สุราษฎร์ธานี - ผู้ว่าสุราษฎร์ฯ เยี่ยมดูอาการ “รุ่งอรุณ” ลูกช้างป่าที่มีอายุครบ 1 สัปดาห์แล้ว อาการดีขึ้นตามลำดับ เจ้าหน้าที่เตรียมติดกล้อง CCTV ให้ชาวบ้านดูความเคลื่อนไหวห้ามเข้าเขตหวงห้ามหวั่นลูกช้างติดเชื้อ
หลังจากที่มีชาวบ้านไปพบเจ้า “รุ่งอรุณ” ลูกช้างป่าซึ่งเพิ่งคลอดในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ในบริเวณสวนลองกองของชาวบ้าน ที่บ้านห้วยชัน ม.5 ต.ทุ่งเตาใหม่ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี โดยสภาพลูกช้างทรงตัวยืนไม่ได้ ต้องนอนตะแคง กล้ามเนื้ออ่อนแรง จึงไม่ได้กินนมแม่ตั้งแต่เกิด ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนลูกช้างทั่วไป ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็นได้นำทีมสัตวแพทย์เข้าไปดูอาการ และเคลื่อนย้ายออกมาดูแลที่บริเวณทางเข้าน้ำตกดาดฟ้า อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ซึ่งมีสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับความเป็นอยู่ของช้างป่ามากที่สุด วันนี้ (2 ก.พ.) “รุ่งอรุณ” มีอายุครบ 1 สัปดาห์แล้ว มีอาการดีขึ้นตามลำดับ หลังจากที่ได้ระดมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 3 แห่งที่อยู่ในโซนภาคใต้ คือ จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 จ.นครศรีธรรมราช และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 จ.สงขลา มาช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมคณะได้เข้าเยี่ยมดูอาการของเจ้ารุ่งอรุณพร้อมสอบถามอาการจากทีมสัตวแพทย์ด้วยความห่วงใย โดยสัตวแพทย์ได้ให้น้ำเกลือเจ้ารุ่งอรุณ สลับกับการป้อนนมทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มพลังงาน เนื่องจากบางช่วงเจ้ารุ่งอรุณมีอาการท้องเสีย ต้องปรับเปลี่ยนสูตรนมไปเรื่อยๆ ซึ่งช่วงเช้านี้ทางสัตวแพทย์ได้นำกล้วยบดผสมกับนมป้อน ซึ่งเจ้ารุ่งอรุณกินนมได้ดี เพียงแต่ระหว่างที่ป้อนนมต้องนำผ้าปิดเพราะเมื่อคนมากจะมีอาการเครียดบางช่วง กินนมได้น้อยลง จะคุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่มากกว่า และในบางช่วงทางสัตวแพทย์ให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไปเสาะหานำมูลของแม่ช้างที่ยังอยู่ตามแนวป่ามาผสมกับนมให้มีจุลินทรีย์เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้เจ้ารุ่งอรุณกิน เพื่อลดอาการท้องเสีย และช่วยได้ในระดับหนึ่ง
สำหรับอาการแผลกดทับ ทางเจ้าหน้าที่ยังต้องคอยเช็ดทำความสะอาดอย่างต่อเนื่องเพราะกล้ามเนื้อไม่ได้ใช้งาน โดยที่เจ้าหน้าที่ยังต้องทำกายภาพบำบัด ใช้ยาทานวดที่ขาขวาหลังอยู่เรื่อยๆ เพราะยังแข็งทื่อไม่มีแรง ส่วนขาอื่นๆ เคลื่อนไหวขยับเขยื้อนได้ตามปกติ และในวันจันทร์ที่ 4 ก.พ.นี้ ทางสัตวแพทย์จะทำการเจาะเลือดตรวจเช็กร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นรอดูอาการ หากดีขึ้นตามลำดับจะใช้เครื่องเอกซเรย์จากโรงพยาบาลช้างมาตรวจต่อไป
ขณะที่นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่า หากดูด้วยสายตาดูเหมือนว่าอาการของเจ้ารุ่งอรุณน่าจะดีขึ้น ทั้งนี้ ทางจังหวัดจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของน้ำเกลือที่มีกรดอะมิโน ยานวด หรือตามที่ทางสัตวแพทย์ได้ร้องขอ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเช่นเดิม พร้อมห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปในบริเวณเขตหวงห้ามโดยเด็ดขาด และหวังว่าเจ้ารุ่งอรุณจะดีขึ้น และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้