ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ดีเอสไอลงพื้นที่ภูเก็ต นำหมายค้นศาลอาญาตรวจค้น “บริษัท ทรายสีน้ำเงิน” คาดเกี่ยวข้องกับการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว จ.พังงา ในการทำทรายเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมยึดเอกสาร คอมพิวเตอร์ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และการชำระภาษี
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (27 ก.พ.) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักปฏิบัติการพิเศษ และชุดสารวัตรทหารที่ 3 ทัพเรือภาคที่ 3 นำหมายศาลอาญา เลขที่ 48/2556 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556 เข้าตรวจค้นบริษัท ทรายสีน้ำเงิน จำกัด เลขที่ 115/7 หมู่ที่ 2 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ นำตรวจค้น
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการพิเศษ กล่าวถึงการตรวจค้นบริษัทฯ ดังกล่าวว่า เป็นการนำหมายค้นของศาลอาญามาทำการตรวจค้น อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากในปี 2555 ที่ผ่านมา ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการจับกุมผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว จ.พังงา และจากการตรวจสอบเชื่อว่า บริษัทดังกล่าวอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จึงได้ขอหมายศาลอาญา และนำมาทำการตรวจค้น
เพื่อตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบเสร็จ เอกสารการสั่งซื้อทรายทั้งหมด เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น โดยหลังจากได้หลักฐานต่างๆ ดังกล่าวแล้วก็จะนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายภาษีให้แก่รัฐ หากดำเนินการไม่ถูกต้องก็จะมีการเรียกเก็บย้อนหลัง และเนื่องจากความผิดมูลฐานที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ใดครอบครองทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการค้า ก็จะส่งเรื่องให้แก่ทาง ปปง. ตรวจอายัดทรัพย์ต่อไปด้วย
ส่วนกรณีที่มีการตรวจยึดคอมพิวเตอร์ไปด้วยนั้น เพราะเชื่อว่าน่าจะมีรายละเอียดการสั่งทราย โดยจะตรวจสอบว่ายอดการซื้อขายเป็นอย่างไร ตรงกับข้อมูลที่ดีเอสไอมีอยู่หรือไม่อย่างไร และแต่ละรายการสั่งซื้อได้มีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ รายรับที่ได้มานั้นไปเข้าบัญชีผู้ใด มีใครเกี่ยวข้องบ้าง
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า หลังจากที่มีการรวบรวม และตรวจสอบหลักฐานต่างๆ แล้ว หากพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องก็จะได้มีการขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับต่อไป ส่วนของทรัพย์สินที่ตรวจสอบแล้วพบว่าได้มาโดยมิชอบ และเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็จะส่งเรื่องให้แก่ ปปง.ในการตรวจอายัดทรัพย์ต่อไป
ทั้งนี้ เดิมได้มีการตั้งข้อหาเกี่ยวกับการบุกรุกป่าสงวนฯ ในการทำทรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และหากมีความผิดที่เกี่ยวกับนายทุน และมีกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการค้าก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป รวมไปถึงเรื่องของการฟอกเงินด้วย แต่ท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่กับหลักฐาน และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งทางบริษัทสามารถที่จะชี้แจงข้อมูลต่อทางดีเอสไอได้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งก็จะมีการตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ
ทั้งนี้ การตรวจยึดทรัพย์สินเมื่อปี 2555 นั้น มีมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท จากมูลค่าเครื่องจักร และรถ ซึ่งในครั้งนั้นมีรถของบริษัทดังกล่าวอยู่ด้วยหลายคัน ส่วนมูลค่าการขายทรายว่ามีมากน้อยเพียงใดคงต้องมีตรวจสอบ และรวบรวมข้อมูลอีกครั้ง
สำหรับการตรวจค้นของกรมสอบสวนคดีพิเศษ นอกจากการตรวจค้นในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 2 จุด คือ บริษัท ทรายสีน้ำเงิน จำกัด เลขที่ 115/7 หมู่ที่ 2 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และบริษัท ฉัตรชัยภูเก็ต ทรานสปอร์ต (2006) จำกัด เลขที่ 128/11 หมู่ที่ 5 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ตแล้ว ยังมีการตรวจค้นบ้านเลขที่ 32/2 หมู่ที่ 5 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ด้วย