ตรัง - ชาวบ้านตำบลท่างิ้ว อ.ห้วยยอด หันเลี้ยงกระชังปลานิล และปลาทับทิม ภายในอ่างเก็บน้ำท่างิ้วกันมากขึ้น จนมีจำนวนกว่า 100 กระชัง เผยขายดีเป็นที่ต้องการของตลาด และมีความเสี่ยงน้อยกว่าการเลี้ยงกระชังปลาในทะเล
นายธรรมศทรรศ กี่สุ้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลท่างิ้ว กำลังให้ความสนใจการเลี้ยงกระชังปลานิล และปลาทับทิมกันมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา อบต.ท่างิ้ว ได้ดำเนินโครงการพัฒนารอบๆ บริเวณอ่างเก็บน้ำท่างิ้ว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของ จ.ตรัง บนเนื้อที่ 1,600 ไร่ ชาวบ้านจึงได้ลงมือเลี้ยงกระชังปลานิล และปลาทับทิม จนมีจำนวนกว่า 100 กระชังแล้ว
และที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ อบต.ท่างิ้ว ได้เข้าไปตรวจสอบคุณภาพน้ำรอบๆ กระชังปลาอยู่เป็นประจำ เนื่องจากเกรงว่าการขยายตัวของกระชังปลาอย่างรวดเร็ว อาจสร้างความแออัด และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ แต่เนื่องจากอ่างเก็บน้ำมีบริเวณกว้าง จึงไม่มีผลกระทบดังกล่าวแต่อย่างใด
นางวันเพ็ญ บุญคล้าย ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด เกษตรกรรายหนึ่ง เล่าว่า ตนได้เริ่มเลี้ยงกระชังปลานิล และปลาทับทิมในอ่างเก็บน้ำท่างิ้ว มาตั้งแต่เมื่อ 1 ปีก่อน โดยเริ่มจากเลี้ยง 2 กระชัง และต่อมา ขยายเป็น 6 กระชัง ใช้เวลาเลี้ยงเพียงแค่ 4 เดือนต่อรุ่น และจะจับขายได้ครั้งละ 3,000-4,000 กิโลกรัม ในราคากิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งยังมีราคาถูกกว่าที่อื่นถึงกิโลกรัมละ 20 บาท แต่เนื่องจากมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่ จึงขายดีตลอดปี
และเนื่องจากเลี้ยงในระดับน้ำที่ลึก ทำให้ไม่มีกลิ่นสาบในเนื้อปลา ลูกค้านิยมไปทำอาหารตามร้าน หรือใช้มากในช่วงมีงานแต่งงาน และงานมงคลต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงที่การเลี้ยงปลากระชังในทะเลเริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะคลื่นลมแรงอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้การเลี้ยงปลากระชังในน้ำจืดได้รับความนิยมมากขึ้น