xs
xsm
sm
md
lg

อดีต รมช.มหาดไทยติงรัฐบาลแก้ปัญหาชายแดนใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ อดีต รมช.มหาดไทย
ตรัง - ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจฯ และอดีต รมช.มหาดไทย เปิดบ้านรับฟังปัญหาชาวบ้าน พร้อมติงถึงการแก้ปัญหาชายแดนใต้ของรัฐบาลให้เดินหน้าอย่างรอบคอบ และเหมาะสม

วันนี้ (10 มี.ค.) นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้การต้อนรับ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ อดีต รมช.มหาดไทย ที่บ้านพักในเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง รวมทั้งเปิดบ้านเลี้ยงน้ำชา กาแฟแก่ชาวบ้านที่เข้าเยี่ยม รวมทั้งข้าราชการตำรวจ สภ.ย่านตาขาว ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการสร้างสถานีตำรวจ 1 ใน 396 แห่งทั่วประเทศ ที่ยังไม่มีการดำเนินการก่อสร้างแต่อย่างใด

พร้อมทั้งได้มอบเงินเพื่อเป็นสวัสดิการแก่ตำรวจชั้นผู้น้อย สภ.บ้านในควน ซึ่งได้รับเลือกเป็นโรงพักดีเด่น มีการบริหารจัดการแบบเศรษฐกิจพอเพียง สามารถแก้ปัญหายาเสพติด และลดคดีอาชญากรรมได้ตามเป้าหมาย

นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีต รมช.มหาดไทย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า แม้ว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมีการเจรจากับมาเลเซีย แต่ก็ยังต้องใช้เวลา เพราะยังมีอีกหลายกลุ่มที่ยังก่อความไม่สงบอยู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสิ่งที่ตนขอตำหนิรัฐบาล คือ รัฐบาลได้นำเรื่องนี้มาวางบนโต๊ะ เป็นการลงนามกันระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทย กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ

ซึ่งอาจจะนำไปสู่การหยิบยกเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมนานาชาติได้ ถ้าหากมีการกระทบด้านสิทธิมนุษยชน แต่อย่างไรก็ตาม ตนสนับสนุนการพูดจาสันติภาพมาโดยตลอด แต่สิ่งที่ต้องทำพร้อมกัน คือ การแก้ไขปัญหาภายใน สร้างความยุติธรรม สร้างความเท่าเทียม ยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน ตามวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐบาลได้กล่าวว่าในวันที่ 28 มีนาคมนี้ จะมีการประชุมพูดจากันอีกครั้งหนึ่ง โดยทาง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผู้อำนวยการ ศอ.บต. มีความเห็นว่า ควรจะให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งรู้ดีในทางที่จะทำให้เกิดสันติภาพ ได้มีส่วนร่วมในการพูดจาสันติภาพ อย่ามองว่าเป็น ส.ส.ฝ่ายค้าน เสียงข้างน้อย แล้วไม่มีส่วนร่วมในการก่อให้เกิดสันติภาพ

แต่จริงๆ แล้วรัฐบาลควรจะยอมรับความจริงว่า การยกเลิกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือการเริ่มใช้มาตรา 21 เปิดโอกาสให้ผู้หลงผิด รู้เท่าไม่ถึงการณ์เข้ามามอบตัวเพื่อนำไปสู่การอบรม และยุติการดำเนินคดี เป็นส่วนหนึ่งในการพูดจาสันติภาพ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้เริ่มไว้ ดังนั้น เมื่อรัฐบาลเห็นว่าเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันแก้ไข ก็ควรจะเปิดให้พื้นที่ฝ่ายค้านเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย

นอกจากนั้น การที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าไปมีส่วนร่วมก็ต้องดูแต่ละกิจกรรม เช่น กำลังพูดอยู่กับใคร กรอบของการพูดจาเป็นอย่างไร แต่หากการพูดจาเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งเขตปกครองพิเศษ พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เอาด้วย ส่วนการเจรจาของรัฐบาลที่บอกว่า เป็นการเจราอยู่กับแกนนำก่อการร้ายในภาคใต้ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า เป็นของจริง หรือของปลอม ดังนั้น รัฐบาลควรเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านเข้าไปพิสูจน์ด้วย

และสิ่งที่ตนกำลังกังวลอยู่ขณะนี้ คือ รัฐบาลนี้อาจจะเปิดโอกาสให้ 3 จังหวัด 4 อำเภอ เป็นเขตปกครองพิเศษ หากการปกครองพิเศษ ให้อำนาจแก่องค์กรนี้แบบสุดๆ เห็นว่าประชาชนคงจะไม่เอาด้วย เพราะมีผลกระทบต่อการเป็นราชอาณาจักร มีผลกระทบต่อชนกลุ่มน้อย ดังนั้น เห็นว่ารัฐบาลจะทำอะไรให้พูดความจริงกับประชาชน

ส่วนการที่รัฐบาลได้เจรจากับมาเลเซีย จะมีผลลดความรุนแรงลงได้มากน้อยแค่ไหน นายถาวร กล่าวว่า ประเทศมาเลเซียมีแต่ได้กับได้ ไม่มีอะไรเสีย อีกประมาณ 2 เดือน ก็จะมีการเลือกตั้ง เมื่อ นายราชีพ เป็นพระเอกในเรื่องนี้ ซึ่งมีญาติของชาวมาเลเซีย ที่อยู่ทางเหนือของประเทศ มาก่อเหตุความไม่สงบในภาคใต้ของไทย และเป็นบุคคลที่มีเชื้อชาติเดียวกัน หากบุคคลเหล่านั้นได้ในสิ่งที่เขาต้องการ เชื่อว่า นายราชีพ ก็ได้ประโยชน์ด้วย ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน จึงต้องการที่จะให้รัฐบาลระมัดระวัง ต้องการให้เปิดเผยรายละเอียด ต้องการให้รอบคอบ และต้องฟังความเห็นทุกฝ่ายก่อนที่จะไปเจรจา


กำลังโหลดความคิดเห็น