xs
xsm
sm
md
lg

ฟาร์มกุ้งกุลาดำกระบี่เฮ พ่อค้าชาวจีนแห่ซื้อไม่อั้น ทุ่มราคาสูงกว่าเดิม 3 เท่า (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



กระบี่ - เกษตรกรเลี้ยงกุ้งกุลาดำ จ.กระบี่ ส้มหล่น หลังพ่อค้าชาวจีนรับซื้อไม่อั้น เผยให้ราคาสูง 2-3 เท่าตัว ชี้ขึ้นภัตตาคาร ราคาสูงกิโลกรัมละ 1 พันบาท

วันนี้ (25 มี.ค.) นายอรินทร์ ลือประสงค์จิต เลขานุการสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีผู้รับซื้อกุ้งกุลาดำจากจังหวัดภูเก็ต ให้ความสนใจเดินทางมารับซื้อกุ้งกุลาดำภายในบ่อของเกษตรกรที่ฟาร์มกุ้งใน จ.กระบี่ เพื่อส่งไปขายต่อในประเทศจีน โดยเจ้าของบ่อเลี้ยงกุ้งมีหน้าที่เพียงแค่นำอวนลงไปกว้านจับกุ้งมาให้แก่คนงานของผู้รับซื้อ เพื่อคัดเลือก และแยกกุ้งที่ไม่ได้ขนาดออกไป จากนั้นนำมาชั่งแล้วนำกุ้งใส่ลงในถังน้ำขนาด 20 ลิตร ซึ่งผสมน้ำแข็งเพื่อปรับอุณหภูมิให้เหลือ 27-28 องศา จากนั้นนำไปแพกใส่กล่องที่ จ.ภูเก็ต แล้วส่งไปขายที่ประเทศจีน ซึ่งหลังจากไปถึงจีน กุ้งกุลาดำเหล่านี้จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 1,800-2,000 บาท ส่วนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจะได้ราคาหน้าบ่อ 60 ตัวที่กิโลกรัมละ 260 บาท ซึ่งหากขายในประเทศจะมีราคาแค่ 100-120 บาทเท่านั้น

นายอรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำในจังหวัดกระบี่ ขณะนี้มีเพียงประมาณ 10 กว่ารายเท่านั้น เนื่องจากเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งได้เปลี่ยนไปเลี้ยงกุ้งขาวกันจำนวนมาก เนื่องจากเลี้ยงง่าย โตเร็ว ซึ่งขณะนี้ถือเป็นโชคดีของผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำ เนื่องจากมีพ่อค้าจากประเทศจีนให้ความสนใจรับซื้อไม่อั้น และมีราคาสูงกว่าขายในประเทศเฉลี่ย 100 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาขายจะเป็นไปตามขนาดของกุ้ง เช่น 35 ตัวต่อกิโลกรัม ราคาอยู่ที่ 380-400 บาท 40 ตัวต่อกิโลกรัม ราคา 350-360 บาท และ 45 ตัวต่อกิโลกรัม ราคา 320 บาท สุดท้าย 60 ตัวต่อกิโลกรัม ราคา 260-300 บาท ประกอบกับในช่วงเทศกาลเชงเม้ง ราคาจะสูงอีกเกือบเท่าตัวทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำในขณะนี้

ขณะเดียวกัน นายอรินทร์ ยังกล่าวอีกว่าสำหรับกุ้งกุลาดำที่ส่งไปขายที่ประเทศจีนนั้นจะมีวิธีการ โดยทางฟาร์มจะเลี้ยงกุ้งในระยะเวลาประมาณ 4-8 เดือน เพื่อให้กุ้งได้ขนาดตามต้องการตั้งแต่ 30-60 ตัวต่อกิโลกรัม จากนั้นทางพ่อค้าคนกลางที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 ราย จะรับออเดอร์มาจากพ่อค้าที่ประเทศจีนว่า แต่ละวัน หรือสัปดาห์ต้องการกี่กิโลกรัม เมื่อได้ออเดอร์มาแล้วก็จะแจ้งนัดหมายกับผู้เลี้ยงในการดำเนินการ ซึ่งในแต่ละรอบก็จะไม่เท่ากัน มีการสั่งซื้อตั้งแต่ 1 ตันขึ้นไป จนถึง 5 ตัน

ทั้งนี้ วิธีการจับ และส่งไปจีนเริ่มต้นจากทางฟาร์มจะลงอวนลากจับกุ้งขึ้นมาใส่ในถังน้ำขนาดใหญ่ ที่มีการปรับอุณหภูมิให้อยู่ที่ 28 องศา แล้วนำกุ้งไปชั่งเพื่อใส่ในถังขนาด 20 ลิตร ที่ปรับอุณหภูมิอยู่ที่ 27-28 องศาในถัง ซึ่งจะทำให้กุ้งอยู่นิ่งถังละ 13 กิโลกรัม และมีเครื่องให้ออกซิเจน จากนั้นจะนำไปแพกใส่กล่องที่มีน้ำแข็งที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ 17 องศา ก็จะทำให้กุ้งสลบ กล่องหนึ่งจะได้ 7-8 กิโลกรัม แล้วนำขึ้นเครื่องบินไปประเทศจีน ซึ่งที่ จ.ภูเก็ต จะมีเที่ยวบินตรงไปที่จีน หลังจากไปถึงพ่อค้าจะนำไปส่งยังร้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภัตตาคาร หรือโรงแรมหรู แล้วนำกุ้งใส่ในตู้กระจกที่ปรับความเค็มให้เท่ากับจุดที่เลี้ยง ส่วนอุณหภูมินั้นแล้วแต่ละพื้นที่ ก็จะทำให้กุ้งฟื้นขึ้นมา ลูกค้าก็จะได้ซื้อกุ้งเป็นๆ ไปรับประทาน และกุ้งเหล่านี้สามารถเลี้ยงไว้ได้อีกหลายวัน ถือว่าวิธีการนี้เป็นการเพิ่มราคาให้แก่กุ้งกุลาดำของไทยอย่างมาก
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น