ระนอง - แม่เด็กหัวโตจังหวัดระนอง วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ หลังพยายามรักษามา 2 ปี ยังไม่เป็นผล เผยแพทย์ยืนยันไม่สามารถรักษาให้หายได้ ส่วนอีกคนผู้พี่ 3 ขวบ ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่สามารถเดินได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป
น.ส.นุชนาฎ หงษ์มา อายุ 33 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 19/2 หมู่ 6 บ้านโตนกลอย ต.กำพวน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง มารดา ด.ช.ณัฐพล ช่วยชาติ บุตรชาย อายุ 2 ปี ซึ่งพิการมีศีรษะโตแต่กำเนิด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บุตรชายของตนพิการมีศีรษะโต ปัจจุบันมี อายุ 2 ขวบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ต้องนอนอยู่บนที่นอนตลอดเวลา สร้างความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันทั้งครอบครัว ที่จะต้องคอยให้การดูแลอย่างใกล้ชิดมาตลอด โดยจากการสังเกตพบว่า ขนาดศีรษะของ ด.ช.ณัฐพล ยังโตขึ้นเรื่อยๆ และยังมีลูกชายอีกคนชื่อ ด.ช.ปณิฐาน ช่วยชาติ อายุ 3 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายของ ด.ช.ณัฐพล ที่ป่วยมีอาการเป็นโรคสมองฝ่อ และกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถเดินได้เช่นกัน
น.ส.นุชนาฎ กล่าวว่า ตอนคลอดใหม่ๆ ลูกทั้ง 2 คนมีร่างกายปกติดี แต่หลังจากนั้น 1 ปี ก็เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่สามารถเดินได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป ซึ่งตนเอง และสามีก็พยายามทำใจและปลอบใจตนเองว่าหมอคงจะมีวิธีที่จะรักษาลูกทั้ง 2 ของตนเองได้ และเคยนำบุตรที่พิการศีรษะโตไปปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลอำเภอสุขสำราญ แต่แพทย์ต่างให้ความเห็นตรงกันว่า ไม่สามารถรักษาบุตรชายให้หายจากความผิดปกติได้ และเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จมาที่ตำบลบางหิน อำเภอกะเปอร์ ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระนอง ได้นำ ด.ช.ณัฐพล ช่วยชาติ บุตรชายไปเข้าเฝ้ารับเสด็จ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณทรงห่วงใย และรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งได้รับการรักษาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลศิริราช รวมถึงเรื่องค่าใช้จ่ายตามแพทย์นัด
ส่วนอาการของโรคแพทย์ที่ตรวจวินิจฉัยขณะนั้นแจ้งว่า สมองบวมน้ำ มีน้ำอยู่ตามเยื่อบุสมองเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการผ่าตัดทำได้แต่เพียงต่อท่อดูดน้ำจากสมองมาลงที่กระเพาะปัสสาวะ และจะต้องคอยดูแลและช่วยเหลือจากคนในครอบครัวตลอดเวลาทั้งการกิน อาบน้ำ และขับถ่าย
รวมถึง ด.ช.ปณิฐาน ซึ่งเป็นพี่ชาย ที่ป่วยมีอาการเป็นโรคสมองฝ่อ และกล้ามเนื้ออ่อนแรง หลังจากที่ครอบครัวต้องคอยดูแล ด.ช.ณัฐพล ที่พิการมีศีรษะโตก็ไม่ได้ทำการรักษา เพราะแทบที่จะไม่มีเวลาพาไปพบแพทย์เลย รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะถ้าไปพบแพทย์ก็หมายความถึงครอบครัวต้องอด ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปกรุงเทพฯ เดือนละ 3-4 ครั้ง ประมาณ 4-5 พันบาท และต้องทิ้งบุตรทั้ง 3 คนให้อยู่ในการอุปการะของเพื่อนบ้าน
ซึ่งตนมีสามีชื่อ นายกริชสวัสดิ์ ช่วยชาติ อายุ 29 ปี ปัจจุบันมีอาชีพรับจ้างตัดยางพารา ตนเองและสามีมีรายได้ประมาณวันละ 300 บาท ต้องเลี้ยงดูลูกถึง 4 คน ซึ่งปัจจุบันมีลูกๆ อีก 2 คน คอยดูแลน้องในช่วงที่ตนต้องออกไปทำงานตัดยางพาราในช่วงเช้าตรู่
ครอบครัวของ น.ส.นุชนาฎ หงส์มา ปัจจุบันมีบุตร 4 คน คนโต คือ ด.ช.กันทราภร คนที่สองชื่อ ณัฐชา คนที่สามชื่อ ปณิฐาน ซึ่งป่วยมีอาการเป็นโรคสมองฝ่อและกล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่สามารถเดินได้ คนที่ 4 ชื่อ ด.ช.ณัฐพล ที่พิการหัวโต แต่ตนเองและสามีก็จะพยายาม และตั้งใจที่จะเลี้ยงดูบุตรทั้ง 4 คนให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
สำหรับผู้มีกุศลจิตต้องการบริจาคช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถบริจาคโดยการโอนเงินผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาคุระบุรี ชื่อบัญชี นายกริชสวัสดิ์ ช่วยชาติ หรือ น.ส.นุชนาฎ หงส์มา บัญชีเลขที่ 825-0-13860-0 หรือประสานผ่านคุณณัฐกานต์ หาญจิตร ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ธุรการ เทศบาลตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง โทร.08-1270-0653