ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน หารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทั้งส่วนกลางและภูเก็ต นำเสนอ 6 ปัญหาที่รอการแก้ไขจากไทยในการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจีนที่โตแบบก้าวกระโดด คาดทะลุ 4 ล้านคนสิ้นปีนี้ ทั้งปัญหาห้องพัก รถทัวร์ไม่เพียงพอ ขาดแคลนไกด์ ป้ายภาษาจีน เตือนลงเล่นน้ำ ฯลฯ
นายก่วน มู่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ประชุมหารือแนวทางในการอำนวยความสะดวก และมาตรการดูแลความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ร่วมกับนายขจร วีระไว ผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานภูเก็ต ด่านศุลกากรภูเก็ต จัดหางาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ภาคเอกชนส่วนกลางและภูเก็ต เข้าร่วม ณ โรงแรมภูเก็ตเกรซแลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายก่วน มู่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวในที่ประชุมว่า ชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเมื่อปีที่แล้วมีคนจีนเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยกว่า 2.8 ล้านคน และในปีนี้คาดว่าจะเกิน 4 ล้านคนอย่างแน่นอน จากที่ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนจีนชื่นชอบ และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรัฐบาลไทยและจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน
แต่อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยของนักท่องเที่ยวจีนก็ยังมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ 6 ด้านด้วยกัน ประกอบด้วย 1.ห้องพัก รถทัวร์ให้บริการไม่เพียงพอในช่วงไฮซีซัน 2.ขาดแคลนไกด์ภาษาจีน แม้ที่ผ่านมาทางการไทยจะพยายามแก้ปัญหาแล้วก็ตาม 3.ปัญหาการต้มตุ่นหลอกลวงนักท่องเที่ยว ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ 4.ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นธรรมต่อนักท่องเที่ยวจีน 5.ไม่มีการป้องกันและแจ้งเตือนภัยที่จะเกิดแก่นักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิต เกิดอุบัติเหตุ อาหารเป็นพิษ เป็นต้น และ6.ไม่มีป้ายแนะนำที่เป็นภาษาจีน ทั้งในส่วนของตามแหล่งท่องเที่ยว ชายหาด สนามบิน ศูนย์การค้าฯ เป็นต้น
นายก่วน มู่ กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวว่า ขณะนี้ที่ประเทศจีนได้มีคอลเซ็นเตอร์ที่นักท่องเที่ยวจีนสามารถขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลาที่มีปัญหาในการเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ เพียงแต่เปิดโทรศัพท์มือถือเบอร์ติดต่อสถานทูตและสถานกงสุลจีนในประเทศนั้น ทั้งนี้ เพราะรัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของคนจีนในต่างประเทศ จึงอยากจะให้ทางตำรวจท่องเที่ยวของไทยมีคอลเซ็นเตอร์ที่สามารถติต่อได้สะดวก และรวดเร็ว มีการแก้ไขปัญหาห้องพัก รถทัวร์ไม่เพียงพอในช่วงไฮซีซัน ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ เป็นต้น เพิ่มไกด์จีนให้เพียงพอ หรืออนุญาตให้คนจีนเข้ามาทำหน้าที่ไกด์ในประเทศไทยได้ เพิ่มเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ 1155 ที่พูดภาษาจีนได้ให้มากขึ้น และพยายามสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับคนจีนให้สิ้นสุดโดยเร็ว และป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุกับนักท่องเที่ยว จัดทำหนังสือแนะนำแหล่งท่องเที่ยว การปฏิบัติตัวของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยวประเทศไทย เพิ่มป้ายเตือนภัยภาษาจีนให้มากขึ้น เป็นต้น
ด้านนายขจร วีระใจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ทั้ง 6 ปัญหาที่ทางท่านทูตของจีนได้นำเสนอมานั้น บางปัญหาได้มีการหารือไปบ้างแล้ว เมื่อการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวฯ กับภาครัฐ และเอกชนในอันดามัน เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งบางปัญหาได้มีการประสานกับทางกระทรวงอื่นๆ เช่น ปัญหารถทัวร์ไม่เพียงพอได้มีการประสานกับทางกระทรวงคมนาคม ปัญหาห้องพัก ไกด์จีน ได้มอบหมายให้กรมการท่องเที่ยวเข้าไปดูแล้ว เป็นต้น
ขณะที่นายสรรเสริญ เงารังษี รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาประเทศไทย และภูเก็ต ว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาประเทศไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด ปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 2.7 ล้านคน ปีนี้น่าจะเพิ่มเป็น 4 ล้านคนอย่างแน่นอน ส่วนที่ภูเก็ตก็เช่นเดียวกัน ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 47% นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาแล้ว 237,000 คน ซึ่งถือว่าสูงมาก แต่คาดว่าถึงสิ้นปีจะทะลุ 570,000 คน
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภูเก็ตได้นำเสนอแนวทางการอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวจีน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของป้ายต่างๆ จะเพิ่มภาษาจีนให้มากขึ้น รวมทั้งป้ายแจ้งเตือนการลงเล่นน้ำในช่วงที่มรสุมคลื่นลมแรง การแก้ปัญหาเจ็ตสกีเอาเปรียบนักท่องเที่ยว การดำเนินคดีที่เกิดขึ้นต่อนักท่องเที่ยวจีน การให้บริการตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นต้น
