กาฬสินธุ์ - รวบแล้ว 3 โจ๋เมืองกาฬสินธุ์ปล้นฆ่าผู้จัดการหนุ่มเซเว่นฯ สารภาพหาเงินไปจ่ายค่าเหล้าแค่ 320 บาท แฉพฤติกรรมอำมหิต ตำรวจตั้งข้อหาหนักร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ความคืบหน้ากรณีนายสมพร เรืองพร อายุ 25 ปี ชาว จ.มหาสารคาม ผู้จัดการร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาปั๊มน้ำมัน ปตท.สงวนวงศ์ ถูกคนร้ายดักแทงชิงทรัพย์เอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงิน ขณะขี่จักรยานยนต์เลิกงานกลับห้องพักที่ถนนสายกาฬสินธุ์-กมลาไสย บริเวณหลักกม.ที่ 4 ทางเข้าบ้านหลุบ ตำบลหลุบ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.เกรียงไกร รับงาม รอง ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้าย
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (21 มี.ค.) พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ เนื้อนวล ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมชุดเจ้าหน้าที่สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และสภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม 3 คนร้ายที่ร่วมกันปล้นฆ่านายสมพร เรืองพร ประกอบด้วย 1. นายเจษฎา หรือเจ มูลศรี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/1 ซอยพรรณนา 1 ถนนพรรณนา เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ 2. นายจิตติ หรือแซน สายสวัสดิ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ถนนกุดยางสามัคคี เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และ 3. นายท็อป (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 17 ปี ชาวตำบลหลุบ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
หลังชุดสืบสวนสามารถจับกุมตัวได้ที่หอพักดีซี ซอยเฟื่องฟ้า 2 พร้อมของกลางอาวุธมีด (มีดสนาม) ยาว 32 ซม. จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าดรีม สีดำ ที่ใช้ก่อเหตุ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง กระเป๋าเงิน เอกสารต่างๆ ของนายสมพรผู้ตาย
โดยนายเจษฎาซึ่งเป็นผู้ลงมือแทงนายสมพรจนเสียชีวิต รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อน 4-5 คนได้ไปนั่งดื่มสุราที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ จากนั้นได้เรียกให้พนักงานมาเก็บเงิน 820 บาท แต่ปรากฏว่าเงินมีอยู่เพียง 500 บาทไม่พอจ่ายค่าเหล้าและอาหาร ขาดอยู่ 320 บาท ตนจึงชวนนายจิตติและนายท็อปขี่จักรยานยนต์ออกไป 2 คันเพื่อไปดักชิงทรัพย์บริเวณที่เกิดเหตุ
กระทั่งนายสมพรขี่จักรยานยนต์มาถึงจึงขี่รถตามประกบ จากนั้นตนซึ่งนั่งซ้อนท้ายนายจิตติได้ใช้เท้าถีบรถของนายสมพรล้มลง พร้อมกับรุมเข้าไปทำร้ายและล้วงเอาโทรศัพท์และกระเป๋าเงิน แต่นายสมพรไม่ยอม พยายามต่อสู้ ตนจึงใช้มีดแทงเข้าที่หลัง 1 ครั้ง และนำเงินที่ได้จากนายสมพร จำนวน 900 บาทกลับไปจ่ายค่าเหล้า กระทั่งมาถูกตำรวจจับได้ดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาระบุว่าเพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ คาดว่าน่าจะร่วมกันก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาหลายครั้งแล้ว และจะนำทรัพย์สินมีค่าที่ได้ไปซื้อเหล้าและเที่ยวเตร่ แต่พอเงินหมดก็ลงมือก่อเหตุอีก
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมทั้ง 3 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ตั้งแต่ร้านอาหารที่สี่แยกเลี่ยงเมือง ซึ่งเป็นจุดที่ดักซุ่มรอเหยื่อ และจุดเกิดเหตุบริเวณคลองน้ำ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย