ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก หวั่นการเปิดประเทศสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 2558 อาจเปิดทางกลุ่มทุนผิดกฎหมายจากต่างประเทศแห่ไซฟ่อนเงินด้วยการลงทุนภาคการท่องเที่ยว และโรงแรม โดยเฉพาะในเมืองพัทยา จี้กรมการค้าต่างประเทศออกกฎคุมเข้ม
น.ส.บุญฑริก กุศลวิทย์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ว่า ผู้ประกอบการถือว่ามีความพร้อม และเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ยังกังวลใจเกี่ยวกับการตั้งรับการเข้ามาลงทุนในภาคธุรกิจโรงแรม และการท่องเที่ยวของนักลงทุนต่างชาติที่จะมีมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา สมาคมได้ทำเรื่องเสนอต่อกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อขอให้กำหนดหลักเกณฑ์คัดสรรนักลงทุนต่างชาติที่มีคุณภาพ เพื่อป้องกันการเข้ามาฟอกเงิน หรือไซฟ่อนเงินของกลุ่มทุนผิดกฎหมาย และการแอบแฝงเข้ามาหาผลประโยชน์ในประเทศไทย รวมทั้งการเข้ามาของทัวร์ศูนย์เหรียญที่ไม่ถือว่าก่อให้เกิดประโยชน์อันใด
“เราไม่กลัวการเคลื่อนย้ายแรงงาน เพราะปัจจุบันขาดแคลนแรงงานไร้ฝีมือมาก ซึ่งเราสามารถฝึกให้มีฝีมือได้ แต่ที่กังวลคือ ทุนต่างชาติ ซึ่งที่ผ่านมา สมาคมได้ขอให้รัฐบาลกำหนดเกณฑ์การเข้ามาของกลุ่มทุนในธุรกิจโรงแรมว่าต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อห้อง ซึ่งนั่นหมายถึงโรงแรมที่จะเปิดใหม่ต้องเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งจะช่วยป้องกันการแย่งกันใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และสาธารณูปโภคมากเกินไป จนเกิดปัญหาเช่นเดียวกับเกาะสมุย และเราก็ขอให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพราะในกลุ่มอาเซียนนั้น ประเทศไทยถือว่าน่าลงทุนมากที่สุด”
น.ส.บุญฑริก กล่าวว่า การเปิดประเทศสู่เออีซีนั้น หากมองในแง่ดีก็คือ การเปิดโอกาสเรื่องการตลาด และการลงทุน ซึ่งะมีนักท่องเที่ยวในอาเซียนเข้ามาในไทยมากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการก็ต้องพร้อมรับมือกับการเข้ามาของกลุ่มทุนใหม่ และเสริมศักยภาพของตนด้วยการเปิดตัวออกไปการลงทุนในประเทศอื่นด้วยเช่นกัน
“ภาวะการท่องเที่ยวในเมืองพัทยา และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในภาคตะวันออกตลอดปี 2555 เติบโตดีขึ้นกว่าปี 2554 ซึ่งน่าพอใจจนทำให้เกิดสัญญาณการปรับราคาห้องพักในทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ปี 2555 จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติมากขึ้น แต่อัตราการเข้าพักกลับไม่เติบโตตาม ทั้งนี้ เป็นเพราะมีโรงแรมเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาโอเวอร์ซัปพลายด้านที่พักในอนาคต หากยังไม่มีการวางแผนการลงทุนที่ดี”