บุรีรัมย์ - เจ้าหน้าที่ อคส. เข้าให้ปากคำตร.บุรีรัมย์ กรณีมันสำปะหลังโครงการจำนำปี 55/55 สองอำเภอสูญหายกว่า 33,000 ตัน มูลค่ากว่า 250 ล้าน พบเบาะแสมันล่องหนที่ลานหลังแปรสภาพแล้วแต่ไม่ส่งเข้าโกดังกลาง เตรียมเรียกเจ้าของและชุดสายตรวจสอบเพิ่ม ขณะเกษตรกรทยอยนำมันเข้าร่วมโครงการฯจำนำใหม่ ท่ามกลาง จนท.ดูแลเข้มป้องกันโกง
วันนี้ (30 ม.ค.) นายสุรชัย มุกมีค่า พร้อมนายวัฒนา วัฒนพาณิชย์ เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ประจำจุดรับจำนำมันสำปะหลังในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และตัวแทนจาก อคส.ส่วนกลาง ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อชี้แจงกรณีมันสำปะหลังในโครงการรับจำนำหรือแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปีการผลิต 2554/55 ที่ผ่านมา ที่ บริษัทแสงอีสานการเกษตร จำกัด และ บริษัท ชโลบล อินเตอร์ไพร์ จำกัด ที่มาเช่าพื้นที่เปิดลาน ที่ อ.หนองกี่ และ บริษัท ธงฟ้า เทรดดิ้ง จำกัด ที่เช่าเปิดลานที่ อ.ละหานทราย ได้หายไปจากลาน ทั้ง 3 แห่ง ในพื้นที่ 2 อำเภอ ปริมาณกว่า 33,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าที่สร้างความเสียหายแก่งบประมาณของรัฐกว่า 250 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ อคส. ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสอบทั้ง 2 สภ. ให้ดำเนินการเอาผิดกับทั้ง 3 บริษัท ในข้อหา “ยักยอกทรัพย์” ขณะที่ผู้ประกอบการอ้างว่ามันจำนวนดังกล่าวได้ถูกฝนตกเปียกเสียหาย ทำให้ไม่สามารถแปรสภาพส่งโกดังกลางได้
พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับมอบหมายดูแลรับผิดชอบคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ อคส.ทำให้ได้รายละเอียดเพิ่มเติมในระดับหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ทราบชัดเจนแล้วว่าผลผลิตมันที่สูญหายนั้น หายไปจากลานหลังทำการแปรสภาพแล้ว แต่ไม่ได้ส่งมอบเข้าโกดังกลางตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา
ดังนั้นทางผู้ประกอบการในฐานะคู่สัญญา จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบฐาน “ยักยอกทรัพย์” ซึ่งหลังจากนี้จะได้เรียกทางผู้ประกอบการ รวมถึงชุดสายตรวจเฉพาะกิจที่เข้าตรวจสอบ มาสอบปากคำในเชิงลึกเพิ่มเติม เพื่อหาข้อเท็จจริงว่ามันที่สูญหายนั้นอยู่ที่ใด และมีใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง ส่วนจะการทุจริตหรือไม่นั้นก็จะต้องสอบสวนในทางลึกอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนในเบื้องต้น ยังไม่พบข้อมูลเบาะแส ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเตมิว่า ขณะที่บรรยากาศการรับจำนำโครงการรับจำนำหรือแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปีการผลิต 2554/56 ของ จ.บุรีรัมย์ในขณะนี้ หลังมีการเปิดจุดรับจำนำไปแล้ว 3 แห่ง ที่ อ.หนองกี่ 2 แห่งและ อ.ละหานทราย 1 แห่ง จากทั้งหมด 8 แห่ง ได้มีเกษตรกรจากหลายอำเภอนำผลผลิตหัวมันสด ทยอยมาเข้าร่วมโครงการฯ แล้วอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการตรวจตราดูแลของเจ้าหน้าที่ประจำจุดรับจำนำอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต หรือเกิดปัญหาซ้ำรอยปีที่ผ่านมา
