ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล รัตนโกสินทร์ และสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย จัดโครงการค่ายพัฒนาศักยภาพเยาวชน “คนรุ่นใหม่หัวใจรักแผ่นดิน” รุ่นที่ 1
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (8 พ.ค.) ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติสิรินาถ (หาดในยาง) ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายก้องเกียรติ พลขันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันจิตวิทยาความมั่นคง เป็นประธานเปิดโครงการ ค่ายพัฒนาศักยภาพเยาวชน “คนรุ่นใหม่หัวใจ รักแผ่นดิน” รุ่นที่ 1 ซึ่งจัดโดยนักศึกษาหลักสูตร “ปฏิบัติการจิตวิทยา ฝ่ายอำนวยการ รุ่นที่ 111” สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ และสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมป์ โดยมี นายนิรัตน์ จันทพัฒน์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 นายสมศักดิ์ ขวัญแก้ว อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงาน ภาค 8 นายปริญญา เชาวลิตถวิล ผู้พากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนิติธร วงศ์ยืน ประธานนักศึกษา สจว.111 และเยาวชนจากทั่วประเทศ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน เข้าร่วม
นายก้องเกียรติ พลขันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันจิตวิทยาความมั่นคง กล่าวว่า การจัดโครงการในครั้งนี้ นับว่าเป็นกิจกรรมสำคัญที่ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน จะได้มีส่วนร่วมทำคุณประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม ด้วยความสมัครสมานสามัคคี เพื่อการอยู่ร่วมกันโดยสันติ แผ่นดินไทยสุขสงบร่มเย็น อันเป็นการร่วมสร้างคุณค่าแก่สังคมและประเทศชาติ สอดรับกับนโยบายรัฐในอันที่จะมุ่งสร้างสังคมสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย
นายก้องเกียรติ กล่าวต่อไปอีกว่า เพื่อผนึกกำลังสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง กับหน่วยงานภายนอกในการจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ว่าด้วยการปลูกฝังความคิด และหล่อหลอมให้เยาวชนคนไทยจากจังหวัดชายแดนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ได้มีโอกาสมาอยู่ร่วมกันโดยสันติ ท่ามกลางความแตกต่างในเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ เรียนรู้ร่วมกันผ่านกระบวนการทำกิจกรรม และการศึกษาดูงานที่เป็นประโยชน์
โดยเน้นการปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนเล็งเห็นคุณค่าของความรักความสามัคคีกันในชาติ การมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคม และการสร้างสรรค์กิจกรรมอันเป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม ซึ่งเป็นการสร้างทุนทางปัญญาให้แก่เยาวชนสามารถนำความรู้ ประสบการณ์ และทัศนคติที่ได้รับจากโครงการไปปรับใช้ในชีวิตจริง อันจะก่อให้เกิดแนวความคิด และทัศนคติที่ดีในการพัฒนาท้องถิ่นของตน เกิดความรู้รักสามัคคี และมีเครือข่ายพลังยิ่งใหญ่ที่จะร่วมมือกันพัฒนาสังคม และประเทศชาติอันเป็นที่รักอย่างยั่งยืนตลอดไป
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (8 พ.ค.) ที่ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติสิรินาถ (หาดในยาง) ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายก้องเกียรติ พลขันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันจิตวิทยาความมั่นคง เป็นประธานเปิดโครงการ ค่ายพัฒนาศักยภาพเยาวชน “คนรุ่นใหม่หัวใจ รักแผ่นดิน” รุ่นที่ 1 ซึ่งจัดโดยนักศึกษาหลักสูตร “ปฏิบัติการจิตวิทยา ฝ่ายอำนวยการ รุ่นที่ 111” สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ และสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมป์ โดยมี นายนิรัตน์ จันทพัฒน์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 นายสมศักดิ์ ขวัญแก้ว อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงาน ภาค 8 นายปริญญา เชาวลิตถวิล ผู้พากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนิติธร วงศ์ยืน ประธานนักศึกษา สจว.111 และเยาวชนจากทั่วประเทศ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน เข้าร่วม
นายก้องเกียรติ พลขันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันจิตวิทยาความมั่นคง กล่าวว่า การจัดโครงการในครั้งนี้ นับว่าเป็นกิจกรรมสำคัญที่ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน จะได้มีส่วนร่วมทำคุณประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม ด้วยความสมัครสมานสามัคคี เพื่อการอยู่ร่วมกันโดยสันติ แผ่นดินไทยสุขสงบร่มเย็น อันเป็นการร่วมสร้างคุณค่าแก่สังคมและประเทศชาติ สอดรับกับนโยบายรัฐในอันที่จะมุ่งสร้างสังคมสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย
นายก้องเกียรติ กล่าวต่อไปอีกว่า เพื่อผนึกกำลังสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง กับหน่วยงานภายนอกในการจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ว่าด้วยการปลูกฝังความคิด และหล่อหลอมให้เยาวชนคนไทยจากจังหวัดชายแดนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ได้มีโอกาสมาอยู่ร่วมกันโดยสันติ ท่ามกลางความแตกต่างในเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ เรียนรู้ร่วมกันผ่านกระบวนการทำกิจกรรม และการศึกษาดูงานที่เป็นประโยชน์
โดยเน้นการปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนเล็งเห็นคุณค่าของความรักความสามัคคีกันในชาติ การมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบต่อสังคม และการสร้างสรรค์กิจกรรมอันเป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม ซึ่งเป็นการสร้างทุนทางปัญญาให้แก่เยาวชนสามารถนำความรู้ ประสบการณ์ และทัศนคติที่ได้รับจากโครงการไปปรับใช้ในชีวิตจริง อันจะก่อให้เกิดแนวความคิด และทัศนคติที่ดีในการพัฒนาท้องถิ่นของตน เกิดความรู้รักสามัคคี และมีเครือข่ายพลังยิ่งใหญ่ที่จะร่วมมือกันพัฒนาสังคม และประเทศชาติอันเป็นที่รักอย่างยั่งยืนตลอดไป
