xs
xsm
sm
md
lg

หน้ากากขาวลุกฮือ ต้านแม้วพรึ่บราชประสงค์ พท.ส่งหน้ากากแดงชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"หน้ากากขาว" ลุกฮือไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์-ล้มระบอบทักษิณแน่นสี่แยกราชประสงค์ เคลื่อนขบวนไปหอศิลป์ ด้านเพื่อไทยขู่เอาผิดทางกฎหมาย ก่อนส่ง "หน้ากากแดง" ป่วนใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม โชคดีไม่มีปะทะ ขู่จะเหมือนน้ำผึ้งหยดเดียว "นพเหล่" เย้ย "ไทยสปริง" แน่จริงไม่ต้องใส่หน้ากาก อ้างไม่มีระบอบทักษิณมีแต่มรดกทางนโยบายที่เป็นประโยชน์

เมื่อบ่ายวานนี้ ( 2 มิ.ย.) กลุ่มหน้ากากขาว หรือ กลุ่มผู้สวมหน้ากาก กาย ฟอว์กส กว่า 1,000 คน รวมตัวกันชุมนุม และร่วมเดินขบวน จากบริเวณหน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ ขึ้นสกายวอล์ก ไปยังศูนย์การค้าสยามพารากอน ตามยุทธการประกาศศักดา รวมพลใหญ่คนหน้ากากเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านระบอบทักษิณ ต่อต้านระบอบเผด็จการรัฐสภา และคอร์รัปชั่น โดยประชาชนที่เข้าร่วม ส่วนใหญ่ได้ชูป้ายข้อความ แล ะตะโกนต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่ยอมรับระบบทุนสามานย์ และเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตย ที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก

ทั้งนี้ ผู้มาร่วมชุมนุมส่วนใหญ่ มองว่า รัฐบาลกำหนดนโยบายเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับนักการเมือง และผลักดันกฎหมายเพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงเรื่องปากท้องของประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ชุมนุมต่างตะโกนโห่ร้องว่า "ยิ่งลักษณ์ออกไป" อยู่เป็นระยะ พร้อมกับชูป้ายข้อความต่อต้านรัฐบาล อาทิ "ล้มล้างระบอบชินวัตร" หรือ "กองทัพประชาชน ล้มล้างระบอบทักษิณทุนสามานย์" ขณะเดียวกันระหว่างการเดินขบวน ได้มีการแจกจ่ายหน้ากากขาวที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม และใบปลิวที่มีข้อความขับไล่นายกฯ แก่ประชาชนที่สนใจมามุงดูการชุมนุมครั้งนี้ตลอดเส้นทาง ที่มีการเดินขบวน และเมื่อมาถึงบริเวณลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ทางผู้ชุมนุมได้ร้องเพลงปลุกใจ และเพลงชาติไทย ก่อนจะเสร็จสิ้นการชุมนุมในเวลา 15.00 น. ด้วยความสงบเรียบร้อย

สำหรับกลุ่มหน้ากากขาว เป็นกลุ่มที่ไม่มีแกนนำ แต่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคลในสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลเนตเวิร์ก ซึ่งการแสดงจุดยืนครั้งนี้เป็นการขับเคลื่อนครั้งที่ 2 ภายหลังจากได้เดินขบวนไปครั้งแรก เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ถนนสีลม

ส่วนกลุ่มหน้ากากแดง ที่เกิดขึ้นตามหลังกลุ่มหน้ากากขาวในโซเชียลมีเดีย เพื่อตามแก้ไข ตอบโต้ข้อความที่กลุ่มหน้ากากขาวโพสต์ โดยมีจุดยืนที่ชัดเจนว่าสนับสนุน ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาล ซึ่งในวันเดียวกันนี้ ( 2 พ.ค.) กลุ่มหน้ากากแดง ได้นัดรวพลังที่ย่านสยามสแควร์ เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ ได้มีกลุ่มคนสวมหน้ากากสีแดง ประมาณ 20 คน ที่นัดรวมตัวกันจากแฟนเพจ "อุลตร้าแดง แดงสยิว" ได้มาชุมนุมที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม โดยมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ต่อต้านผู้ที่สวมหน้ากากสีขาว ด้วยการชูป้ายข้อความ อาทิ "ปกป้องสถาบัน ชาติ ประชาชน"

นายปกรณ์ พรชีวางกูร เจ้าของเพจ "อุลตร้าแดง แดงสยิว" กล่าวว่า การรวมตัวครั้งนี้ ก็เพื่อต่อต้านกลุ่มที่ใช้หน้ากากสีขาว ซึ่งในยุโรปมีความหมายถึงการล้มล้างการปกครอง และสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยรับไม่ได้ พวกตนในนามกลุ่มเสรีชนเฟซบุ๊ก จึงอยากจะบอกว่า นี่เป็นสิ่งไม่สมควร โดยจากนี้กลุ่มหน้ากากแดงก็จะดำเนินการคู่ขนานกันไป จนกว่าจะมีการยกเลิกใช้สัญลักษณ์หน้ากากขาว

ทั้งนี้กลุ่มหน้ากากแดง ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ กลุ่มนปช. หรือมีเป้าหมายเพื่อปกป้องหนุนหลังรัฐบาลแต่อย่างใด เพียงแต่ขอให้ระบอบการปกครองเป็นไปด้วยระบบ ระเบียบที่ชัดเจน
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลงชาติ ก่อนจะสลายตัวไปในเวลา 18.00 น. โดยไม่มีการเคลื่อนที่ โดยมีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยสังเกตการณ์ และดูแลความเรียบร้อยโดยรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่กลุ่มหน้ากากแดงชุมนุมอยู่ ได้มีชายใส่หน้ากากสีขาวอยู่บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม โบกมือทักทายลงมาด้านล่าง โดยกลุ่มหน้ากากแดงได้โบกมือ และได้ส่งเสียงตอบโต้ แต่ก็ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด

**คาดสิงหาฯแดง-ขาวตะลุมบอน

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics)กล่าวว่า กระแสการต่อสู้ทางการเมืองที่เข้มข้นในสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมิเดีย โดยเฉพาะกรณีหน้ากากขาว และหน้ากากแดง ที่เริ่มเดินออกจากชุมชนออนไลน์ ลงสู่ถนนทั้ง 2 ฝ่าย นั้น ในช่วงนี้ยังไม่น่าห่วงเท่าไหร่นัก เพราะต่างสร้างพื้นที่ของตัวเอง เพื่อชิงนิยาม ให้ความหมาย และรณรงค์ทางสังคมเพื่อหาแนวร่วม
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ จุดที่อาจเผชิญหน้ากันได้ จนถึงขั้นถอดหน้ากากใช้ความรุนแรงกันนั้น จะเป็นช่วงเปิดสภาสมัยสามัญ เพราะมีเรื่องที่เป็นเผือกร้อนหลายเรื่องทั้ง ร่าง พ.ร.บ..ปรองดอง นิรโทษกรรม เงินกู้ 2 ล้านฯ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

"จริงๆ แล้วการแสดงออกของขบวนการหน้ากากขาว เป็นการแสดงออกอย่างสันติวิธี ที่จะปฏิเสธรัฐบาล ไม่น่ากลัวอะไร แต่การจัดตั้งหน้ากากแดงขึ้นมา เพื่อปกป้องรัฐบาลนั้นเป็นการสร้างบรรยากาศการเผชิญหน้าขึ้น"
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย จะต้องระมัดระวังไม่เติมเชื้อไฟความขัดแย้งจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง โดยเฉพาะการจัดตั้งหน้ากากแดง เพื่อมาเผชิญหน้ากับหน้ากากขาวนั้น ยิ่งไปตอกย้ำความแตกแยกระหว่างมือตบ กับตีนตบ ที่มีมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ สัญลักษณ์ของการต่อสู้ มีสิทธิออกแบบกันได้ทุกฝ่าย แต่ต้องไม่มุ่งหมายให้เผชิญหน้า กับอีกฝ่าย เช่น กรณีตีนตบ กับหน้ากากแดงนั้น เน้นการท้าทายเกินไป

**พท.ขู่ดำเนินคดีกลุ่มไล่รัฐบาล

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงการโพสต์ข้อความโจมตีรัฐบาล ของกลุ่มคนที่เห็นต่างทางการเมือง ว่าปรากฏการณ์ดังกล่าว น่าจะสอดคล้องกับกลุ่มนายแก้วสรร อติโพธิ แกนนำกลุ่มไทยสปริง และไปสอดคล้องกับการเคลื่อนไหว เดินหน้าผ่าความจริง ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ จ.สุพรรณบุรี

อย่างไรก็ตาม การเห็นต่างทางการเมืองสมารถทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ขอให้การดำเนินการทางการเมืองต้องยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก การออกมาแสดงความคิดเห็นไม่ควรบิดเบือน อาจทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมารอบใหม่ การกล่าวหาที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล การกล่าวหาเช่นนี้ พรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ อาจใช้สิทธิ์ดำเนินการเรียกร้องเอาผิดทางกฎหมายได้

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่มหน้ากากขาว ที่ต่อต้านการทำงานของรัฐบาล ได้นัดเดินขบวนกันบนถนนสีลม เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา และมีกระแสข่าวว่ากลุ่มหน้ากากขาว ได้นัดหมายคนที่มีแนวคิดเดียวกัน ออกมาชุมนุมกันอีกครั้ง เพื่อดำเนินกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลว่า ตราบเท่าทีการแสดงออกทางความคิดเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ย่อมทำได้ แต่ต้องระมัดระวังการกระทบกระทั่ง หรือการล่วงละเมิด ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน เสียหาย เพราะขณะนี้ก็มีรายงานด้วยว่าทางกลุ่มอุลตร้าแดง ซึ่งเป็นกลุ่มที่สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ก็ได้นัดชุมนุมผู้สนับสนุนรัฐบาล และต่อต้านกลุ่มหน้ากากขาว ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องอดทน ช่วยกันระมัดระวัง ไม่ดำเนินการอะไรที่จะนำไปสู่ความรุนแรง และไม่ตกเป็นเหยื่อของการถูกชักจูง หรือสร้างอุปทานหมู่ง่ายๆ เพราะบางครั้งการแสดงออกแบบนี้ อาจจะถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชักจูงไปสู่สถานการณ์ที่บานปลายในลักษณะน้ำผึ้งหยดเดียวได้ จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเฝ้าระวัง

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงการประกาศคัดค้านรัฐบาล ของกลุ่มไทยสปริง และกลุ่มอื่นๆ ว่า เป็นการดีที่กลุ่มต่างๆ แสดงจุดยืน และตัวตนทางการเมืองชัดเจน เพราะประชาชนจะได้เห็นตัวตนชัดๆ และไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก ความจริงบุคคลดังกล่าวเหล่านี้มีจุดยืนชัดเจนมาตลอด จะเปลี่ยนไปก็แต่ชื่อกลุ่มเท่านั้น พอประชาชนไม่สนับสนุนก็เปลี่ยนชื่อใหม่ไปเรื่อยๆ และก็เอาชื่อจากต่างประเทศมาตั้งแบบผิดความหมาย เช่น ปรากฏการณ์ อาหรับสปริง เขาเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ไทยสปริง ต้องการล้มรัฐบาลประชาธิปไตย กลุ่มกรีนในยุโรป เขาต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม แต่กลุ่มกรีน หรือสีเขียวในไทย ก็คือพวกขาประจำที่เปลี่ยนจากเหลืองมาเขียว ต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พวกนี้สร้างวาทกรรมว่าจะล้มระบอบทักษิณ มันไม่มีหรอกระบอบทักษิณ จะมีก็แต่มรดกทางนโยบายทักษิณ ไม่ว่าจะเป็น 30 บาทรักษาทุกโรค สนามบินสุวรรณภูมิ กองทุนหมู่บ้าน โอทอป หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งสิ้น

“สิ่งที่น่าเป็นห่วงในประเทศไทยคือ พวกที่ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย การรัฐประหารในปี 49 และการจัดตั้งม็อบล้มรัฐบาลสมัคร และรัฐบาลสมชาย ในอดีต ถือเป็นบทเรียนที่ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก ประเทศไทยต้องเดินหน้า ประชาชนต้องรุ่งเรือง เราเสียโอกาสจากความไร้เสถียรภาพทางการเมืองมามากแล้ว อย่าฉุดรั้งประเทศมากกว่านี้เลย เห็นต่างทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ แต่ตนมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่จะไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมืองนอกกติกาประชาธิปไตยเกิดขึ้นเช่นในอดีตอีกแน่นอน” นายนพดล กล่าว

** ปชป.ปัดไม่เกี่ยวหน้ากากขาว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มคนเสื้อแดงพยายามก่อความวุ่นวายในการเปิดเวทีผ่าความจริงในทุกๆ จังหวัดของพรรคประชาธิปัตย์ โดยล่าสุดที่ จ.สุพรรณบุรี ว่า ขณะนี้ทีมกฎหมายของพรรคกำลังหาช่องทางทางกฎหมาย เพื่อที่จะดำเนินการกับกลุ่มคนเหล่านี้ โดยเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ให้ออกมาห้ามปรามกลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาลออกที่มาขัดขวางการทำหน้าที่ของฝ่านค้าน

ส่วนกรณีที่จะมีรวมตัวกันแสดงจุดยืนทางการเมืองของกลุ่มผู้ที่ใช้หน้ากากแดง หน้ากากขาว เป็นสัญลักษณ์นั้น โดยส่วนตัวยอมรับว่า เป็นห่วงการเผชิญหน้ากัน แต่อยากให้รัฐบาลแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการห้ามปราม ไม่ให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น และอยากให้รัฐบาลใส่ใจปัญหาของประชาชนมากกว่านี้ เพราะถ้าปัญหาลดลง ความขัดแย้งก็จะไม่ตามมา อีกทั้งที่มีบางกลุ่มตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มหน้ากากขาวเป็นกลุ่มคนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ยืนยันว่า เป็นการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน ไม่เกี่ยวข้องทางการเมือง ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายตามหลักประชาธิปไตย.
กำลังโหลดความคิดเห็น