ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช” ผบช.ภ.8 ร่วมเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรสายงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม เน้นทำงานสมัยใหม่ พร้อมแก้ไขปัญหาต้องไม่กระทบต่อประชาชน รองรับเปิดประชาคมอาเซียน
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่ห้องประชุมอาคารกิจกรรมนักศึกษา ชั้น 5 มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาบุคลากรสายงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สู่ความเป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน ซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-29 มีนาคม 2556 โดยมี พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรภาค 9 ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ จำนวน 230 นาย เข้าร่วม
สำหรับการจัดฝึกอบรมภายใต้โครงการฯ ดังกล่าว มีวัตถุเพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพข้าราชการตำรวจ ในสายงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทุกสถานีตำรวจ เป็นตำรวจมืออาชีพในการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรสายงานป้องกันและปราบปรามของทุกสถานีตำรวจ ให้เตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี พ.ศ.2558 ประกอบกับการพัฒนาองค์ความรู้ รูปแบบ วิธีการ และเทคนิคในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมตามกระบวนการทัศน์ใหม่ ตามแนวทางการทำงานตำรวจสมัยใหม่ พร้อมควบคุม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้อยู่ในภาวะที่ไม่กระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน จนทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ปัจจุบัน กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้ปัญหาอาชญากรรมมีแนวโน้ม และรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน อาชญากรรมทุกประเภทมีการพัฒนารูปแบบการกระทำที่สลับซับซ้อน และหลากหลายมากขึ้น ทั้งปัญหายาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ตลอดจนอาชญากรรมพิเศษ หรือกฎหมายรูปแบบใหม่ เช่น การก่อการร้าย ค้ามนุษย์ และปัญหาแรงงานต่างด้าว ที่ปัจจุบันเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และกำลังเป็นปัญหาระดับชาติที่จะต้องเร่งดำเนินการป้องกันและปราบปรามให้หมดสิ้น ตลอดจนรัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายนำประเทศไทยไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ.2558 อย่างสมบูรณ์
โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบวิสัยทัศน์การเป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน ในปี พ.ศ.2555-2558 และได้กำหนด 3 ยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมของประชาชน ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์แรก การสร้างศักยภาพและความสามารถเพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และทักษะ การมีส่วนร่วมของประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น และองค์กรในกิจการตำรวจ การพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนกับชุมชนในการดำเนินงาน การมีส่วนร่วมและแก้ไขปัญหาร่วมกันของประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น และองค์กรในกิจการตำรวจอย่างต่อเนื่อง และยุทธศาสตร์สุดท้าย การพัฒนาการจัดระบบงานการมีส่วนร่วมด้วยการนำหลักวิชาการไปสู่การปฏิบัติในชุมชน รวมทั้งการประเมินผลให้เกิดองค์ความรู้ในกระบวนการวิธีการ
นอกจากนี้ ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังได้มีนโยบายสำคัญในการควบคุมแก้ไขปัญหาอาชญากรรม และปัญหาสังคมทั่วไปที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ให้อยู่ในภาวะที่ไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติของประชาชน สร้างกลไกการมีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรมโดยอาศัยชุมชน ในขณะเดียวกัน ต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานเพื่อควบคุมปัญหาอาชญากรรมที่มีความรุนแรง รวมทั้งปัญหาบุคลากรให้มีสมรรถนะสูง ตลอดจนพัฒนาทรัพยากรบุคลากรตำรวจทั้งระบบเพื่อให้มีศักยภาพ และมีความเป็นมืออาชีพเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
ขณะที่แผนงานด้านการป้องกันอาชญากรรมนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวต่อว่า ส่งเสริมกลไกการมีส่วนของประชาชนนั้น โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับกระบวนการป้องกันอาชญากรรม ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานในการป้องกันอาชญากรรม และวิเคราะห์สถานการณ์อาชญากรรมในชุมชนได้ แสวงหาแนวร่วม อาสาสมัคร สร้างเครือข่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน และส่งเสริมบทบาทของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นวิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ และนโยบายที่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้วางไว้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน