ชีวิตมักมีเรื่องไม่คาดฝันเสมอ ไม่ว่าจะด้วยอุบัติเหตุ หรือโรคภัยไข้เจ็บ “จ.ส.อ.อดุลย์ เป้งทอง” ทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 จ.สตูล ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่ชีวิตพลิกผันราวกับเรื่องตลกร้าย จากอดีตนักฟุตบอลของ จ.สตูล ที่ร่างกายแข็งแรง และออกกำลังกายเป็นประจำ วันหนึ่งได้ล้มป่วย และผลจากการป่วยก็ทำให้ดวงตามืดสนิท มองไม่เห็นอะไรอีกเลย ความฝันในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพก็ต้องชะงักลงทันที
ทำไมถึงสนใจเล่นฟุตบอล
จ.ส.อ.อดุลย์ เป้งทอง : ผมเป็นลูกหลานชาวสวน ครอบครัวอยู่บ้านทางงอ ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล กิจกรรมในวันเด็กก็คือ การได้แตะฟุตบอลกับเพื่อนในท้องทุ่งนาหลังเลิกเรียน เล่นฟุตบอลมาเรื่อย สนามไหนเปิดแข่งขันผมก็จะไปทุกสนามครับ กระทั่งเมื่ออายุ 17 ปี ได้คัดตัวเป็นนักฟุตบอลของจังหวัด เริ่มเล่นฟุตบอลเยาวชนจังหวัด ในตำแหน่ง stopper สวมเสื้อหมายเลข 2 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัว เล่นฟุตบอลไปพร้อมกับเป็นทหาร
สิ่งที่ภูมิใจในชีวิตนักฟุตบอลคืออะไร?
: ผมชอบเล่นฟุตบอลครับ และมีโอกาสเป็นนักกีฬาเขต นี่คือสิ่งที่ภูมิใจ ผมเคยเล่นให้ทีมโคราช ในรายการโปรวิเชียล นาน 1 ปี ก่อนจะกลับมาเล่นที่ จ.สตูล ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้ลงสนาม เพราะได้อยู่กับเพื่อนในเกมกีฬา เป็นเวลาที่รู้สึกผ่อนคลาย ร่างกายก็จะแข็งแรง
ภาพความมืดเข้ามาช่วงไหนของชีวิต และคุณจะเดินต่อไปอย่างไร?
: ผมเป็นไข้นาน 1 ปี คุณหมอบอกว่าเป็นโรค “ไวรัสลงตับ” นอนซมอยู่นานครับ จนกระทั่งเริ่มมองไม่เห็น ภาพต่างๆ เริ่มรางเลือน และค่อยๆ มืดสนิท นาทีนั้นผมไม่ตกใจ หรือกลัวอะไร รู้สึกเฉยๆ มากกว่า เพราะผมเริ่มทำใจยอมรับชะตากรรมได้ และก็มีความหวังว่าวันหนึ่งผมจะได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง นับว่าเป็นโชคดีนะครับที่ครอบครัวไม่ทอดทิ้ง ผมอาจจะโชคดีกว่าอีกหลายชีวิตที่เป็นแบบผม เพราะผมมีกำลังใจที่ดีจากครอบครัว และเพื่อนฝูงที่แวะเวียนมาเยี่ยม
ถ้ามีโอกาสมองเห็นอีกครั้ง จะกลับมาเล่นฟุตบอลอีกมั้ย?
: คงไม่แล้วครับ ถ้ามีโอกาสจริงๆ อยากเป็นครูฝึกสอนมากกว่า เพราะครั้งหนึ่งเคยฝันที่จะเป็นครูฝึก แต่ด้วยอาชีพประจำทำให้ไม่สามารถทำได้ ตอนนี้ก็ต้องมีวินัยในการกินยาตามหมอสั่ง เผื่อจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง หรืออีกวิธีคือ ต้องขึ้นเขียงผ่าตัด แต่ตอนนี้ยังกลัวๆ อยู่
มีอะไรจะแนะนำเด็กรุ่นใหม่ที่อยากจะเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จเช่นคุณบ้าง
: ก็ขอให้ขยันฝึกซ้อม มีวินัย อย่านอกลู่นอกทาง อย่าหลงทาง จริงๆ แล้วการเป็นตัวของตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองรักจะทำให้ประสบความสำเร็จ ผมมีความชอบในสิ่งที่ทำอยู่มาตั้งแต่อายุน้อยๆ ฝึกฝนสม่ำเสมอมาเป็นเวลานาน ฝึกเกือบทุกวัน ผมออกไปเตะฟุตบอลเล่นด้วยใจรัก มีความสนุกกับการเตะบอล เป็นประสบการณ์ที่ดี และไม่มีวันลืม มันจะนำมาซึ่งความสำเร็จในเวลาต่อมา และเป็นความจริงที่ใช้ได้กับทุกอาชีพนะครับ
สำหรับผู้ที่กำลังท้อแท้ในชีวิต จะให้กำลังเขาอย่างไรบ้าง
: ขอให้สู้นะครับ ชีวิตต้องมีพรุ่งนี้เสมอ เรายังมีอีกหลายคนที่อยู่ข้างหลัง สำหรับผมถึงแม้วันนี้จะตาบอดไม่เห็นแสงสว่าง ผมมักจะพูดกับเพื่อนฝูงที่มาเยี่ยมเสมอๆ ว่า ตาบอดก็ดีสิ จะไปไหนก็ได้ ก็แค่นึกเอา ช่วงนี้ผมก็ไปเชียงใหม่อยู่บ่อยๆ (หัวเราะ) จริงๆ แล้วผมจะบอกตัวเองทุกครั้งที่รู้สึกท้อว่า “อยู่เพื่อวันพรุ่งนี้”
จบบทสนทนาอดีตนักฟุตบอลรายนี้ แสดงให้เราเห็นว่าถึงแม้ชีวิตจะพลิกผันแบบไม่คาดฝัน แต่เขาก็เชื่อมั่น และใช้ชีวิตอย่างมีความหวังเสมอ แรงใจที่เห็นได้ชัดและสัมผัสได้ นอกจากครอบครัวของเขาแล้ว คือ ทีมงานเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เคยร่วมเล่นกีฬาด้วยกัน ร่วมกันจัดฟุตบอลการกุศล ซึ่งเงินที่ได้รับจากการจัดกีฬาจะมอบให้ “อดุลย์ เป้งทอง” เป็นค่ารักษาพยาบาล และกองทุนนักกีฬา จ.สตูล ต่อไป