xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดี สร้างคุณค่าชีวิตให้ “ตำบลของหนู” / เรียงความดีเด่น “สำนึกรักบ้านเกิด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ด.ญ.กาญจนา ฤทธิชัย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดเทวดาราม ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
 
โดย...ด.ญ.กาญจนา  ฤทธิชัย
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดเทวดาราม ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

ตำบลของหนูคือ ตำบลท่าขึ้น มี ๑๕ หมู่บ้าน มีประชากรประมาณ ๓๐,๐๐๐ กว่าคน ตั้งอยู่ในอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เรียกว่า ท่าขึ้น เพราะตามประวัติความเป็นมา คนแก่คนเฒ่าเล่าต่อกันมาว่า ในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทหารญี่ปุ่นนำกองทัพผ่านขึ้นทางทะเลที่บริเวณนี้ เพื่อผ่านไปยังนครศรีธรรมราช (ผ่านท่าแพ) แล้วต่อไปยังทางใต้คือ ปัตตานี เพื่อต่อไปยังประเทศมาเลเซีย บริเวณนี้จึงเรียกว่า “ท่าขึ้น”

ตำบลท่าขึ้น ตั้งอยู่ติดกับชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ซึ่งเป็นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งแหล่งน้ำจืด และน้ำเค็ม คนที่นี่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม คือ ทำสวน ทำไร่ ทำนา ทำสวน ได้แก่ สวนยางพารา สวนผลไม้ สวนมะพร้าว และอีกอาชีพหนึ่งคือ ทำการประมง มีสัตว์น้ำมากมาย เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา และของขึ้นชื่อที่นี่คือ กะปิ

ทะเลบริเวณนี้เปรียบเป็นอ่าวทองคำ ซึ่งมีความสำคัญต่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแถบนี้อย่างมาก บุคคลหลายฝ่ายกล่าวว่า บริเวณนี้เป็นแหล่งอาหารสำคัญของโลกเลยทีเดียว ส่วนผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งได้แก่ มะพร้าว ข้าวเจ้า ยางพารา สวนผลไม้ ก็ทำรายได้ให้แก่คนในตำบลท่าขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจคือ มีทะเล หาดทรายยาวรีสวยงาม อากาศบริสุทธิ์ ได้แก่ หาดทรายแก้ว หาดโพธิ์ทอง หาดธารา หาดตะเคียนดำ

เมื่อไม่นานมานี้ ประมาณปี ๒๕๕๓ เริ่มมีข่าวว่าจะมีโรงไฟฟ้าถ่านหินมาสร้าง พร้อมกับท่าเรือขนาดใหญ่ที่ตำบลท่าขึ้นแห่งนี้ เขาบอกว่า สถานที่ตรงนี้เหมาะสมมาก และจะทำให้มีความเจริญเข้ามา คนมีงานทำ และเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สะอาด ไร้พิษภัย มีการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ นานา แต่หนูได้ฟังจากคุณครู และผู้ใหญ่หลายท่านบอกว่า นี่เป็นหายนะที่จะเกิดตามมาต่างหาก ต่อไปถ้าหากเขาสร้างโรงไฟฟ้า และท่าเรือได้ ผู้คน ไร่นา สวนผลไม้ สัตว์น้ำ ก็จะได้รับผลกระทบมากมาย อากาศจะเจือปนสารพิษ น้ำทะเลก็จะไม่สะอาด ต้นไม้ก็จะไม่ออกดอกผลตามฤดูกาล

หนูฟังเขากล่าว รู้สึกกลัวมาก ชาวบ้านที่รักบ้านเกิดของตนจึงรวมตัวกันต่อต้าน ถึงแม้หนูเป็นเด็กหนูก็จะไปร่วมด้วยทุกครั้ง เพราะคุณครูบอกว่า เราต้องช่วยกัน เราจึงจะอยู่ได้ 

ตอนนี้รู้สึกว่าเขาจะเงียบหายไป แต่คุณครูบอกว่า เขาเงียบเพื่อตั้งหลักมากกว่า เขาไม่ยอมแพ้หรอก เพราะพวกที่เกี่ยวข้องทั้งหลายต่างเห็นแก่ผลประโยชน์ทั้งนั้น พึ่งใครไม่ได้หรอก พวกเราชาวบ้านต้องผนึกกำลังร่วมต่อต้าน เข้มแข็ง หมู่บ้านของเราจึงจะรอดพ้นจากความหายนะทั้งปวงที่จะตามมา
 
ในวันรับรางวัล
 
หนูในฐานะชาวบ้านตัวเล็กๆ คนหนึ่งของตำบลท่าขึ้น หนูขอฝากบทกลอนเป็นข้อคิดเพื่อเตือนใจทุกคนที่เกี่ยวข้อง ให้มีจิตสำนึก เพื่ออนาคต และความเป็นอยู่ของท้องถิ่นบ้านเกิดต่อไป

“อ่าวไทย” อ่าวทองคำ
คุณค่าล้ำทรัพยากร
หาดทรายที่พักผ่อน

มีน้ำใสกุ้งปูปลา
ย่าปู่อยู่อาศัย

ไร้พิษภัยเนิ่นนานช้า
เขาบอกจะพัฒนา

“โรงไฟฟ้า” ท่าเรือใหญ่
ปลากุ้งหมึกปูหอย

เขาจะถอยไปอยู่ไหน
วอนบอกท่านผู้ใหญ่

ตระหนักไว้ช่วยดูแล
 
ต้นฉบับงานเขียน
 
-----------------------------------------------------------
 
ความเห็นจาก...บุญเสริม  แก้วพรหม  (รัตนธาดา  แก้วพรหม) 
 
เรียงความดีเด่น “สำนึกรักบ้านเกิด” ของเด็ก “วัดเทวดาราม”

วันนี้ (๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖) ลุงไปเยี่ยมนิเทศเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาที่โรงเรียนวัดเทวดาราม และโรงเรียนวัดยางงาม ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าที่ลุงเคยเรียนสมัยชั้นประถมศึกษา

...นอกจากการนิเทศติดตามตามภารกิจในเนื้อหาการนิเทศคิดตามแล้ว ยังมีโอกาสได้อ่านเรียงความซึ่งเป็นผลงานของ “เด็กหญิงกาญจนา ฤทธิชัย” นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวัดเทวดาราม ซึ่งส่งเข้าประกวดตามโครงการของคาราบาวตะวันแดง และได้รับการคัดเลือกเป็นเรียงความดีเด่น ระดับคะแนน A+ โดยกรรมการบันทึกความเห็นกำกับไว้ว่า
 
“...แสดงถึงความสำนึกรักบ้านเกิดอย่างชัดเจน...”
 
รวมถึงได้รับรางวัลเป็นเงินสดสำหรับนักเรียนผู้เขียนเป็นเงิน ๕,๐๐๐ บาท และสำหรับหมู่บ้านอีก ๑๐,๐๐๐ บาท (ต่อมา หมู่บ้านมอบให้เป็นทุนการศึกษาของโรงเรียน)

...ชื่นชมยินดีในรางวัลที่นักเรียนได้รับ
...ชื่นชมในสำนึกรักถิ่นฐานบ้านเกิดแผ่นดินถิ่นอาศัยยิ่งนัก
...จึงเก็บมาบอกเล่าเพื่อชื่นชมยินดีร่วมกันนะครับ...
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น