ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวประมง จ.สงขลา กว่า 500 คน ร่วมเวที “ทางรอดประมงชายฝั่งในจังหวัดสงขลา” หลังเดือนร้อนหนัก มีกฎหมายห้ามเรือประมงขนาดเล็กออกหาปลานอกพื้นที่ชายฝั่ง 3 ไมล์ทะเล และห้ามออกนอกเขตจังหวัด อ้างเพื่อความปลอดภัยของชาวประมง ด้านชาวบ้านโวยเมื่อมีเรื่องทุกข์ร้อนไม่เคยเห็นหน้าผู้มีอำนาจตัดสินใจเข้าร่วมเลยสักครั้ง
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท อ.สิงหนคร จ.สงขลา คณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเวทีสัมมนา เรื่อง “ทางรอดประมงชายฝั่งใน จ.สงขลา” โดยมี นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว คณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา เป็นผู้ดำเนินรายการ และมีตัวแทนจากกรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทะเลชายฝั่ง และประมงจังหวัดสงขลา พร้อมชาวประมงอีกกว่า 500 คน ร่วมพูดคุยต่อกรณีที่มีกฎหมายว่าด้วยเรื่องการทำประมงชายฝั่งในน่านน้ำสงขลา ห้ามเรือประมงขนาดเล็กออกทำการประมงนอกชายฝั่งเกิน 3 ไมล์ทะเล หรือ 5.4 กิโลเมตร ห้ามชาวประมงในแต่ละจังหวัดออกหาปลานอกเขตพื้นที่ของแต่ละจังหวัด และการขึ้นทะเบียนเรือประมงไทยนั้น ชาวประมงจังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียงได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หาทางออกด้วยการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาดังกล่าว โดยผ่านเวทีสัมมนาเชิงวิชาการภายใต้หัวข้อ “ทางรอดประมงชายฝั่งในจังหวัดสงขลา”
นายเจริญ ทองมา ประธานกลุ่มประมง 3 อำเภอ จ.สงขลา กล่าวว่า หลังจากทางกรมเจ้าท่าแจ้งให้เรือประมงทุกลำไปขึ้นทะเบียนเรือประมงไทย ทำให้ชาวประมงที่ออกทะเลหาปลาในทะเลมาเป็นร้อยๆ ปี ต้องพบว่ามีข้อบังคับ หรือกฎหมายที่ห้ามเรือเล็กออกทะเลหาปลาเกิน 3 ไมล์ทะเล หรือ 5.4 กิโลเมตร และห้ามออกนอกเขตจังหวัด หากเรือลำใดไม่มีทะเบียนเรือถูกปรับ 1,000 บาท หรือไม่เกิน 10,000 บาท และหากนำเรือออกไปนอกเขตจังหวัดจะถูกยึดเรือไว้ 6 เดือน และปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ซึ่งจะเห็นได้ว่าการออกกฎหมาย หรือข้อบังคับดังกล่าว กรมเจ้าท่าไม่ได้คำนึงถึงอาชีพของชาวประมง และในขณะนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า ในทะเลแถบนี้มีแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก การออกกฎหมาย หรือข้อบังคับแบบนี้เป็นการเอื้อต่อบริษัทขุดเจาะหรือไม่ เพราะฉะนั้น วันนี้ชาวประมงขอเรียกร้องให้กรมเจ้าท่า ยกเลิกกฎหมายห้ามเรือเล็กออกทะเลเกิน 3 ไมล์ทะเล และห้ามไม่ให้เรือประมงออกหากินนอกเขตจังหวัด
นายไพฑูรย์ ทินนิมิตร เจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ กรมเจ้าท่า กล่าวว่า กฎหมายทั้ง 2 ข้อที่เรียกร้องมา ยังไม่สามารถตอบได้ตอนนี้ว่าจะสามารถยกเลิกได้หรือไม่ โดยจะมีการประชุมกันภายในกรม ในวันที่ 30 เมษายนนี้อีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างยังมีการเปลี่ยนแปลงได้ สำหรับข้อห้ามที่ไม่ให้เรือเล็กออกไปไกลเกิน 3 ไมล์ทะเลนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของชาวประมงเอง
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ชาวบ้านพูดถึงในเรื่องของแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ตั้งอยู่กลางทะเลห่างจากชายฝั่ง อำเภอสทิงพระไปแค่ 14 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวประมงที่อาศัยอยู่โดยรอบได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ การทำมาหากิน รวมถึงผลกระทบทางธรรมชาติที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สัตว์น้ำในทะเล ทำให้ชาวประมงที่ออกหาปลาประสบความยากลำบากในการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้นไปอีก และหากยังมีกฎหมาย หรือข้อบังคับกำหนดขอบเขตของการออกประมงอีก ชาวบ้านในจังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียงคงจะเดือนร้อนหนัก ถึงแม้ในส่วนของทางราชการจะอ้างถึงความปลอดภัยของชาวบ้านในการประกอบอาชีพ แต่ชาวบ้านก็ยังเชื่อว่าหากกำหนดขอบเขตการทำมาหากินของพวกเขาแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับกบในกะลาที่โดนครอบไว้
ด้าน นายบรรจง นะแส นายกสมาคมคนรักษ์ทะเลไทย กล่าวว่า การออกกฎหมายแบบนี้ เหมือนกับว่าทางกรมเจ้าท่าไม่รู้จักอาชีพประมง เพราะที่ผ่านมา การที่ออกหาปลาของชาวประมงไม่เคยมีการกำหนดเขตหวงห้าม จึงสามารถตั้งสมมติฐานได้ว่า การออกกฎหมายแบบนี้มาเพื่อเป็นการรองรับการขุดเจาะน้ำมันของบริษัทต่างชาติหรือไม่ เพราะแท่นขุดเจาะอยู่ห่างจากชายฝั่งเพียง 14 กม.เท่านั้น หากเป็นอย่างนี้แล้วพี่น้องชาวประมงจะทำมาหากินกันอย่างไร จึงขอย้ำไปทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากส่วนราชการยังไม่รีบแก้ไขกฎหมายในส่วนนี้ ภายใน 2 เดือน ชาวจังหวัดสงขลาจะบุกทำเนียบแน่
อย่างไรก็ตาม ช่วงท้ายของการสัมมานา ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น จึงมีประชาชนคนหนึ่งตั้งข้อซักถามว่า ตนได้สังเกตเวทีลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว และหลายปีแล้ว เมื่อไหร่ที่ชาวบ้านเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ เปิดเวทีให้สัมมนาหรือแสดงความคิดเห็น แต่กลับไม่เคยเห็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจของหน่วยงานนั้นๆ เข้าร่วมเลยแม้แต่สักครั้งเดียว มีก็เพียงส่งตัวแทนมา หลังจากประชุมเสร็จก็บอกว่าจะนำเรื่องนั้นๆ ส่งต่อไปอธิบดีกรมนั้นๆ สุดท้ายเรื่องก็จะจบลงโดยที่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด
นายวุฒิชัย ผ่องแผ้ว ส.ส.สงขลา ซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการในวันนี้ จึงต่อสายตรงถึง นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า ในขณะนั้นเลย แต่ปรากฏว่าคู่สายว่างแต่ปลายสายไม่รับโทรศัพท์แต่อย่างใด