พัทลุง - เกษตรกร อ.ตะโหมด จ.พัทลุง หันมาปลูกผักหวานจีนที่มีราคา กก.ละ 100 บาท สร้างรายได้งาม ขณะที่มีการสั่งซื้อกิ่งพันธุ์จากประเทศจีนเป็นจำนวนมากแต่ไม่สามารถส่งให้ได้ เนื่องจากกิ่งพันธุ์ยังไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกในพื้นที่
“ผักหวาน” เป็นผักที่ใช้ปรุงเป็นอาหารได้หลายชนิด และยังเป็นพืชสมุนไพร มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งของโปรตีน วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา และมีสรรพคุณเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) มีแคลเซียม และ ฟอสฟอรัสสูง ช่วยบำรุงกระดูก และฟันให้แข็งแรง และใยอาหาร ช่วยในการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี และโดยทั่วไป ผักหวานมี 2 ประเภท คือ ผักหวานบ้าน และผักหวานป่า ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
ส่วนยอด และใบอ่อน และช่อผลอ่อนของผักหวานทั้ง 2 ชนิด รสชาติหวาน กรอบ สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น ต้มจิ้มน้ำพริก หรือแจ่ว ผัดอ่อม แกงใส่หน่อไม้ หรือแกงเปรอะ แกงเห็ด แกงเลียง แกงจืด ผัดผัก ยำผัก โดยเฉพาะแถวทางภาคอีสาน และภาคเหนือนั้น จะนิยมแกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง แกงใส่ปลาแห้ง และทางใต้มักจะนำมาใส่ในแกงเลียง
และที่ผ่านมา การบริโภคผักหวานส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเด็ด หรือเก็บเกี่ยวมาจากป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติเพียงบางฤดูกาลเท่านั้น และไม่ได้มีการทำแปลงเพาะปลูกกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การปลูกผักหวานเพื่อเป็นการค้าในพื้นที่จังหวัดพัทลุงเริ่มมีมากขึ้น และสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรผู้ปลูกได้เป็นอย่างดี และเป็นที่ต้องการของตลาดอีกด้วย
นายพิทูรย์ จรูญรัตน์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 ม.4 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เกษตรกรผู้ปลูกผักหวานจีนรายใหญ่ในจังหวัดเล่าว่า หลังจากที่ได้ไปศึกษาดูงานการปลูกผักหวานในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง เมื่อ 3 ปีก่อน ได้ซื้อต้นผักหวานจีนมา จำนวน 10 ต้น แล้วได้นำมาเพาะปลูกขยายพันธุ์จนเต็มพื้นที่ จำนวน 4 ไร่ จนถึงทุกวันนี้ และการปลูกผักหวานจีนสามารถสร้างรายได้เสริมให้เป็นอย่างดี โดยสามารถเก็บยอดผักหวานขายได้ถึงกิโลกรัมละ 100 บาท มีแม่ค้าเข้ามาซื้อถึงแปลง และสามารถเก็บยอดอ่อนขายได้ทุกวัน ซึ่งในน้ำหนัก 1 กก. เก็บยอดขายเพียง 4-5 ต้นเท่านั้น
ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ตนเตรียมที่จะขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็น 20 ไร่ เพื่อรองรับตลาดต่างประเทศ อย่างประเทศจีน ที่เริ่มสั่งซื้อยอดผักหวานเข้ามาในช่วงนี้ และเบื้องต้น ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ผักหวานจีนทางเกษตรกรจากประเทศจีนได้สั่งกิ่งพันธุ์ จำนวน 103,000 กิ่ง เพื่อนำไปปลูกแต่ก็ยังไม่ส่งได้ครบ เนื่องจากกิ่งพันธุ์ยังไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูกในพื้นที่
สำหรับผักหวานจีนที่มีการปลูก มีรสกรอบอร่อย ไม่เหม็นเขียว เหมือนกับผักหวานบ้าน และผักหวานป่า ซึ่งเกษตรสามารถนำกิ่งพันธุ์มาปลูกเพียงเดือนเดียวก็สามารถเก็บยอดส่งขาย และเก็บมาบริโภคได้
และขั้นตอนการปลูกผักหวานจีนก็ไม่ยุ่งยาก เพียงนำกิ่งพันธุ์มาปลูกในที่โล่ง มีแสงแดดจัด รดน้ำสม่ำเสมอ ใส่ปุ์ยอินทรีย์ตามสมควร และไม่ต้องใช้สารเคมีแต่อย่างใด เท่านี้ผักหวานจีนก็สามารถให้ผลิตตามที่ต้องการได้ โดยการปลูกใช้ความห่างระหว่างแถวประมาณ 1 เมตร ระหว่างต้น 40 ซม. เพื่อสะดวกในการดูแลรักษาต้นเท่านั้น