สุราษฎร์ธานี - ความมั่นคงภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี สนธิกำลังหลายฝ่าย ตรวจค้นแรงงานต่างด้าวชาวพม่าเกือบ 200 คน ที่เข้ามาอาศัยในอาคารโรงเรียนร้างแห่งหนึ่งแถบชานเมือง เบื้องต้นสงสัยเข้าเมืองไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบผิดกฎหมายผลักดันกลับ และดำเนินคดีกับผู้นำเข้า
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (26 กพ.) พ.อ.สัมฤทธิ์ ศุภรางกูร รองผู้อำนวยการความมั่นคงภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี สนธิกำลังทหาร เจ้าหน้าที่ ตม. ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 30 นาย บุกเข้าทำการตรวจค้นอาคารโรงเรียนคริสเตียนสุราษฎร์ธานี เลขที่ 22/24 หมู่ที่ 5 ตำบลวัดประดู่ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนร้างเลิกกิจการไปแล้ว หลังจากมีผู้ร้องเรียนว่า มีกลุ่มบุคคลนำแรงงานชาวพม่าจำนวนมากเกือบ 200 คนเข้าอยู่อาศัยภายในอาคารโรงร้างเกรงจะเกิดความไม่ปลอดภัย
จากการตรวจสอบภายในอาคาร พบด้านหลังมีการดัดแปลงเป็นห้องพักจำนวนหลาย 10 ห้อง ภายในมีแรงงานชาวพม่าชายหญิงพักอาศัยอยู่อย่างแออัด จำนวน 167 คน จากการตรวจสอบเอกสารพบว่า แรงงานทั้งหมดได้เดินทางมาจาก เมืองเมียวดี ประเทศพม่า โดยเข้ามาทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธุ์ 2556 แต่ไม่มีเอกสารการว่าจ้างทำงานที่ใด
นายเอกชาติ หงส์พันธ์ ผู้ดูแลแรงงานระบุว่า แรงงานทั้งหมดนำเข้าโดยของบริษัท เจอาร์ คอเปอร์เรชั่น เอ็นเตอร์ไพรส์ (2012) จำกัด ซึ่งมีนายมานะ รุจิระยรรยง และนางจรรยารักษ์ รุจิระยรรยง เป็นกรรมการบริษัท เพื่อนำแรงงานทั้งหมดส่งต่อไปยังผู้ว่าจ้างอีกต่อหนึ่ง
พ.อ.สัมฤทธิ์ ศุภรางกูร ระบุว่า จากการตรวจสอบเอกสารพบว่า บริษัทดังกล่าวมีการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555 ต่อมา เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 มีการขออนุญาตจ้างแรงงานต่างด้าว สำนักงานจัดหางานจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 1,000 คน ต่อมา แจ้งขออนุญาตเพิ่มอีก 600 คน และ 400 คน ตามลำดับ ซึ่งอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ แต่อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารการเข้าเมืองอย่างถูกต้องหรือไม่ และควบคุมตัวเจ้าของอาคารไปสอบสวนดำเนินคดีให้ที่พักพิงชาวต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต หากพบว่าการนำเข้าแรงงานไม่ถูกต้องเตรียมผลักดันกลับประเทศ และดำเนินคดีต่อเจ้าของบริษัทต่อไป
ด้านนายมานะ รุจิระยรรยง กรรมการบริษัท เจอาร์ คอเปอร์เรชั่น เอ็นเตอร์ไพรส์ (2012) จำกัด กล่าวชี้แจงว่า ความจริงแล้วแรงงานต่างด้าวชาวพม่าทั้งหมดนั้น ตนได้ขออนุญาตนำเข้าอย่างถูกต้องและมีเอกสารครบทุกชิ้น แต่ในวันดังกล่าวเป็นวันหยุดทำให้ตนไม่สามารถไปยื่นเอกสารต่อทางเจ้าหน้าที่ได้
แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมแล้วตนก็ได้ไปยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่และเสียค่าปรับเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น จึงยืนยันได้ว่าตนไม่ได้ลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวและเป็นการค้ามนุษย์แต่อย่างใด