กระบี่ - อุทยานหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี เตรียมนำประติมากรรมสึนามิ “กอดฉันให้แน่น” กลับไปไว้ที่เดิม พร้อมจัดรักษาความปลอดภัยเต็มรูปแบบ หวั่นถูกโจรกรรม เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเตือนภัยสึนามิที่สร้างความสูญเสียมหาศาลทั้งชีวิต และทรัพย์สิน
นายชัยธัช บุญภูพันธ์ตันติ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ กล่าวถึงประติมากรรมสึนามิ “กอดฉันให้แน่น” (Hold Me Close) ที่หลุย บูรชัวร์ นักประติมากรรมหญิงชาวฝรั่งเศสผู้ล่วงลับได้ออกแบบสร้างขึ้นภายหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปลายปี 2547 จำนวน 2 ชิ้น โดยชิ้นหนึ่งเป็นรูปมือโผล่ออกมาจากเกลียวคลื่น และรูปมือประกบกันภายในซุ้ม ได้สร้างมอบให้จังหวัดกระบี่ และนำไปติดตั้งไว้ที่บริเวณสวนสน หาดนพรัตน์ธารา ม.5 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ใกล้กับที่ทำการอุทยานฯ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงถึงผู้สูญเสีย จากกรณีภัยพิบัติธรรมชาติคลื่นยักษ์สึนามิ เข้าถล่มเมืองฝั่งอันดามันของประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547
นายชัยธัช กล่าวอีกว่า หลังจากที่ได้นำประติมากรรมทั้งสองมาจัดแสดงไว้ช่วงเวลาระยะหนึ่ง ทางกระทรวงวัฒนธรรม ได้นำไปจัดแสดงโชว์ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2553 ทำให้ชาวจังหวัดกระบี่ไม่พอใจ และเรียกร้องให้นำกลับมาคืนที่จังหวัดกระบี่ในปีเดียวกัน แต่หลังจากนั้น ก็ไม่ได้กลับมาติดตั้งไว้ที่เดิม โดยทางจังหวัดกระบี่ได้มอบหมายให้ทางคลังจังหวัดเป็นเป็นผู้เก็บรักษาระหว่างที่จัดหาสถานที่ติดตั้งใหม่ เนื่องจากที่เดิมเริ่มชำรุด โดยได้มีการประชุมร่วมกันหลายฝ่ายทั้งทางจังหวัดกระบี่ และ อบต.อ่าวนาง รวมทั้งภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ ได้ข้อสรุปว่า ให้นำประติมากรรมสึนามิทั้งสองชิ้นไปติดตั้งไว้ที่เดิม คือ ที่บริเวณสวนสน หาดนพรัตน์ธารา
จากเดิมที่จะวางไว้ที่ศูนย์เรียนรู้สำนักงานอุทยานหาดนพรัตน์ธาราฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาได้เยี่ยมชม แต่จะต้องมีมาตรการดูแลเฝ้าระวังที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการโจรกรรม เพราะขณะนี้ ชิ้นงานดังกล่าวมีมูลค่าสูงมาก เนื่องจากศิลปินผู้ออกแบบก็ได้ล่วงลับไปแล้ว จึงต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษ โดยบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ เช่น เจ้าหน้าที่อุทยานฯ อบต.อ่าวนาง รวมทั้งทางจังหวัดหมุนเวียนกันดูแล
ส่วนสถานที่ติดตั้งใหม่ก็เตรียมออกแบบมาให้สอดคล้องกัน และมีไฟส่องสว่าง ยามรักษาความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการของงบประมาณไปยังจังหวัดเพื่อจัดสร้างสถานที่ติดตั้งประติมากรรมสึนามทั้งสองชิ้น เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นอนุสรณ์สถานเตือนสติให้แก่ชนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงภัยธรรมชาติ ที่จะต้องหามาตรการป้องกันเพื่อลดความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนต่อไป