ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้อำนวยการฯ ตลาดสวนหลวงออกโรงโต้ผู้ค้า ยันไม่ได้รับเงินจากอดีตผู้บริหารตลาดชุดเก่า และไม่เคยเห็นสัญญาที่ระบุว่าโอนทุกอย่างมาให้บริษัทโกข่ายฯ รับผิดชอบ พร้อมเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าขายฟรี 1 ปีโดยไม่เสียค่าเช่า
สืบเนื่องจากกรณีที่พ่อค้าแม่ค้าตลาดสวนหลวงมาร์เก็ตภูเก็ต ตั้งอยู่บริเวณ ถ.เจ้าฟ้า ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เดินทางไปเรียกร้องที่สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจังหวัดภูเก็ต เมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.) เพื่อขอไกลเกลี่ยกรณีที่อดีตผู้บริหารตลาดเบนซี่ มอลล์ ติดค้างค่าชำระเงินค่าประกันของผู้ค้าภายในตลาด หลังโอนกรรมสิทธิ์ให้เจ้าของพื้นที่คือ บริษัทโกข่าย จำกัด ดูแลกรรมสิทธิ์ทั้งหมด รวมทั้งการที่บริษัทโกข่ายฯ มีการร่างสัญญาเช่าฉบับใหม่ และแจ้งให้พ่อค้าแม่ค้าทุกรายไปเซ็นสัญญาใหม่ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2556 นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (5 มิ.ย.) นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นางสาวณัฎฐนิษฐ์ นิธิวิรุฬห์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ และผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจตลาดสวนหลวงมาร์เก็ตภูเก็ต ได้แถลงข่าวถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดย นายภูมิกิตติ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556 ที่ผ่านมา ทางบริษัทโกข่าย จำกัด ได้เข้ามาดูแลตลาดสวนหลวงมาร์เก็ตฯ ต่อจาก นายวิภาค ภัทรภูมิถาวร อดีตผู้บริหารตลาดดังกล่าว โดยได้ใช้งบลงทุนเบื้องต้นประมาณ 30 ล้านบาท พัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ พร้อมปรับปรุงร้านค้าทั้งหมดกว่า 300 ร้าน ให้ดูดีขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังทุ่มเงินอัดแคมเปญกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ตลาดสวนหลวงกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านั้นไม่ค่อยมีประชาชนเดินทางเข้ามาซื้อของ
ส่วนกรณีเรื่องสัญญาเช่า และเงินค้ำประกันที่ผู้ค้าได้เซ็นสัญญาไว้กับผู้บริหารชุดเก่านั้น นายภูมิกิตติ์ กล่าวต่อว่า ทางบริษัทโกข่ายฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ นายวิภาค ในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากอดีตผู้บริหารชุดเก่าไม่สามารถพัฒนาตลาดแห่งนี้ให้เดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้น ทางบริษัทโกข่าย จึงเข้ามาควบคุม และบริหารตลาดต่อไป ส่วนเรื่องรายละเอียดของเงินค้ำประกัน รวมทั้งสัญญาฉบับเก่านั้นยืนยันทางบริษัทไม่ได้รับเงินเหล่านี้
“ลองคิดดูเล่นๆ หากเป็นคุณจะรับหรือไม่ หากมีคนยกบริษัทให้พร้อมหนี้เสียจำนวนมาก เป็นคนที่มีสติจะรับไว้หรือไม่ ส่วนสัญญาที่มีการนำมาแจกจ่ายชาวบ้านกรณีที่อดีตผู้บริหารร่างขึ้นมาให้โอนกรรมสิทธิ์ทุกอย่างไปให้แก่บริษัทโกข่ายนั้น เอกสารฉบับนี้ผมไม่เคยเห็น และเพิ่งรู้วันนี้นี่เอง ก็ยังงงว่าสัญญาที่มีลายเซ็นของอดีตผู้บริหารคนเดียว แต่ทางฝั่งบริษัทโกข่ายไม่ได้เซ็น จะนำมาอ้างอิงให้พ่อค้าแม่ค้าดูได้อย่างไร” ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการตลาดกล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทโกข่ายฯ ได้มีการช่วยพ่อค้าแม่ค้ารายเก่าทุกราย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ค้าทุกรายตั้งแผงขายสินค้าโดยไม่ต้องเสียค่าเช่า เป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.2556 จนถึงวันที่ 14 มิ.ย.2557 เพียงแค่เดินทางมาทำสัญญาฉบับใหม่กับทางบริษัทโกข่ายเท่านั้น ส่วนกรณีที่ผู้ค้าบางรายได้ทำสัญญาล่วงหน้ากับผู้บริหารชุดเก่าเป็นระยะเวลาถึง 3 ปี ก็ต้องมาคุยกันเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งทางบริษัทฯ ต้องการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ หรือต้องการเอารัดเอาเปรียบผู้ค้า
“ส่วนหากมีการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ค้ารายเก่ากับทางบริษัทในวันที่ 13 มิ.ย.นั้น ตนยืนยันจะไปอย่างแน่นอน ขอให้นัดวันเวลาที่ชัดเจน เพราะต้องการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ เนื่องจากรู้สึกสงสารพ่อค้าแม่ค้า บางรายเก็บเงินมาทั้งชีวิตกลับต้องมาเจอแบบนี้ ดังนั้น จากนี้ทางตนจะเข้ามาแก้ไขปัญหาพร้อมพัฒนาตลาดแห่งนี้อย่างจริงจัง แต่ทั้งนี้ผู้ค้าต้องมาทำสัญญาฉบับใหม่ก่อน เพื่อทำให้ตลาดเดินหน้าต่อไปได้ และร่วมกันพูดคุยหาทางออกให้ดีที่สุด” นายภูมิกิตติ์ กล่าว
ด้าน นางสาวณัฎฐนิษฐ์ นิธิวิรุฬห์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจตลาดสวนหลวง กล่าวว่า ต้องการให้ตลาดเดินหน้าต่อไป ซึ่งทางบริษัทฯ ก็พยายามชี้แจง เจรจาไกล่เกลี่ย เนื่องจากทีมผู้บริหารต้องการช่วยเหลือผู้ค้าจริงๆ ดังนั้น จึงต้องลงพื้นที่ไปพูดคุยกับร้านค้าทุกวัน ประกอบกับอยากจะทำให้ตลาดแห่งนี้เป็นของคนภูเก็ต รวมทั้งเป็นสถานที่ให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายซื้อของให้เหมือนกับที่ผ่านมา ดังนั้น จึงอยากขอความเห็นใจจากผู้ค้ามาร่วมกันสร้างตลาดให้เติบโตไปด้วยกัน
