พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดบริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 ว่า ได้กำชับตำรวจในพื้นที่ให้เร่งรัดคดี แต่ว่าข้อมูลยังสาวไปไม่ถึงตัวผู้ต้องสงสัย ส่วนการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเท่าที่ดูยังไม่ชัดเจน คาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้จะได้ความชัดเจนมากขึ้นว่า มีใครเป็นผู้ต้องสงสัยนำระเบิดไปวางไว้ ส่วนที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออกมาระบุว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดๆ ออกไป ทั้งเรื่องของกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือว่าการสร้างสถานการณ์ แต่ทั้งนี้ต้องดูที่พยานหลักฐาน หากมีความชัดเจนเรื่องใดจะมุ่งไปทางนั้น
ส่วนมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยทั่วพื้นที่ ยืนยันว่า ได้สั่งให้ทุกพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มความเข้มงวดทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะ 9 จุดเท่านั้น มีรายงานว่า ชุดสืบสวนนครบาลที่รับผิดชอบตรวจสอบกล้องวงจรปิดได้ภาพชายต้องสงสัยว่า เป็นผู้นำระเบิดไปวางไว้ แต่ว่ายังไม่ชัดเจน กำลังเร่งขยายไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดอื่นๆ เพื่อดูว่าชายคนดังกล่าวมาจุดเกิดเหตุได้อย่างไร และขณะนี้ชุดสืบสวนของทั้งตำรวจนครบาล และชุดสืบสวนนครบาล 4 กำลังเร่งทำงานกันอยู่
ส่วนประเด็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้มีอิทธิพลกลุ่มเก่ากับกลุ่มใหม่ เรื่องการเรียกเก็บค่าคุ้มครองแผงค้าที่จะนำไปสู่การก่อเหตุนั้น ชุดสืบสวนมองว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะว่าจุดตรงนี้ราคาค่าเช่าแผงไม่แพงนักต่างกับจุดอื่นที่มีราคาสูง และจากข้อมูลที่ผ่านมากลุ่มผู้มีอิทธิพลในย่านนี้ไม่นิยมที่จะใช้ระเบิดในการแก้ปัญหา หรือถ้าหากจะใช้น่าจะใช้ระเบิดแบบมาตรฐานที่ใช้กันอยู่แบบปัจจุบัน เช่น ระเบิดลูกเกลี้ยง ไม่น่าจะเสียเวลาประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ดังนั้นเรื่องนี้น่าจะมีอะไรมากกว่าที่เห็น ทั้งความพยายามโยงความขัดแย้งในภาคใต้ และการสร้างสถานการณ์เรื่องของการเมือง
ส่วนมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยทั่วพื้นที่ ยืนยันว่า ได้สั่งให้ทุกพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ เพิ่มความเข้มงวดทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะ 9 จุดเท่านั้น มีรายงานว่า ชุดสืบสวนนครบาลที่รับผิดชอบตรวจสอบกล้องวงจรปิดได้ภาพชายต้องสงสัยว่า เป็นผู้นำระเบิดไปวางไว้ แต่ว่ายังไม่ชัดเจน กำลังเร่งขยายไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดอื่นๆ เพื่อดูว่าชายคนดังกล่าวมาจุดเกิดเหตุได้อย่างไร และขณะนี้ชุดสืบสวนของทั้งตำรวจนครบาล และชุดสืบสวนนครบาล 4 กำลังเร่งทำงานกันอยู่
ส่วนประเด็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้มีอิทธิพลกลุ่มเก่ากับกลุ่มใหม่ เรื่องการเรียกเก็บค่าคุ้มครองแผงค้าที่จะนำไปสู่การก่อเหตุนั้น ชุดสืบสวนมองว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะว่าจุดตรงนี้ราคาค่าเช่าแผงไม่แพงนักต่างกับจุดอื่นที่มีราคาสูง และจากข้อมูลที่ผ่านมากลุ่มผู้มีอิทธิพลในย่านนี้ไม่นิยมที่จะใช้ระเบิดในการแก้ปัญหา หรือถ้าหากจะใช้น่าจะใช้ระเบิดแบบมาตรฐานที่ใช้กันอยู่แบบปัจจุบัน เช่น ระเบิดลูกเกลี้ยง ไม่น่าจะเสียเวลาประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ดังนั้นเรื่องนี้น่าจะมีอะไรมากกว่าที่เห็น ทั้งความพยายามโยงความขัดแย้งในภาคใต้ และการสร้างสถานการณ์เรื่องของการเมือง