ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หนุ่มลูกจ้างบริษัทรับติดตั้งลิฟต์ชวนเพื่อนไปวางเบ็ดตกปลาในขุมเหมืองเก้งหงวน ต.ศรีสุนทร จ.ภูเก็ต ดีใจจับได้ตัวเงินตัวทอง นำใส่กระสอบบรรทุกรถจักรยานยนต์กลับห้องพัก แต่ต้องตกตะลึงเมื่อเปิดกระสอบเพื่ออวดเพื่อนบ้าน กลับกลายเป็นลูกจระเข้ขนาดยาวกว่า 1 เมตร ต้องช่วยกันจับล่ามเชือกรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศรีสุนทร นำสื่อมวลชนตรวจสอบกรณีชาวบ้านซอยอุทัย หมู่ที่ 5 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จภูเก็ต จับจระเข้ได้ จำนวน 1 ตัว หลังออกไปวางเบ็ดจับปลาในบริเวณขุมเหมืองด้านหลังหมู่บ้านเดอะวันเล่ย์ ซอยคอกหมู โดยที่เกิดเหตุอยู่ที่บ้านเช่าเลขที่ 96/58 บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว มีชาวบ้านจำนวนมากจับกลุ่มกันมุงดูลูกจระเข้น้ำจืดซึ่งถูกล่ามเชือกไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ลูกจระเข้ดังกล่าวมีความยาวประมาณ 120 ซม. หนักประมาณ 20-30 กิโลกรัม สภาพอิดโรยเนื่องจากถูกจับมัดไว้เป็นเวลานาน ชาวบ้านต้องนำน้ำมาฉีดบนตัวเป็นระยะเพื่อไม่ให้ตัวแห้ง พร้อมนำปลามาให้กินเป็นอาหาร
นายทรงวุฒิ กล่าวว่า วันนี้ (19 มิ.ย.) ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนจับลูกจระเข้มาได้จำนวน 1 ตัว จากขุมเหมืองภายในพื้นที่ จึงได้ออกมาตรวจสอบพบว่าเป็นลูกจระเข้จริง ซึ่งหลังจากนี้จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบว่าเป็นจระเข้พันธุ์อะไร ซึ่งโดยส่วนตัวไม่คิดว่าจระเข้ตัวดังกล่าวจะเป็นจระเข้ตามธรรมชาติ คาดว่าน่าจะมีคนเลี้ยงแต่เมื่อโตขึ้นเลี้ยงไม่ไหวจึงนำมาปล่อยในขุมเหมืองดังกล่าวเพื่อให้หากินเอง
ขณะที่ นายชารี ปัดตังทานัง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเจ้าเลขที่ 96/58 ซอยอุทัย หมู่ 5 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พนักงานติดตั้งลิฟต์บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่จับจระเข้ได้ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนายวรรณชัย หาญโสภา ได้ชวนกันไปวางเบ็ดจับปลาที่ขุมเหมืองโดยปกติจะไปวางเบ็ดจับปลาที่ขุมเหมืองดังกล่าวเป็นประจำ แต่เมื่อคืนหลังจากวางเบ็ดเสร็จก็ได้เดินดูรอบขุมเหมืองเพื่อดูว่ามีปลาติดเบ็ดหรือเปล่า ระหว่างที่เดินไปสังเกตเห็นมีตัวอะไรมุดอยู่ใต้ก่อหญ้าจึงใช้ไม้ตี และเข้าไปจับโดยมีเพื่อนรออยู่ริมถนน หลังจับได้ก็คิดว่าน่าจะเป็นตัวเงินตัวทองเนื่องจากมองไม่ถนัดเนื่องจากบริเวณนั้นมืดมาก จึงจับใส่กระสอบนำขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อนำกลับมาที่ห้องพัก
เมื่อมาถึงห้องพักก็เรียกเพื่อนบ้านมาดู แต่เมื่อเปิดกระสอบออกดูก็ต้องตกใจเพราะตัวประหลาดที่จับมานั้นไม่ใช่ตัวเงินตัวทองตามที่คิดไว้ แต่กลับกลายเป็นจระเข้ จึงต้องช่วยกันนำเชือกมาผู้ไว้ เพราะเกรงว่าถ้าปล่อยไปจะเป็นอันตรายต่อประชาชน และเด็กที่อยู่ในบริเวณนั้นได้
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศรีสุนทร นำสื่อมวลชนตรวจสอบกรณีชาวบ้านซอยอุทัย หมู่ที่ 5 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จภูเก็ต จับจระเข้ได้ จำนวน 1 ตัว หลังออกไปวางเบ็ดจับปลาในบริเวณขุมเหมืองด้านหลังหมู่บ้านเดอะวันเล่ย์ ซอยคอกหมู โดยที่เกิดเหตุอยู่ที่บ้านเช่าเลขที่ 96/58 บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว มีชาวบ้านจำนวนมากจับกลุ่มกันมุงดูลูกจระเข้น้ำจืดซึ่งถูกล่ามเชือกไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ลูกจระเข้ดังกล่าวมีความยาวประมาณ 120 ซม. หนักประมาณ 20-30 กิโลกรัม สภาพอิดโรยเนื่องจากถูกจับมัดไว้เป็นเวลานาน ชาวบ้านต้องนำน้ำมาฉีดบนตัวเป็นระยะเพื่อไม่ให้ตัวแห้ง พร้อมนำปลามาให้กินเป็นอาหาร
นายทรงวุฒิ กล่าวว่า วันนี้ (19 มิ.ย.) ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนจับลูกจระเข้มาได้จำนวน 1 ตัว จากขุมเหมืองภายในพื้นที่ จึงได้ออกมาตรวจสอบพบว่าเป็นลูกจระเข้จริง ซึ่งหลังจากนี้จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบว่าเป็นจระเข้พันธุ์อะไร ซึ่งโดยส่วนตัวไม่คิดว่าจระเข้ตัวดังกล่าวจะเป็นจระเข้ตามธรรมชาติ คาดว่าน่าจะมีคนเลี้ยงแต่เมื่อโตขึ้นเลี้ยงไม่ไหวจึงนำมาปล่อยในขุมเหมืองดังกล่าวเพื่อให้หากินเอง
ขณะที่ นายชารี ปัดตังทานัง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเจ้าเลขที่ 96/58 ซอยอุทัย หมู่ 5 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พนักงานติดตั้งลิฟต์บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่จับจระเข้ได้ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนายวรรณชัย หาญโสภา ได้ชวนกันไปวางเบ็ดจับปลาที่ขุมเหมืองโดยปกติจะไปวางเบ็ดจับปลาที่ขุมเหมืองดังกล่าวเป็นประจำ แต่เมื่อคืนหลังจากวางเบ็ดเสร็จก็ได้เดินดูรอบขุมเหมืองเพื่อดูว่ามีปลาติดเบ็ดหรือเปล่า ระหว่างที่เดินไปสังเกตเห็นมีตัวอะไรมุดอยู่ใต้ก่อหญ้าจึงใช้ไม้ตี และเข้าไปจับโดยมีเพื่อนรออยู่ริมถนน หลังจับได้ก็คิดว่าน่าจะเป็นตัวเงินตัวทองเนื่องจากมองไม่ถนัดเนื่องจากบริเวณนั้นมืดมาก จึงจับใส่กระสอบนำขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อนำกลับมาที่ห้องพัก
เมื่อมาถึงห้องพักก็เรียกเพื่อนบ้านมาดู แต่เมื่อเปิดกระสอบออกดูก็ต้องตกใจเพราะตัวประหลาดที่จับมานั้นไม่ใช่ตัวเงินตัวทองตามที่คิดไว้ แต่กลับกลายเป็นจระเข้ จึงต้องช่วยกันนำเชือกมาผู้ไว้ เพราะเกรงว่าถ้าปล่อยไปจะเป็นอันตรายต่อประชาชน และเด็กที่อยู่ในบริเวณนั้นได้