“เหลิม” ฝาก “สุวัตร” มีเบาะแส เสธ.อุ้มฆ่า “เอกยุทธ” โทร.มาได้ ป้องลูกน้องไม่ผิดคดีอุ้มทนายสมชาย

รองนายกฯ ลั่นไม่รีบปิดคดีอุ้ม “เอกยุทธ” ยันหลักฐานยันไม่โยง เสธ.คนดัง ฝาก “สุวัตร” มีเบาะแสกริ๊งกร๊างหาตนได้ ออกตัวบทขี้ข้าป้อง “ทักษิณ” ไม่เกี่ยวข้อง บอกถ้าโหดเหี้ยมจริงคนไทยเหลือไม่ถึง 64 ล้าน รับ “ชัดชัย เลี่ยมสงวน” อดีตผู้ต้องหาอุ้ม “ทนายสมชาย” ร่วมทำคดีเป็นลูกน้องตัวเอง แต่แถยกฟ้องแล้วไม่ผิด


วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการสอบสวนคดีอุ้มฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง และเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ที่มีความกังวลว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจเร่งปิดคดีว่า ในคดีอาญาต้องยึดหลักสืบสวนสอบสวน ต้องยึดหลักประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดีความอาญา และกฎหมายลักษณะพยาน วันนี้ตำรวจทำไปค่อนข้างเบ็ดเสร็จ แต่เมื่อยังมีคนคลางแคลงใจว่าน่าจะมีที่มาด้วยเหตุอื่นๆ ตนจึงจะหารือกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในวันที่ 14 มิ.ย. เวลาประมาณ 16.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะให้พยายามตรวจสอบพยานแวดล้อม เบาะแสที่มีคนแจ้งมาเพิ่ม

ส่วนกรณีที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ ระบุว่ามีคนอื่นเกี่ยวข้องอีก และอ้างว่าถูกสั่งฆ่า และมีผู้มีอิทธิพลระดับ เสธ.เกี่ยวข้องนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ยืนยันว่าพยานหลักฐานเบื้องต้นยังไม่มีชื่อเชื่อมโยง เมื่อไม่มีเชื่อมโยงลำพังตำรวจเองจะไปเรียกใครมาไม่ได้ เพราะตำรวจยังไม่สงสัย แต่ขณะเดียวกัน เราไม่ได้ปิดกั้น หากนายสุวัตรมีเบาะแสและหลักฐานให้บอกตำรวจ ถ้าไม่บอกตำรวจสามารถโทรศัพท์หาตนได้ หรือจะนัดหมายไปพบที่ไหนก็ได้จะนำพนักงานสอบสวนที่ดำเนินการเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นไปด้วย หากหลักฐานน่าเชื่อถือจับต่อ ส่วนที่ระบุถึง เสธ.คนดัง ทางนายสุวัตรก็มีสิทธิ์สงสัย และตำรวจก็รับฟัง เช่นเดียวกับที่บอกว่านายสันติภาพเคยเป็นอดีตเด็กเสธ.คนดัง ก็ต้องสอบต่อไป

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวด้วยว่า ตนเห็นพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้แล้วขาดความเข้าใจ ไม่รู้เรื่องการทำสำนวนคดีสอบสวน ซึ่งตำรวจต้องแถลงตามข้อเท็จจริงที่พึงมีอยู่ มีแค่ไหนต้องบอกเท่านั้น บางครั้งความลับในสำนวนเป็นความลับที่ยังบอกไม่ได้ เพราะจะกระทบต่อพยานหลักฐาน พรรคประชาธิปัตย์ขาดความเข้าใจ ไม่ควรแสดงความคิดเห็นให้ประชาชนสับสน อย่างไรก็ตาม สมมติมีคนอื่นเกี่ยวข้อง รัฐบาลจะละเว้นและปกป้องทำไม ยืนยันรัฐบาลไม่ได้ทำเองและไม่ได้วางแผน เพราะตนไม่นิยมความรุนแรง ขอย้ำว่าเมืองไทยคือเมืองพุทธ บ้านเมืองมี 3 กฎ คือ 1. กฎธรรมชาติ 2. กฎหมาย และ 3. กฎแห่งกรรม ไม่มีใครเลี่ยงได้ โดยเฉพาะกฎแห่งกรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการปิดคดีนี้ได้รวดเร็วหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า หากมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมไม่จำเป็นต้องรีบปิด และเราสามารถนำผู้ต้องหาไปฝากขังก่อนได้ หากใครส่งเบาะแสมาต้องสอบต่อ ตนจะบอก ผบ.ตร. และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ว่าอย่าเพิ่งไปรีบปิด

เมื่อถามว่า มองพฤติการณ์การเปลือยกายศพนายเอกยุทธอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่เห็นสภาพศพ แต่คดีประทุษร้ายชีวิตและร่างกายจะต้องละเอียด ต้องดูสภาพศพ แม้แต่หัวไปทิศไหนยังต้องดู เพราะคนร้ายบางคนถือเคล็ด โดยเฉพาะโจรเมืองไทยไม่ธรรมดา ส่วนคดีนี้จะเกี่ยวกับเคล็ดหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ

เมื่อถามต่อว่า มองดูพฤติการณ์คนร้ายแล้วเป็นมืออาชีพหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า อันดับแรกตนมองว่าประสงค์ต่อทรัพย์และเป็นคนโหดเหี้ยม ไม่เป็นมืออาชีพจะโหดร้ายอย่างนี้หรือ นายเอกยุทธไม่ยอมเช็กประวัตินายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถ ที่มีคดีติดตัวมากมาย ขณะที่นายเบิ้มที่กำลังหลบหนีอยู่นั้น เชื่อว่าสุดท้ายหนีไม่รอด ต้องมามอบตัว

เมื่อถามว่า เหตุใดตำรวจจึงไม่พูดประเด็นเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดบ้านนายเอกยุทธที่หายไป ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น แต่หากมีประเด็นที่ดูสงสัยจะสอบหมด จะไม่รีบสรุป หรือปิดคดีแน่นอน

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีคนที่เจ็บแค้นแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เลยลงมือแทน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “หากทักษิณเป็นคนโหดเหี้ยม คนไทยเหลือไม่ถึง 64 ล้านหรอก ไม่มีหรอก ท่านถูกปฏิวัติ เข้าประเทศไม่ได้ มีคนกล่าวหาต่างๆ ดังนั้นไม่มีหรอก ท่านเป็นคนใจดี”

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.ดส. เดิมชื่อ ชัดชัย เลี่ยมสงวน ที่จับนายสันติภาพเคยเป็นผู้ต้องหาในคดีนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายมุสลิม รองนายกฯ กล่าวว่า “ศาลยกฟ้องแล้วเขาไม่ผิด ไอ้ชัด ลูกน้องผม”