สุราษฎร์ธานี - อาการลูกช้างป่า “รุ่งอรุณ” เริ่มดีขึ้น หลังสัตวแพทย์ระดมกำลังลงพื้นที่ให้การรักษา ในขณะเจ้าหน้าที่วอนผู้ไม่เกี่ยวข้องอย่าเข้าพื้นที่จะทำให้ลูกช้างเกิดอาการเครียด และป้องกันการติดเชื้อ
หลังจากที่มีชาวบ้านไปพบเจ้า “รุ่งอรุณ” ลูกช้างป่าเพิ่งเกิดช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ในบริเวณสวนลองกองของชาวบ้าน ที่บ้านห้วยชัน ม.5 ต.ทุ่งเตาใหม่ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี โดยสภาพลูกช้างทรงตัวยืนไม่ได้ ต้องนอนตะแคง กล้ามเนื้ออ่อนแรง จึงไม่ได้กินนมแม่ตั้งแต่เกิด ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนลูกช้างทั่วไป ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นได้นำทีมสัตวแพทย์เข้าไปดูอาการ และเคลื่อนย้ายออกมาดูแลที่บริเวณโครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 8 ซึ่งมีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับความเป็นอยู่ของช้างป่า
โดยในวันนี้ (31 ม.ค.) ลูกช้าง “รุ่งอรุณ” มีอายุได้ 5 วันแล้ว ซึ่งได้ระดมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 3 แห่งที่อยู่ในโซนภาคใต้ คือ จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 จ.นครศรีธรรมราช และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 จ.สงขลา มาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ มีทั้งการทำกายภาพบำบัด ประคองตัวให้ลูกช้างทรงตัวยืนให้ได้ตามหลักการแพทย์ พร้อมกับป้อนนมให้ตามความเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย
ในขณะที่ทางอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีนำนมผงที่ใช้เลี้ยงทารกที่สามารถทดแทนนมช้าง ซึ่งทางมูลนิธิฯ ได้รับการบริจาคจากผู้ใหญ่ใจดีทั้งหลายไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ฯ พร้อมมุ้งขนาดใหญ่กันยุงกันแมลงรบกวน และกระสอบป่านเพื่อปรับเป็นปลอกขาช้างให้ทรงตัวได้ ป้องกันแผลกดทับ โดยยังห้ามบุคคลภายนอกรบกวน อ้างว่าป้องกันเจ้า “รุ่งอรุณ” เครียด และทีมสัตวแพทย์ทำงานได้สะดวกขึ้น
โดยที่เปอร์เซ็นต์การรอดชีวิตของเจ้า “รุ่งอรุณ” ยังสูง แม้ว่าบางช่วงมีอาการทรงตัว และอิดโรยอยู่บ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม.
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตามเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ยังมีช้างป่าประมาณ 3 โขลงๆ ละ 8-9 ตัว ที่เดินวนเวียนอยู่ตามแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นไปจนถึงแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติเขานัน จ.นครศรีธรรมราช โดยที่แม่ช้างป่าตัวนี้คาดว่าหลังจากที่เห็นว่าลูกบาดเจ็บเดินไม่ได้ จึงไปเข้าโขลงแล้ว เพราะหลังจากที่เจ้าหน้าที่ฯ นำ “รุ่งอรุณ” ไปดูแล ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงไม่พบร่องรอยการกลับมาอีกเลย
