ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ญาตินำศพพลเมืองดีเหยื่อกระสุนโจรโหดจี้ชิงทองกลางเมืองภูเก็ตกลับบ้านเกิด ขณะที่เจ้าของร้านแจ้งผ่านผู้การตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือค่าทำศพ 1 แสนบาท ขณะที่ผู้ว่าฯ-รองผู้บัญชาการ-ผู้บังคับการ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายยังไร้วี่แวว
เมื่อเวลา 12.00 น. ญาติ และเพื่อนๆ ของนายอพิเชษฐ ชูเกลี้ยง อายุ 32 ปี บาร์เทนเดอร์โรงแรมโนโวเทล ป่าตอง ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช พลเมืองดีที่พยายามจะเข้าไปช่วยจับโจรที่ก่อเหตุชิงทอง ห้างทอง ซีพี โกล์ดมาสเตอร์ แอนด์จิวเวลรี สาขาห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ภูเก็ต ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) ม.5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต แต่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสวนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายได้ทองคำไปจำนวน 106 บาท มารอรับศพของผู้เสียชีวิตเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเกิดจำนวนมาก
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุแล้วแต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก ขณะที่พยานหลักฐานต่างๆ ได้ส่งไปตรวจสอบที่สุราษฎร์ฯ แล้วคาดว่าเร็วๆ นี้จะได้ผลกลับมา ส่วนศพของผู้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ผ่าชันสูตรแล้วโดยญาติจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.นครศรีธรรมราช ต่อไป ด้านความช่วยเหลือผู้เสียชีวิตนั้น จากการพูดคุยกับทางเจ้าของร้านทองพบว่า ทางเจ้าของร้ายแจ้งความประสงค์ที่จะช่วยค่าทำศพ จำนวน 1 แสนบาท เนื่องจากเป็นบุคคลที่พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือทางร้านโดยไม่ได้คิดถึงตัวเอง
ขณะที่ น.ส.สาธิกา ชาญสวัสดิ์ อายุ 24 ปี อาชีพบาร์เทนดี้ โรงแรมซีเพิร์ล รีสอร์ท ป่าตอง แฟนสาวของนายอพิเชษฐ์ กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดเหตุนั้น ตนและผู้ตายได้เดินทางมาที่ร้านทองดังกล่าวเพื่อที่จะซื้อสร้อยคอทองคำเก็บสะสมไว้ โดยนำสร้อยคอน้ำหนัก 2 สลึงมาเปลี่ยนเป็น 1 บาท และขณะที่กำลังลองสร้อยคอกันอยู่ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งออกมาจากจุดที่คนร้ายเข้าไป ตนจึงหมอบหลบโดยไม่เห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน ส่วนผู้ตายนั้นได้เดินเข้าไปเพื่อที่จะจับคนร้าย ซึ่งตนคิดว่า นายอพิเชษฐ ไม่เห็นว่าคนร้ายมีปืน ซึ่งตนพยายามที่จะห้าม แต่เค้าก็เดินเข้าไปจนถูกยิงดังกล่าว หลังจากนั้น คนร้ายก็หันไปหยิบทองต่อหน้าตาเฉย ก่อนที่จะออกไปจากร้าน ส่วนนายอพิเชษฐ มีพลเมืองดีขับรถมารับไปส่งที่โรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม สำหรับศพของนายอพิเชษฐ นั้น ทางญาติๆ จะนำกลับไปบำเพ็ญกุศลศพที่วัดควนสระบัว ต.ทุ่งยาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ต่อไป
น.ส.สาธิกา กล่าวต่อไปว่า ตนกับผู้ตายอยู่ด้วยกันมาประมาณ 2 ปี มีแผนที่จะแต่งงานกันปีหน้า จึงมาซื้อทองเก็บไว้ ประกอบกับช่วงนี้ราคาทองถูกลง แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์เสียก่อน ซึ่งผู้ตายนั้นเคยเป็นทหารเกณฑ์ และชอบที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเจอเหตุการณ์เฉพาะหน้าจึงเข้าไปช่วยเหลือทันที
ขณะที่นายเอกพล ใชนุรักษ์ อยู่บ้านเลขที่ 134 ม.1 ต.ทุ่งสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ญาติผู้น้องของผู้ตายรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันครอบครัวนี้ไม่เหลือใครแล้ว พ่อแม่ พี่ชายเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้หมดแล้ว เหลือเพียง นายอพิเชษฐเพียงคนเดียว แต่ก็มาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก ซึ่งผู้ตายนั้นเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ไม่เที่ยวเตร่ ตั้งใจทำงาน ตนจึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับการช่วยเหลือครอบครัว นายอพิเชษฐ พลเมืองดีในครั้งนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.โชติ ชวาลวิวัตน์ ได้มอบเงินเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง โดยมอบผ่านทาง น.ส.สาธิกา ชาญสวัสดิ์ ขณะที่นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบเงินส่วนตัว จำนวน 20,000 บาท และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต มอบอีก 10,000 บาท ซึ่งเป็นการมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยมี น.ส.สาธิกา ชาญสวัสดิ์ เป็นตัวแทนรับมอบเช่นเดียวกัน
เมื่อเวลา 12.00 น. ญาติ และเพื่อนๆ ของนายอพิเชษฐ ชูเกลี้ยง อายุ 32 ปี บาร์เทนเดอร์โรงแรมโนโวเทล ป่าตอง ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช พลเมืองดีที่พยายามจะเข้าไปช่วยจับโจรที่ก่อเหตุชิงทอง ห้างทอง ซีพี โกล์ดมาสเตอร์ แอนด์จิวเวลรี สาขาห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ภูเก็ต ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) ม.5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต แต่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสวนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายได้ทองคำไปจำนวน 106 บาท มารอรับศพของผู้เสียชีวิตเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเกิดจำนวนมาก
พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุแล้วแต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก ขณะที่พยานหลักฐานต่างๆ ได้ส่งไปตรวจสอบที่สุราษฎร์ฯ แล้วคาดว่าเร็วๆ นี้จะได้ผลกลับมา ส่วนศพของผู้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ผ่าชันสูตรแล้วโดยญาติจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.นครศรีธรรมราช ต่อไป ด้านความช่วยเหลือผู้เสียชีวิตนั้น จากการพูดคุยกับทางเจ้าของร้านทองพบว่า ทางเจ้าของร้ายแจ้งความประสงค์ที่จะช่วยค่าทำศพ จำนวน 1 แสนบาท เนื่องจากเป็นบุคคลที่พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือทางร้านโดยไม่ได้คิดถึงตัวเอง
ขณะที่ น.ส.สาธิกา ชาญสวัสดิ์ อายุ 24 ปี อาชีพบาร์เทนดี้ โรงแรมซีเพิร์ล รีสอร์ท ป่าตอง แฟนสาวของนายอพิเชษฐ์ กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดเหตุนั้น ตนและผู้ตายได้เดินทางมาที่ร้านทองดังกล่าวเพื่อที่จะซื้อสร้อยคอทองคำเก็บสะสมไว้ โดยนำสร้อยคอน้ำหนัก 2 สลึงมาเปลี่ยนเป็น 1 บาท และขณะที่กำลังลองสร้อยคอกันอยู่ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งออกมาจากจุดที่คนร้ายเข้าไป ตนจึงหมอบหลบโดยไม่เห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน ส่วนผู้ตายนั้นได้เดินเข้าไปเพื่อที่จะจับคนร้าย ซึ่งตนคิดว่า นายอพิเชษฐ ไม่เห็นว่าคนร้ายมีปืน ซึ่งตนพยายามที่จะห้าม แต่เค้าก็เดินเข้าไปจนถูกยิงดังกล่าว หลังจากนั้น คนร้ายก็หันไปหยิบทองต่อหน้าตาเฉย ก่อนที่จะออกไปจากร้าน ส่วนนายอพิเชษฐ มีพลเมืองดีขับรถมารับไปส่งที่โรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม สำหรับศพของนายอพิเชษฐ นั้น ทางญาติๆ จะนำกลับไปบำเพ็ญกุศลศพที่วัดควนสระบัว ต.ทุ่งยาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ต่อไป
น.ส.สาธิกา กล่าวต่อไปว่า ตนกับผู้ตายอยู่ด้วยกันมาประมาณ 2 ปี มีแผนที่จะแต่งงานกันปีหน้า จึงมาซื้อทองเก็บไว้ ประกอบกับช่วงนี้ราคาทองถูกลง แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์เสียก่อน ซึ่งผู้ตายนั้นเคยเป็นทหารเกณฑ์ และชอบที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อเจอเหตุการณ์เฉพาะหน้าจึงเข้าไปช่วยเหลือทันที
ขณะที่นายเอกพล ใชนุรักษ์ อยู่บ้านเลขที่ 134 ม.1 ต.ทุ่งสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ญาติผู้น้องของผู้ตายรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันครอบครัวนี้ไม่เหลือใครแล้ว พ่อแม่ พี่ชายเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้หมดแล้ว เหลือเพียง นายอพิเชษฐเพียงคนเดียว แต่ก็มาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก ซึ่งผู้ตายนั้นเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ไม่เที่ยวเตร่ ตั้งใจทำงาน ตนจึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับการช่วยเหลือครอบครัว นายอพิเชษฐ พลเมืองดีในครั้งนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัฐ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.โชติ ชวาลวิวัตน์ ได้มอบเงินเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง โดยมอบผ่านทาง น.ส.สาธิกา ชาญสวัสดิ์ ขณะที่นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบเงินส่วนตัว จำนวน 20,000 บาท และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต มอบอีก 10,000 บาท ซึ่งเป็นการมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยมี น.ส.สาธิกา ชาญสวัสดิ์ เป็นตัวแทนรับมอบเช่นเดียวกัน