ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หมอชนบท 7 จังหวัดใต้ล่าง ยันไม่เอา P4P ลั่นปลด “ประดิษฐ” ออกจากเก้าอี้ รมว.สาธารณสุข เผยจะมีการเจรจากับรัฐบาลในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ หากไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้อง เตรียมยกทัพเปิดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และชุมนุมยืดเยื้อที่หน้าบ้าน “นายกฯ ปู”
จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศใช้นโยบายจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน หรือ “P4P” (Pay for Performance) จนเป็นที่มาของการรวมตัวคัดค้านจากแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชนทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งการประกาศปลด นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการ องค์การเภสัชกรรม ซึ่งเป็นต้นแบบโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ออกจากตำแหน่ง รวมทั้งการยุบ และแทรกแซงหน่วยงานตระกูล ส.ได้แก่ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ. หรือสายด่วน 1669), สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (สวปก.) และล่าสุด มีการตั้งกรรมการสอบ นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช. นั้น สร้างความปั่นป่วนในแวดวงสาธารณสุข และระบบสุขภาพอย่างยิ่ง
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (3 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม โรงไฟฟ้าจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา เครือข่ายแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ จากโรงพยาบาลชุมชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง จึงรวมตัวกันจัดสัมมนาหัวข้อ “โรงพยาบาลชุมชนคัดค้านไม่เอา P4P ทำไม เพราะอะไร” เพื่อทำความเข้าใจกับทุกกลุ่มวิชาชีพในโรงพยาบาลชุมชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เรื่องการประกาศไม่ทำ P4P และขอให้กลับไปใช้นโยบายเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย รวมทั้งกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของโรงพยาบาลชุมชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง และออกแถลงการณ์ยืนยันเจตนารมณ์ ดังนี้
“ชมรมแพทย์ชนบท และโรงพยาบาลชุมชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ขอยืนยันข้อเรียกร้องที่ลดหย่อนไม่ได้เลยของแพทย์ชนบท และเครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน คือ
1.ต้องยกเลิกนโยบาย P4P สำหรับโรงพยาบาลชุมชนโดยสิ้นเชิง แล้วเอาระบบเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายตามประกาศฉบับที่ 4 และ 6 กลับมาใช้เช่นเดิม รวมทั้งการปรับเพิ่มอัตราค่าตอบแทนสำหรับวิชาชีพอื่นที่นอกเหนือจากแพทย์ และทันตแพทย์ด้วย เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน และลดปัญหาสมองไหลจากโรงพยาบาลชุมชน ทั้งนี้ จะไม่มีการเจรจารายละเอียดใดๆ เรื่อง P4P ทั้งสิ้น
2.รัฐบาลต้องเปลี่ยนตัว รมว.สาธารณสุข ปลด นพ.ประดิษฐ สินธุวรงค์ ออกจากการเป็นรัฐมนตรี และมอบหมายให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.กระทรวงสาธารณสุข รักษาการแทน และให้เป็นผู้แทนการเจรจาในฝั่งกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้การเจรจาดำเนินไปได้ ทั้งนี้ เพราะ นพ.ประดิษฐ สินธุวรงค์ เป็นโมฆบุรุษ และเป็นเชื้อโรคร้ายที่บ่อนทำลายระบบสุขภาพ จึงไม่อาจให้มาทำหน้าที่ตัวแทนฝ่ายกระทรวงสาธารณสุขได้”
สำหรับกรณีที่จะมีการเจรจาระหว่างชมรมแพทย์ชนบท และตัวแทนรัฐบาล ในวันที่ 4-6 มิ.ย.นี้ นพ.รอซาลี ปัตยบุตร ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลรามัน จ.ยะลา กล่าวย้ำว่า การที่ผู้แทนนายกรัฐมนตรี คือ นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขานายกรัฐมนตรี และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาขอร้องให้ชมรมแพทย์ชนบทร่วมเจรจานั้น ไม่ได้แปลว่าชมรมแพทย์ชนบท และโรงพยาบาลชุมชนทั้งหมดจะยุติความเคลื่อนไหวในการชุมนุมที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ทางชมรมแพทย์ชนบท โดยเฉพาะแพทย์ชนบท และโรงพยาบาลชุมชนใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ยังพร้อมที่จะออกมาให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรีทุกวันด้วย และพร้อมที่จะชุมนุมยืดเยื้อต่อไปหากการเจรจาไม่นำไปสู่การตอบสนองข้อเรียกร้องทุกข้อ
“การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้เพื่อพิทักษ์ระบบสุขภาพไม่ให้ทุนสามานย์ยึดครองไป เป็นการต่อสู้เพื่อระบบสุขภาพที่เอื้อประโยชน์แก่การดูแลสุขภาพทุกคนในสังคมไทย ไม่ใช่เฉพาะคนจน และคนชนบท แต่เป็นบทบาทที่การแพทย์เพื่อสังคมต้องยืนหยัดต่อสู้ และขอเชิญคนไทยทั้งประเทศติดตาม และเข้าร่วมการปกป้องระบบสุขภาพไทยในครั้งนี้ด้วย” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามัน กล่าว
ขณะเดียวกัน นพ.สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ณ อำเภอนาทวี จ.สงขลา เปิดเผยว่า หากการเจรจาในวันที่ 4 และ 6 มิ.ย.นี้ไม่เป็นผล จะมีเครือข่ายต่างๆ เคลื่อนพลไปชุมนุมที่หน้าบ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ทั้งชมรมแพทย์ชนบท เครือข่ายโรงพยาบาลชุมชน เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กลุ่มวิชาชีพ สหภาพรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม และกลุ่มผู้ป่วยต่างๆ
“ผมคิดว่านี่เป็นสิทธิอันชอบธรรมในการชุมนุมโดยสงบตามหลักรัฐธรรมนูญ เพราะ P4P และสิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน เราต้องประเมินสถานการณ์กันวันต่อวันว่านายกรัฐมนตรีมีความจริงใจในการแก้ปัญหานี้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ หลังการเจรจาในวันที่ 4 และ 6 มิ.ย. การตอบรับข้อเสนอของกลุ่มต่างๆ จะต้องเป็นไปในทางที่ดี และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน มิฉะนั้น ก็จะมีการเคลื่อนไหวจากทั่วทุกภาค โดยเฉพาะการต่อต้านคัดค้าน P4P จากคนที่ทำงานในพื้นที่ชนบท” นพ.สุวัฒน์กล่าว
