บุรีรัมย์ -บุรีรัมย์ตรวจสอบพบทุจริตมันสำปะหลังและข้าวในโครงการรับจำนำฉาวของรัฐบาลปี 54/55 เพิ่มอีก 2 อำเภอ มูลค่าเสียหายกว่า 55 ล้าน ขณะรองผู้การฯ เรียกประชุมด่วนพนักงานสอบสวน จี้เร่งสอบเชิงลึก ทั้งเตรียมเรียกการค้าภายใน-อคส.สอบปากคำเพิ่ม สาวหาตัวผู้กระทำผิด
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองบุรีรัมย์ พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ ดูแลรับผิดชอบคดีทุจริตยักยอกมันสำปะหลัง และข้าวในโครงการรับจำนำของรัฐบาลปี 2554/55 ได้เรียกพนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีจาก 3 สภ.ที่เกิดเหตุ ได้แก่ สภ.หนองกี่, สภ.ละหานทราย และ สภ.ประโคนชัย นำสำนวนการสืบสวนสอบสวนเข้ามารายงานความคืบหน้าของคดี
โดยพบเพิ่มเติมว่ามีมันสำปะหลังในโครงการจำนำปี 2554/55 หายไปจากลานที่บริษัท ธงฟ้า เทรดดิ้ง จำกัด ได้มาเช่าลานมันตั้งอยู่เลขที่ 92 หมู่ 9 ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เปิดรับจำนำมันในโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง หรือโครงการรับจำนำมัน ของรัฐบาล โดยไม่ได้มีการแปรสภาพมันส่งโกดังกลางอีกกว่า 5,400 ตัน มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทาง อคส.ยังตรวจพบข้าวในโครงการรับจำนำฯ ปี 2554/55 ที่แปรสภาพแล้วเป็นข้าวท่อน และปลายข้าว ได้หายไป รวมกันจำนวน 870 ตัน มูลค่าความเสียหายกว่า 15.3 ล้านบาท ที่เก็บไว้ในโกดังกลางของบริษัท แสงอีสานการเกษตร จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 153 หมู่ 10 ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ รวมเป็นทั้งข้าวและมันสำปะหลังที่หายไปจากการตรวจพบเพิ่มอีก 2 อำเภอ มูลค่ากว่า 55 ล้านบาท และทาง อคส.ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ละหานทราย ให้เอาผิดบริษัท ธงฟ้า เทรดดิ้ง จำกัด และแจ้งความที่ สภ.ประโคนชัย ให้เอาผิดบริษัท แสงอีสานการเกษตร จำกัด ในข้อหายักยอกทรัพย์แล้ว
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทาง อคส.ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัท แสงอีสานการเกษตร จำกัด และบริษัท ชโลบล อินเตอร์ไพรส์ จำกัด หลังจากทั้ง 2 บริษัทที่รับจำนำมันสำปะหลังแล้วได้หายไปจากลาน ไม่ได้แปรสภาพส่งโกดังกลางปริมาณกว่า 18,000 ตัน ทำให้รัฐเสียหายมูลค่ากว่า 212 ล้านบาท ที่ สภ.หนองกี่แล้วเช่นกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์เร่งรัดข้อมูลเพิ่มเติมจาก อคส.และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดียักยอกทรัพย์ตามที่ อคส.ได้แจ้งความ
พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนที่ดูแลรับผิดชอบคดีได้มีการตรวจสอบโกดังและลานมันที่เกิดปัญหาในเชิงลึก เพราะเชื่อว่าการหายไปของมันและข้าวในโครงการรับจำนำน่าจะทำกันเป็นขบวนการ มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันเพราะผู้ประกอบการเป็นรายเดียวกัน
พร้อมกันนี้ยังจะได้เรียกการค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้าเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 28 ม.ค.และ 30 ม.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนสาวหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทั้งหมด เนื่องจากทำให้รัฐเสียหายรวมเป็นมูลค่ามหาศาล