ทัวร์ประเทศเศรษฐกิจใหม่ จีน รัสเซีย อินเดีย เร่งทำตลาดอัพมาร์เก็ต เข้าไทย ชี้ ภูเก็ต สมุย และเชียงใหม่ เป็นเดสติเนชั่นใหม่สุดฮอต จี้หน่วยงานรัฐ เร่งปราบมาเฟีย และ คุมมาตรฐานโปรแกรมทัวร์ ด้าน ททท.สำนักงานมอสโคว จัดเต็ม แผนการตลาดปี 56 วางเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวแตะ 1.4 ล้านคน
นายซาเมียร์ กอนดราชู กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท SAMAARA TRAVELS กรุงเดลี ประเทศ อินเดีย กล่าวว่า คนอินเดียชอบเที่ยวประเทศไทย เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่า 25-30% เมื่อเทียบกับ สิงคโปร์ หรือฮ่องกง นิยมชอปปิ้ง และไนท์ไลฟ์ เดสติเนชั่นหลักคือ กรุงเทพ พัทยา และภูเก็ต แต่ปัญหาที่เร่งปรับปรุง คือ กลุ่มมาเฟียที่ข่มขู่นักท่องเที่ยว เช่น มาเฟียสกู๊ตเตอร์ และ มาเฟียที่สนามบิน ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกไม่ปลอดภัย
ด้าน นายหลิว ฟง ประธาน บริษัท คอมฟอร์ด ทราเวล คุนหมิง ประเทศจีน และ นางสาว เว่ย เวย์ รองผู้จัดการ ดูแลการขายแพกเกจกอล์ฟ เปิดเผยว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนปรับเปลี่ยนเลือกเที่ยวเชิงลึกมากกว่าอดีต เน้นเดินทางมาพักผ่อน คู่ไปกับการชอปปิ้ง สถานการณ์ทัวร์ศูนย์เหรียญ เริ่มลดน้อยลงไป ราคาแพกเกจทัวร์มาประเทศไทย เฉลี่ยที่ 1,500-2,000 หยวนเฉพาะค่าที่พักกับตั๋วเครื่องบิน ไม่รวมค่าออฟชั่นทัวร์ ซึ่งก็ไม่มีบังคับขายเหมือนในอดีตแล้ว
***เจาะตลาดกอล์ฟเพิ่มการใช้จ่าย
นายหลิว ฟง กล่าวอีกว่า บริษัทยังเห็นศักยภาพของตลาดกอล์ฟ ซึ่งไทยมีสนามกอล์ฟจำนวนมาก สวยและราคาไม่แพง จึงเปิดแผนกขายแพกเกจกอล์ฟ เจาะนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มอัพมาร์เก็ต ขายเฉลี่ยต่อแพกเกจ 8,000-10,000 หยวน ไม่รวมค่าแคดดี้ และอื่นๆ วันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจีน ลดลงมาอยู่ที่ 4-5 วัน แต่การใช้จ่ายต่อคนเพิ่มขึ้น
ปัญหาขณะนี้ คือ คุณภาพของสินค้าที่มาให้บริการแก่นักท่องเที่ยวจีนไม่ตรงกับ ที่เสนอขายไปยังประเทศจีน จึงต้องการให้หน่วยงานรัฐ ช่วยแนะนำบริษัททัวร์คุณภาพ และ มีการตรวจสอบการทำงาน ให้รักษาระดับมาตรฐานตามสัญญา ส่วนปัจจัยที่นักท่องเที่ยวจีนกังวลมากที่สุดคือ ความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทย เดสติเนชั่นใหม่ๆที่ชื่นชอบ ได้แก่
ภูเก็ต เชียงใหม่ กระบี่ และ สมุย จากเดิม จะพักเพียง กรุงเทพฯและพัทยา
***วอนททท.เพิ่มภาษารัสเซีย
นางสาวซีเนีย กอนดราชู ผู้จัดการ บริษัท PRIMORAVTOTRANS TRAVEL จำกัด จากประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ปัญหาของนักท่องเที่ยวรัสเซีย คือไม่มีเที่ยวบินตรงมากรุงเทพฯ แต่นักท่องเที่ยวรัสเซียยังชอบมาประเทศไทย โดยจะเดินทางมาระหว่างเดือน ต.ค.-เม.ย. ของทุกปี แต่ปัญหาหนึ่ง คือ ชาวรัสเซีย จะไม่คุ้นเคยที่จะใช้ภาษาอังกฤษ จึงต้องการให้มีภาษารัสเซีย
ในการให้ข้อมูลท่องเที่ยวแก่ชาวรัสเซียด้วย ในส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านบริษัทเรา ปีนี้เติบโต 300%
***ททท.เร่งขยายฐานตลาดรัสเซีย
นายนรินทร์ ทิจะยัง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานมอสโคว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ตลาดรัสเซียปีนี้ตั้งเป้าจำนวน 1.2 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 1.4 ล้านคน ในปี 2556 เติบโตเฉลี่ยปีละ 20 % กลยุทธ์จะเน้นรักษาฐานตลาดเก่า และขยายตลาดเข้าสู่เมืองใหม่ๆในรัสเซีย และ CIS ซึ่งมีเศรษฐกิจดี ตลาดใหม่ ได้แก่ แถบเทือกเขาอูราล ไซบีเรีย รวมถึงฟากตะวันออกไกลของรัสเซียขณะเดียวกันจะมุ่งไปที่กลุ่มท่องเที่ยวที่มีรูปแบบเฉพาะ (นิช มาร์เก็ต)
***เจาะอัพมาร์เก็ตดันรายได้โต
“ปกติคนรัสเซียมาเที่ยวไทย จะพักเฉลี่ย 10-14 วัน ใช้จ่าย 40,000-50,000 บาทต่อทริป ซึ่งเป็นค่าตั๋วเครื่องบินและที่พัก ยังไม่นับรวมค่าชอปปิ้ง ค่ารับประทานอาหาร และใช้จ่ายด้านอื่นๆ ซึ่งในอนาคตจะผลักดันให้กลุ่มรัสเซียระดับบนมามากขึ้น โดยเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อคนให้ขึ้นไปอยู่ที่ 100,000 บาทต่อทริป “
ปีงบประมาณ 56 คาดว่าจะได้งบทำตลาดนี้ กว่า 40 ล้านบาท เพิ่มจากปีนี้ที่ได้รับงบราว 35 ล้านบาท
นายซาเมียร์ กอนดราชู กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท SAMAARA TRAVELS กรุงเดลี ประเทศ อินเดีย กล่าวว่า คนอินเดียชอบเที่ยวประเทศไทย เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่า 25-30% เมื่อเทียบกับ สิงคโปร์ หรือฮ่องกง นิยมชอปปิ้ง และไนท์ไลฟ์ เดสติเนชั่นหลักคือ กรุงเทพ พัทยา และภูเก็ต แต่ปัญหาที่เร่งปรับปรุง คือ กลุ่มมาเฟียที่ข่มขู่นักท่องเที่ยว เช่น มาเฟียสกู๊ตเตอร์ และ มาเฟียที่สนามบิน ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกไม่ปลอดภัย
ด้าน นายหลิว ฟง ประธาน บริษัท คอมฟอร์ด ทราเวล คุนหมิง ประเทศจีน และ นางสาว เว่ย เวย์ รองผู้จัดการ ดูแลการขายแพกเกจกอล์ฟ เปิดเผยว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนปรับเปลี่ยนเลือกเที่ยวเชิงลึกมากกว่าอดีต เน้นเดินทางมาพักผ่อน คู่ไปกับการชอปปิ้ง สถานการณ์ทัวร์ศูนย์เหรียญ เริ่มลดน้อยลงไป ราคาแพกเกจทัวร์มาประเทศไทย เฉลี่ยที่ 1,500-2,000 หยวนเฉพาะค่าที่พักกับตั๋วเครื่องบิน ไม่รวมค่าออฟชั่นทัวร์ ซึ่งก็ไม่มีบังคับขายเหมือนในอดีตแล้ว
***เจาะตลาดกอล์ฟเพิ่มการใช้จ่าย
นายหลิว ฟง กล่าวอีกว่า บริษัทยังเห็นศักยภาพของตลาดกอล์ฟ ซึ่งไทยมีสนามกอล์ฟจำนวนมาก สวยและราคาไม่แพง จึงเปิดแผนกขายแพกเกจกอล์ฟ เจาะนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มอัพมาร์เก็ต ขายเฉลี่ยต่อแพกเกจ 8,000-10,000 หยวน ไม่รวมค่าแคดดี้ และอื่นๆ วันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวจีน ลดลงมาอยู่ที่ 4-5 วัน แต่การใช้จ่ายต่อคนเพิ่มขึ้น
ปัญหาขณะนี้ คือ คุณภาพของสินค้าที่มาให้บริการแก่นักท่องเที่ยวจีนไม่ตรงกับ ที่เสนอขายไปยังประเทศจีน จึงต้องการให้หน่วยงานรัฐ ช่วยแนะนำบริษัททัวร์คุณภาพ และ มีการตรวจสอบการทำงาน ให้รักษาระดับมาตรฐานตามสัญญา ส่วนปัจจัยที่นักท่องเที่ยวจีนกังวลมากที่สุดคือ ความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทย เดสติเนชั่นใหม่ๆที่ชื่นชอบ ได้แก่
ภูเก็ต เชียงใหม่ กระบี่ และ สมุย จากเดิม จะพักเพียง กรุงเทพฯและพัทยา
***วอนททท.เพิ่มภาษารัสเซีย
นางสาวซีเนีย กอนดราชู ผู้จัดการ บริษัท PRIMORAVTOTRANS TRAVEL จำกัด จากประเทศรัสเซีย กล่าวว่า ปัญหาของนักท่องเที่ยวรัสเซีย คือไม่มีเที่ยวบินตรงมากรุงเทพฯ แต่นักท่องเที่ยวรัสเซียยังชอบมาประเทศไทย โดยจะเดินทางมาระหว่างเดือน ต.ค.-เม.ย. ของทุกปี แต่ปัญหาหนึ่ง คือ ชาวรัสเซีย จะไม่คุ้นเคยที่จะใช้ภาษาอังกฤษ จึงต้องการให้มีภาษารัสเซีย
ในการให้ข้อมูลท่องเที่ยวแก่ชาวรัสเซียด้วย ในส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านบริษัทเรา ปีนี้เติบโต 300%
***ททท.เร่งขยายฐานตลาดรัสเซีย
นายนรินทร์ ทิจะยัง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานมอสโคว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ตลาดรัสเซียปีนี้ตั้งเป้าจำนวน 1.2 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 1.4 ล้านคน ในปี 2556 เติบโตเฉลี่ยปีละ 20 % กลยุทธ์จะเน้นรักษาฐานตลาดเก่า และขยายตลาดเข้าสู่เมืองใหม่ๆในรัสเซีย และ CIS ซึ่งมีเศรษฐกิจดี ตลาดใหม่ ได้แก่ แถบเทือกเขาอูราล ไซบีเรีย รวมถึงฟากตะวันออกไกลของรัสเซียขณะเดียวกันจะมุ่งไปที่กลุ่มท่องเที่ยวที่มีรูปแบบเฉพาะ (นิช มาร์เก็ต)
***เจาะอัพมาร์เก็ตดันรายได้โต
“ปกติคนรัสเซียมาเที่ยวไทย จะพักเฉลี่ย 10-14 วัน ใช้จ่าย 40,000-50,000 บาทต่อทริป ซึ่งเป็นค่าตั๋วเครื่องบินและที่พัก ยังไม่นับรวมค่าชอปปิ้ง ค่ารับประทานอาหาร และใช้จ่ายด้านอื่นๆ ซึ่งในอนาคตจะผลักดันให้กลุ่มรัสเซียระดับบนมามากขึ้น โดยเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อคนให้ขึ้นไปอยู่ที่ 100,000 บาทต่อทริป “
ปีงบประมาณ 56 คาดว่าจะได้งบทำตลาดนี้ กว่า 40 ล้านบาท เพิ่มจากปีนี้ที่ได้รับงบราว 35 ล้านบาท