ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชมรมธนูภูเก็ต จัดแข่งขันธนูภูเก็ต โอเพ่น ครั้งที่ 3 เพื่อส่งเสริมกีฬาธนูให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ผลักดันก้าวขึ้นสู่การจัดการแข่งขันในระดับสากลมากขึ้น เผยมีนักกีฬาลงทะเบียนร่วมแข่งขันแล้วกว่า 40 คน ยังเปิดรับสมัครเพิ่มไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.นี้
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (16 มี.ค.) บริเวณสนามหญ้า หน้าภัตตาคารบลูอีเลฟเฟ่น นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต ในฐานะหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนส่งเสริมชมรมธนูภูเก็ต พร้อมด้วย นายบัณฑิต สันติกุล ประธานชมรมธนูภูเก็ต นายมนตรี ธรรมกิจ ประธานจัดงานการแข่งขันธนูภูเก็ต โอเพ่น ครั้งที่ 3 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันธนูภูเก็ตโอเพ่น ครั้งที่ 3 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้กีฬาธนูเป็นที่รู้จักแพร่หลาย สร้างเสริมให้กำลังใจนักกีฬา และช่วยประชาสัมพันธ์งานนี้ให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป
นายมนตรี กล่าวถึงการจัดการแข่งขันธนูภูเก็ต โอเพ่น ครั้งที่ 3 ว่า เป็นการพัฒนามาจากการแข่งขันธนูประจำปีของชมรมฯ ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2553 ทางคณะกรรมการชมรมฯ เห็นว่า การจัดการแข่งขันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้นักกีฬาได้มีโอกาสที่จะเรียนรู้ประสบการณ์จากการแข่งขันจริง และเพื่อได้เรียนรู้เทคนิค วิธีการ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะการแข่งขันจะเป็นบันไดให้นักกีฬาได้พัฒนาฝีมือของตนเอง การแข่งขันธนูภูเก็ตโอเพ่น ปัจจุบันได้ถูกบรรจุอยู่ในปฏิทินการแข่งขันธนูประจำปี ทุกเดือนเมษายนที่นักกีฬาธนูไม่ควรพลาด โดยทางชมรมได้รับความอนุเคราะห์จากภัตตาคารบลูอีเลฟเฟ่น สนับสนุนด้านสถานที่จัดการแข่งขัน ซึ่งถือว่าเป็นสนามการแข่งขันธนูที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่ง นอกจากมีความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีสของจังหวัดภูเก็ตแล้ว ยังมีความเด่นในด้านคุณภาพของอาหารไทยในระดับสากลด้วย
นายมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากความพร้อมด้านสนามการแข่งขันแล้ว ชมรมฯ ยังได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบถ้วยรางวัล โดยการแข่งขันธนูภูเก็ตโอเพ่นครั้งที่ 3 ในวันที่ 6 เมษายนนี้ เป็นการแข่งขันทั้งหมด 11 ประเภทการแข่งขัน ชิงถ้วยรางวัล 57 รางวัล จากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยถ้วยรางวัลในปีนี้มีแนวคิดการออกแบบมาจากอุปกรณ์กีฬาธนู เป็นการจำลองซองใส่ลูกธนูพร้อมลูก นอกจากนี้ ยังมีเหรียญรางวัลสำหรับประเภทจัดลำดับ ซึ่งออกแบบจำลองหัวของลูกธนู และสำหรับเยาวชนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน จะได้รับประกาศนียบัตรในการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ทุกคน
การแข่งขันครั้งนี้ ขณะนี้ได้รับความสนใจจากนักกีฬาจากชมรม สมาคมต่างๆ จากใน และต่างประเทศ เช่น สมาคมไทยแลนด์เอาท์ดอร์อาร์เชอรีคลับ ชมรมตรังอาเชอรีคลับ ชมรมธนูมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชมรมเขาใหญ่อาเชอรี่คลับ และชมรมยิงธนูนครพิงค์เชียงใหม่ ล่าสุด มีการตอบรับจากชมรมเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ จำนวนนักกีฬาที่ลงทะเบียนการแข่งขันแล้ว ประมาณ 30-40 คน ประเภทการแข่งขันในวันนั้น จะแบ่งตามชนิดของธนู 3 ประเภท คือธนูโค้งกลับ ธนูทดกำลัง และธนูเทรดิชันแนล และแบ่งตามรุ่นของอายุ ก็จะมีรุ่นเยาวชนต่ำกว่า 12 ปี รุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี และรุ่นบุคคลทั่วไป โดยจะแข่งขันในระยะ 18 เมตร และ 30 เมตร และปีนี้ยังมีการแข่งขันประเภททีมอีกด้วย โดยผู้สนใจสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้
สำหรับการแข่งขันในภาคเช้า เวลา 09.00-09.45 น. เป็นการเก็บคะแนน รอบที่ 1 ของทุกประเภทการแข่งขัน เวลา 10.30-11.00 น. เป็นการเก็บคะแนน รอบที่ 2 ของทุกประเภทการแข่งขัน ส่วนภาคบ่าย เวลา 13.00-17.00 น. เป็นการแข่งขันประเภททีม และรอบชิงชนะเลิศของทุกประเภท เวลา 17.00-18.00 น.พิธีมอบถ้วยรางวัลแก่นักกีฬา และพิธีปิดการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าการแข่งขันธนูในครั้งนี้มีครบทุกประเภท ทุกรุ่น จึงใคร่ขอประชาสัมพันธ์เพื่อการรับสมัครนักกีฬาซึ่งยังคงเปิดรับ
ด้านนายสาโรจ อังคณาพิลาส นายกสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต กล่าวด้วยว่า ทางสมาคมฯ ยินดีที่จะช่วยผลักดันให้ชมรมธนูภูเก็ต ก้าวขึ้นมาจัดการแข่งขันยิงธนูในระดับสากลมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้นักกีฬาธนู ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า กีฬาธนูจะสร้างอนาคตให้แก่เยาวชน และสร้างชื่อเสียงให้แก่วงการกีฬาในจังหวัดภูเก็ตอย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (16 มี.ค.) บริเวณสนามหญ้า หน้าภัตตาคารบลูอีเลฟเฟ่น นายสาโรจน์ อังคณาพิลาส นายกสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต ในฐานะหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนส่งเสริมชมรมธนูภูเก็ต พร้อมด้วย นายบัณฑิต สันติกุล ประธานชมรมธนูภูเก็ต นายมนตรี ธรรมกิจ ประธานจัดงานการแข่งขันธนูภูเก็ต โอเพ่น ครั้งที่ 3 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันธนูภูเก็ตโอเพ่น ครั้งที่ 3 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้กีฬาธนูเป็นที่รู้จักแพร่หลาย สร้างเสริมให้กำลังใจนักกีฬา และช่วยประชาสัมพันธ์งานนี้ให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป
นายมนตรี กล่าวถึงการจัดการแข่งขันธนูภูเก็ต โอเพ่น ครั้งที่ 3 ว่า เป็นการพัฒนามาจากการแข่งขันธนูประจำปีของชมรมฯ ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2553 ทางคณะกรรมการชมรมฯ เห็นว่า การจัดการแข่งขันเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้นักกีฬาได้มีโอกาสที่จะเรียนรู้ประสบการณ์จากการแข่งขันจริง และเพื่อได้เรียนรู้เทคนิค วิธีการ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะการแข่งขันจะเป็นบันไดให้นักกีฬาได้พัฒนาฝีมือของตนเอง การแข่งขันธนูภูเก็ตโอเพ่น ปัจจุบันได้ถูกบรรจุอยู่ในปฏิทินการแข่งขันธนูประจำปี ทุกเดือนเมษายนที่นักกีฬาธนูไม่ควรพลาด โดยทางชมรมได้รับความอนุเคราะห์จากภัตตาคารบลูอีเลฟเฟ่น สนับสนุนด้านสถานที่จัดการแข่งขัน ซึ่งถือว่าเป็นสนามการแข่งขันธนูที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่ง นอกจากมีความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีสของจังหวัดภูเก็ตแล้ว ยังมีความเด่นในด้านคุณภาพของอาหารไทยในระดับสากลด้วย
นายมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากความพร้อมด้านสนามการแข่งขันแล้ว ชมรมฯ ยังได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบถ้วยรางวัล โดยการแข่งขันธนูภูเก็ตโอเพ่นครั้งที่ 3 ในวันที่ 6 เมษายนนี้ เป็นการแข่งขันทั้งหมด 11 ประเภทการแข่งขัน ชิงถ้วยรางวัล 57 รางวัล จากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต โดยถ้วยรางวัลในปีนี้มีแนวคิดการออกแบบมาจากอุปกรณ์กีฬาธนู เป็นการจำลองซองใส่ลูกธนูพร้อมลูก นอกจากนี้ ยังมีเหรียญรางวัลสำหรับประเภทจัดลำดับ ซึ่งออกแบบจำลองหัวของลูกธนู และสำหรับเยาวชนผู้เข้าร่วมการแข่งขัน จะได้รับประกาศนียบัตรในการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ทุกคน
การแข่งขันครั้งนี้ ขณะนี้ได้รับความสนใจจากนักกีฬาจากชมรม สมาคมต่างๆ จากใน และต่างประเทศ เช่น สมาคมไทยแลนด์เอาท์ดอร์อาร์เชอรีคลับ ชมรมตรังอาเชอรีคลับ ชมรมธนูมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชมรมเขาใหญ่อาเชอรี่คลับ และชมรมยิงธนูนครพิงค์เชียงใหม่ ล่าสุด มีการตอบรับจากชมรมเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ จำนวนนักกีฬาที่ลงทะเบียนการแข่งขันแล้ว ประมาณ 30-40 คน ประเภทการแข่งขันในวันนั้น จะแบ่งตามชนิดของธนู 3 ประเภท คือธนูโค้งกลับ ธนูทดกำลัง และธนูเทรดิชันแนล และแบ่งตามรุ่นของอายุ ก็จะมีรุ่นเยาวชนต่ำกว่า 12 ปี รุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี และรุ่นบุคคลทั่วไป โดยจะแข่งขันในระยะ 18 เมตร และ 30 เมตร และปีนี้ยังมีการแข่งขันประเภททีมอีกด้วย โดยผู้สนใจสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้
สำหรับการแข่งขันในภาคเช้า เวลา 09.00-09.45 น. เป็นการเก็บคะแนน รอบที่ 1 ของทุกประเภทการแข่งขัน เวลา 10.30-11.00 น. เป็นการเก็บคะแนน รอบที่ 2 ของทุกประเภทการแข่งขัน ส่วนภาคบ่าย เวลา 13.00-17.00 น. เป็นการแข่งขันประเภททีม และรอบชิงชนะเลิศของทุกประเภท เวลา 17.00-18.00 น.พิธีมอบถ้วยรางวัลแก่นักกีฬา และพิธีปิดการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าการแข่งขันธนูในครั้งนี้มีครบทุกประเภท ทุกรุ่น จึงใคร่ขอประชาสัมพันธ์เพื่อการรับสมัครนักกีฬาซึ่งยังคงเปิดรับ
ด้านนายสาโรจ อังคณาพิลาส นายกสมาคมกีฬาจังหวัดภูเก็ต กล่าวด้วยว่า ทางสมาคมฯ ยินดีที่จะช่วยผลักดันให้ชมรมธนูภูเก็ต ก้าวขึ้นมาจัดการแข่งขันยิงธนูในระดับสากลมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้นักกีฬาธนู ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า กีฬาธนูจะสร้างอนาคตให้แก่เยาวชน และสร้างชื่อเสียงให้แก่วงการกีฬาในจังหวัดภูเก็ตอย่างแน่นอน
