กระบี่ - หอการค้าจังหวัดกระบี่ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลคลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ เปิดโครงการเก็บเกี่ยวข้าว “ทำบุญกินข้าวใหม่” ฟื้นฟูพื้นที่ทำนาข้าวด้วยวิธีผสมผสาน และภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตเกษตรกร
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (28 ก.พ.) ที่แปลงนา บ้านเกาะกลาง ม.1 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ นายสมาน แสงสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเก็บเกี่ยวข้าว “ทำบุญกินข้าวใหม่” ในโครงการ 1 ไร่ 1 แสน เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ทำนาข้าว ตามแบบวิธีผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตของเกษตรกร และให้ประชาชนเข้าใจ และเข้าถึงแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีนายภูวดิท ปรีชานนท์ ประธานกรรมการบริหารหอการค้า จ.กระบี่ นายประดิษฐ์ จันทร์ทอง นายก อบต.คลองประสงค์ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน กลุ่มชาวนาตำบลคลองประสงค์ เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการร่วมกันเก็บเกี่ยวข้าวสังข์หยดที่ปลูกไว้ภายในแปลงนาสาธิตด้วยเทคโนโลยีสรรพสิ่งอะตอมมิคนาโน ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตได้ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งปัจจุบัน ข้าวออกรวงสุกเหลืองอร่าม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็ได้ลงพื้นที่ร่วมกันเก็บเกี่ยวกันอย่างคึกคัก บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน
จากนั้นก็นำข้าวที่เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ก็มาสีกับครกสีข้าวแบบโบราณ ซึ่งเป็นกรรมวิธีของชาวนาในสมัยโบราณที่ปัจจุบันหาดูได้ยาก นอกจากนี้ ก็ได้มีการนำข้าวสังข์หยด ซึ่งเป็นผลผลิตจากโครงการฯ มาหุง และร่วมกันรับประทานกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งชาวนาในอดีตจะเรียกการนำข้าวในแปลงนามาหุงกินในมื้อแรกเรียกว่า “การทำบุญกินข้าวใหม่”
นายภูวดิท ปรีชานนท์ ประธานกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ นำร่อง โครงการ 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสนบาท ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จำนวน 20 ราย พบว่า โครงการดังกล่าวได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สามารถลดต้นทุนได้จริง จากอดีตพื้นที่นา 1 ไร่ ต้องใช้พันธุ์ข้าวทำนาถึง 2 กิโลกรัม แต่ภายหลังจากทำนาตามโครงการ 1 ไร่ ได้ 1 แสนบาท ใช้พันธุ์ข้าวทำนาเพียง 0.4-0.5 กิโลกรัมเท่านั้น และการทำนาแบบเดิมรวงข้าวที่ออกต่อกอประมาณ 25-30 รวง แต่เมื่อทำนาตามโครงการดังกล่าว ได้รวงข้าว 60 รวงต่อกอ นอกจากทำนาแล้ว ในพื้นที่ 1 ไร่ จะมีการเลี้ยงปลา ปลูกผักปลอดสารพิษ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พื้นที่ทำโครงการก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางมาเที่ยวชมนาข้าว ถ่ายรูปและทำกิจกรรมไม่ขาดสายจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง ของตำบลคลองประสงค์ ซึ่งเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างความยั่งยืนและความเข้มแข็งให้พี่น้องเกษตรกรได้เป็นอย่างดี
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (28 ก.พ.) ที่แปลงนา บ้านเกาะกลาง ม.1 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ นายสมาน แสงสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเก็บเกี่ยวข้าว “ทำบุญกินข้าวใหม่” ในโครงการ 1 ไร่ 1 แสน เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ทำนาข้าว ตามแบบวิธีผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตของเกษตรกร และให้ประชาชนเข้าใจ และเข้าถึงแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีนายภูวดิท ปรีชานนท์ ประธานกรรมการบริหารหอการค้า จ.กระบี่ นายประดิษฐ์ จันทร์ทอง นายก อบต.คลองประสงค์ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน กลุ่มชาวนาตำบลคลองประสงค์ เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการร่วมกันเก็บเกี่ยวข้าวสังข์หยดที่ปลูกไว้ภายในแปลงนาสาธิตด้วยเทคโนโลยีสรรพสิ่งอะตอมมิคนาโน ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตได้ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งปัจจุบัน ข้าวออกรวงสุกเหลืองอร่าม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็ได้ลงพื้นที่ร่วมกันเก็บเกี่ยวกันอย่างคึกคัก บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน
จากนั้นก็นำข้าวที่เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ก็มาสีกับครกสีข้าวแบบโบราณ ซึ่งเป็นกรรมวิธีของชาวนาในสมัยโบราณที่ปัจจุบันหาดูได้ยาก นอกจากนี้ ก็ได้มีการนำข้าวสังข์หยด ซึ่งเป็นผลผลิตจากโครงการฯ มาหุง และร่วมกันรับประทานกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งชาวนาในอดีตจะเรียกการนำข้าวในแปลงนามาหุงกินในมื้อแรกเรียกว่า “การทำบุญกินข้าวใหม่”
นายภูวดิท ปรีชานนท์ ประธานกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ นำร่อง โครงการ 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสนบาท ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จำนวน 20 ราย พบว่า โครงการดังกล่าวได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สามารถลดต้นทุนได้จริง จากอดีตพื้นที่นา 1 ไร่ ต้องใช้พันธุ์ข้าวทำนาถึง 2 กิโลกรัม แต่ภายหลังจากทำนาตามโครงการ 1 ไร่ ได้ 1 แสนบาท ใช้พันธุ์ข้าวทำนาเพียง 0.4-0.5 กิโลกรัมเท่านั้น และการทำนาแบบเดิมรวงข้าวที่ออกต่อกอประมาณ 25-30 รวง แต่เมื่อทำนาตามโครงการดังกล่าว ได้รวงข้าว 60 รวงต่อกอ นอกจากทำนาแล้ว ในพื้นที่ 1 ไร่ จะมีการเลี้ยงปลา ปลูกผักปลอดสารพิษ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พื้นที่ทำโครงการก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางมาเที่ยวชมนาข้าว ถ่ายรูปและทำกิจกรรมไม่ขาดสายจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง ของตำบลคลองประสงค์ ซึ่งเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างความยั่งยืนและความเข้มแข็งให้พี่น้องเกษตรกรได้เป็นอย่างดี