xs
xsm
sm
md
lg

“ค้าภายใน” บุรีรัมย์รุดให้ปากคำข้าวจำนำหาย 880 ตัน-ตร.พบพิรุธอื้อส่อโกง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร การค้าภายในจ.บุรีรัมย์ เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนกรณีข้าวโครงการรับจำนำ ปี54/55 หายไป 880 ตันกว่า 15 ล้าน โดย พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง  รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้สอบปากคำด้วยตัวเอง วันนี้ ( 29 ม.ค.)
บุรีรัมย์ - การค้าภายในบุรีรัมย์นำข้อมูลเอกสารเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน แจงกรณีข้าวโครงการจำนำปี 54/55 หาย 880 ตัน กว่า 15 ล้าน ขณะแปรสภาพส่งโกดังกลาง ด้านรองผู้การเผยพบพิรุธหลายอย่างขัดแย้งกันส่อทุจริต เตรียมเรียก อคส.สอบเพิ่ม หาข้อเท็จจริง

วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร หัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด นำข้อมูลเอกสารที่ได้รับจากทางองค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ต่อพนักงานสอบสวนที่ดูแลรับผิดชอบคดี เพื่อชี้แจงกรณีที่ข้าวท่อน และข้าวปลาย ที่ บริษัท แสงอีสานการเกษตร จำกัด อ.ประโคนชัย รับจำนำจากเกษตรกรในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ที่ผ่านมา ได้ขาดหายไปจากโรงสีจำนวน 882,819 กิโลกรัม หรือกว่า 880 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท โดยไม่มีการสีแปรสภาพข้าว ส่งให้คลังสินค้ากลางตามระยะเวลาที่กำหนด

โดยนายสุทธิศักดิ์ได้ชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นเกิดจากความผิดพลาดด้านการประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ อคส.ในพื้นที่และทางส่วนกลาง เนื่องจากช่วงที่คณะกรรมการฯ เข้าตรวจโรงสีแต่ไม่พบข้าวนั้น ทางโรงสีระบุว่าอยู่ระหว่างส่งมอบข้าวเข้าโกดังกลาง แต่ข้าวไม่ได้คุณภาพจึงถูกตีกลับมาให้ทำการปรับปรุงคุณภาพ ก่อนจะส่งมอบเข้าโกดังกลางอีกครั้ง และเมื่อตรวจสอบล่าสุดก็พบมีการส่งมอบข้าวให้คลังสินค้ากลางครบทั้งหมดแล้ว

ทางด้าน พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ ระบุภายหลังสอบปากคำหัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ด้วยตัวเองว่า จากข้อมูลการสอบปากคำเบื้องต้น พบพิรุธและข้อสังเกตหลายอย่างที่ยังมีความขัดแย้งกัน โดยเฉพาะการเข้าแจ้งความของเจ้าหน้าที่ อคส.เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 55 ตัวแทนเจ้าหน้าที่ อคส.ในพื้นที่ได้เข้าลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สภ.ประโคนชัย ว่าข้าวใน บริษัท แสงอีสานการเกษตร ขาดหายไปขณะแปรสภาพส่งโกดังกลาง

ต่อมาเมื่อเดือน พ.ย.ทาง อคส.กลับมีหนังสือแจ้งมาว่า ทางบริษัทได้ส่งมอบข้าวสารเข้าโกดังกลางครบทั้งหมดแล้ว และมีการตัดบัญชียืนยันว่าไม่มีสินค้าค้าง แต่พอวันที่ 14 ม.ค. 56 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ อคส.คนเดิมกลับเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้งให้เอาผิดบริษัทแสงอีสานการเกษตรฐาน “ยักยอกทรัพย์” จึงเชื่อว่าน่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง หรืออาจจะมีการทุจริตในโครงการฯ ดังกล่าวหรือไม่

“อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนคดีดังกล่าวอย่างละเอียดรอบคอบเพราะข้อมูลค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) จะได้เรียก อคส.จากส่วนกลางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมอีกเพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวน และเชื่อว่าจะได้ความกระจ่างมากขึ้น” พ.ต.อ.วิรัตน์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น