให้เช่าบอกว่าเสียค่าลิขสิทธิ์เพลงแล้ว และให้ค่าตอบแทนแก่ทางร้านคิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนเงินในตู้ และไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าตู้คาราโอเกะดังกล่าวได้ละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของที่แท้จริง
 



นายอุดม เพชรคุต ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 8 กล่าวว่า การลงตรวจสอบ และตรวจยึดตู้คาราโอเกะในครั้งนี้ เนื่องจากทางบริษัทผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ และก่อนหน้านี้ ก็ได้ลงพื้นที่สำรวจกลุ่มเป้าหมายไว้ก่อนแล้ว จากนั้นได้เสนอขออนุมัติจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และลงมาดำเนินการร่วมกับทางผู้เสียหาย โดยมีการสนธิกำลังกับทางศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 9 แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด เข้าดำเนินการใน 3 จุด ซึ่งมีการให้บริการตู้คาราโอเกะหยอดเหรียญในพื้นที่ภูเก็ต ที่อำเภอเมือง และอำเภอกะทู้ 

“จากการตรวจสอบเบื้องต้นทางผู้เสียหายยืนยันว่า ร้านต่างๆ ที่เข้าทำการตรวจสอบนั้นมีการละเมิดลิสิทธิ์เพลงของทางบริษัทฯ จริง จึงได้ยึดตู้คาราโอเกะเพื่อไปตรวจสอบ พร้อมควบคุมตัวผู้ดูแลร้านดำเนินคดีในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ และหลังจากนี้ ยังคงดำเนินการตรวจจับอย่างต่อเนื่อง เพราะจากการตรวจสอบพบว่า ยังมีร้านที่ละเมิดลิขสิทธิ์เพลงดังกล่าวอีกมาก ประกอบกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยว (ศป.อท.) จังหวัดภูเก็ต ที่สนามบินเป็นศูนย์แรก ซึ่งก็จะมีการดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ด้วย เพื่อสาวไปให้ถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และเป็นเจ้าของสติกเกอร์ที่อ้างกับทางผู้เช่าว่าเมื่อติดสติกเกอร์ดังกล่าวแล้วไม่มีปัญหา” นายอุดม กล่าวในที่สุด




 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น