ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พ่อค้าแม่ค้าตลาดสวนหลวงมาร์เก็ตกว่า 50 ราย เดินทางไปยังสำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ เพื่อหารืออัยการช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อน หลังถูกผู้บริหารตลาดรายเก่าลอยแพเงินประกัน หลังโอนสิทธิให้ผู้บริหารตลาดรายใหม่ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเข้าบริหาร
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (4 มิ.ย.) บรรดาพ่อค้าแม่ค้าตลาดสวนหลวงมาร์เก็ต ตั้งอยู่บริเวณ ถ.เจ้าฟ้า ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวนกว่า 50 ราย นำโดย นายวิทยา นนท์วัฒนกุล เดินทางมาที่สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งอยู่ภายในสำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต เพื่อพบกับนายกิตติพงศ์ ตีรณัตถพงศ์ อัยการจังหวัดภูเก็ต เพื่อมาร่วมไกล่เกลี่ยปัญหากรณีที่ นายวิภาส ภัทรภูมิถาวร อดีตผู้บริหารตลาดเบนซี่ มอลล์ ติดค้างค่าชำระเงินค่าประกันของผู้ค้าภายในตลาด จำนวนทั้งสิ้น 388 ราย หลังโอนกรรมสิทธิ์ให้เจ้าของพื้นที่คือ บริษัทโกข่าย จำกัด ดูแลกรรมสิทธิ์ทั้งหมด เพราะการบริหารขาดสภาพคล่อง
โดยหลังจากที่บริษัทโกข่าย จำกัด เข้ามาบริหารงานต่อก็ได้มีปรับปรุงพื้นที่ และเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ภายในตลาดหลายครั้ง และมีการร่างสัญญาเช่าฉบับใหม่ และแจ้งให้พ่อค้าแม่ค้าทุกรายไปเซ็นสัญญาใหม่ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2556 มิฉะนั้นจะมีการดำเนินการทางกฎหมาย จึงเกิดความเดือดร้อนดังกล่าวขึ้น
นายวิทยา นนท์วัฒนกุล พ่อค้าในตลาดสวนหลวงมาร์เก็ต กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ประกอบการที่เช่าแผงอยู่ในตลาดนัดแห่งนี้มีปัญหามาก เนื่องจากสัญญาที่ทำเอาไว้กับเจ้าของกิจการรายเดิม ซึ่งเป็นเงินประกันนั้นยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับคืน มิหนำซ้ำ ภายในวันที่ 15 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ต้องเข้าไปเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับผู้บริหารชุดใหม่ ทั้งๆ ที่สัญญาเดิมจะหมดประมาณสิ้นปีนี้ เมื่อสอบถามไปทาง นายวิภาส ที่เป็นผู้บริหารตลาดตอนแรก กลับได้รับคำตอบแค่ว่าตอนนี้โอนสิทธิไปแล้ว ผู้บริหารรายใหม่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องเงินประกัน ตอนนี้พ่อค้าแม่ค้าทุกคนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงต้องมาร้องเรียนที่สำนักงานอัยการ
“เงินค่าสัญญาร้านค้านั้นพ่อค้าบางคนก็จ่ายไป 100,000 บาทต่อปี บางรายก็จ่ายไป 300,000 บาทต่อ 3 ปี ให้แก่เจ้าของรายเก่า แต่พอเปลี่ยนมือผู้บริหารก็มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด โดยไม่ถามพ่อค้าแม่ค้าสักคำ แถมยังบีบให้รีบไปเซ็นสัญญาฉบับใหม่ภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ หากใครไม่เซ็นหลังจากนั้นก็ไปคุยกับทนายอย่างเดียว” นายวิทยากล่าว
ขณะที่ นายวิภาส ภัทรภูมิถาวร อดีตประธานบริษัทเบนซี่ มอลล์ กล่าวผ่านทางโทรศัพท์มือถือระหว่างการประชุมไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่ายว่า โครงการตลาดสวนหลวงมาร์เก็ตในปัจจุบันนั้น ช่วงก่อตั้งตลาดกู้เงินจากธนาคารมาลงทุนประมาณร้อยละ 80 ของการก่อสร้างโครงการทั้งหมด จากนั้นมีการเรียกเก็บเงินค่าเช่าแผง หรือพื้นที่ขายของจากพ่อค้าแม่ค้าที่สนใจจะมาค้าขายที่ตลาดแห่งนี้เป็นจำนวนเงินประมาณ 12 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัญญาที่ทางบริษัทฯ ได้ทำไว้กับผู้ค้า ส่วนเงินค่าประกัน เบื้องต้นมีการเรียกเก็บจากพ่อค้าแม่ค้าทั้งหมดกว่า 338 ราย จำนวน 4 ล้านกว่าบาท แต่เนื่องจากบริษัทตนประสบปัญหาทางการเงิน จึงต้องโอนกรรมสิทธิ์การเช่าทั้งหมดให้แก่ บริษัทโกข่าย จำกัด เข้ามาทำหน้าที่บริหารต่อไป ดังนั้น ตนเองจึงหมดหน้าที่การดำเนินการแล้ว
ด้าน นายกิตติพงศ์ ตีรณัตถพงศ์ อัยการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะเชิญทั้งฝ่ายพ่อค้าแม่ค้า และฝ่ายอดีตผู้บริหารตลาดดังกล่าวมาหาทางไกล่เกลี่ย เนื่องจากผู้ค้ายังติดใจเรื่องเงินค้ำประกัน ขณะที่บางรายยังเกิดปัญหาคือ แผงที่ตัวเองเช่า กลับมีคนอื่นมาสวมสิทธิเช่าด้วย ซึ่งทางอดีตผู้บริหารตลาดก็พร้อมชดเชยเงินคืน แต่ยังได้ไม่ครบ ประกอบกับทางอัยการไม่มีอำนาจที่จะมาตัดสิน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ ก็ไม่ได้เดินทางมาด้วย ดังนั้น จึงมีการนัดหารือกันอีกรอบในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เป็นการไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ค้าในตลาดกับผู้บริหารตลาดรายใหม่ ขณะที่ในช่วงวันที่ 27 มิ.ย.นี้ก็จะเป็นการเรียกพูดคุยระหว่างผู้ค้า กับ นายวิภาส อดีตผู้บริหารตลาดฯ เพื่อหาทางออกร่วมกันในกรณีเงินค้ำประกันว่าใครจะเป็นผู้จ่าย อีกทั้งยังเป็นการหารือเกี่ยวกับสัญญาค่าเช่าฉบับใหม่ที่ผู้ค้าส่วนใหญ่มองว่าไม่มีความยุติธรรม
