xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเน็ตลาวสมเพช “แม้ว หมาว้อ” มีพันล้าน ไม่มีแผ่นดินอยู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่ รปภ.ลาวเดินขนาบข้างไปทุกหนแห่ง การเดินทางเข้าเวียงจันทน์ของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ในสัปดาห์นี้ สะท้อนให้เห็นความคิดเห็นที่แตกแยกกันในประชาคมออนไลน์ชาวลาว รวมทั้งจำนวนหนึ่งที่เตือนให้ทางการคอมมิวนิสต์วางตัวเป็นกลางในเรื่องนี้ อีกจำนวนหนึ่งสะท้อนตรงไปตรงมาถึงการเป็น นายกฯ ขวัญใจประชาชน แต่ ทุจริตโกงกินใหญ่โต ของนักโทษชายที่หลบหนีโทษจำคุกจากไทย และ เปรียบเทียบที่ว่าอดีตนายกฯ คนนี้ไม่ต่างกับ หมาบ้า แม้ร่ำรวยเงินทองนับพันนับหมื่นล้าน แต่การทุจริตทำให้ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ และต้องระหกระเหินไปทั่ว.(ภาพจากไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/gallery/view/pol/4857)

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สมาชิกประชาคมออนไลน์ชาวลาวจำนวนไม่น้อยได้เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยที่หลบหนีโทษจำคุก และระหกเข้าลาวในสัปดาห์นี้ มีการนำภาพกิจกรรมต่างๆ ของทักษิณขณะอยู่ในเมืองหลวงของลาวเผยแพร่จากเว็บสู่เว็บอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเว็บไซต์ของชาวลาวโพ้นทะเล

ประชาคมออนไลน์ชาวลาวมีความเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับนักโทษชายชาวไทย พวกเขาได้สะท้อนเรื่องนี้ออกมาผ่านเว็บบล็อก และเว็บไซต์หลายแห่งในสัปดาห์นี้

ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งกล่าวว่า การดำเนินนโยบายช่วยเหลือคนยากคนจน ทำให้ทักษิณเป็นที่รักใคร่ของประชาชนระดับล่างจำนวนมาก แต่อีกส่วนหนึ่งกล่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรีผู้อื้อฉาวของไทยช่วยเหลือประชาชนจริงแต่ก็ทุจริตคดโกงอย่างใหญ่โต จึงทำให้ชะตากรรมเป็นเช่นนี้

"ທັກສິນເບິ່ງແລ້ວບໍ່ຕ່າງຍັງກັບໝາວໍ້ ເສດຖີ ພັນລ້ານແຕ່ບໍ່ມີປະເທດຢູ່ ຍ້ອນໂກງກິນ" ชาวเน็ตคนหนึ่งเขียนลงในเว็บบล็อกสมาคมลาวในวันพฤหัสบดี 12 เม.ย.ที่ผ่านมา หรือ 1 วันหลังจากทักษิณเดินทางเข้าลาว ซึ่งบ่งบอกว่า เจ้าของความเห็นนี้เป็นชาวลาว และเขียนภาษาลาวอย่างถูกต้อง

ข้อความในย่อหน้าข้างบนมีความหมายตรงไปตรงมาว่า “ดูแล้วทักษิณก็ไม่ต่างอะไรกับสุนัขบ้า เศรษฐีพันล้าน แต่ไม่มีประเทศอยู่เพราะว่าโกงกิน”

"ຊ່ວຍບອກໝໍ ທັກສິນແດ່ວ່າ ນັກຂ້າສອງຝັງຂອງ ກຳລັງຕາມຫາຢູ່" ชาวเน็ตอีกคนหนึ่งออกความเห็น ซึ่งแปลว่า “ช่วยบอกนายทักษิณหน่อยนะว่า นักฆ่าสองฝั่งโขงกำลังตามหาอยู่” และต่อมาอีกคนหนึ่งได้เขียนโต้ตอบว่า “ບໍ່ຢ້ານ ມີຂອງດີຢູ່" (ไม่กลัว มีของดีอยู่)

ต่อความเห็นล่าสุดนี้ ยังมีอีกรายหนึ่งซึ่งเป็นรายที่สาม เข้าไปเขียนโต้ตอบย่างสนุกสนานเช่นกันว่า "ຂອງດີ ເອົາມາໂລດ ບໍ່ຍ້ານດອກ ເຈິຂອງຊົ່ວລະຊິຫນາວ ທັກກີ້ ຮາຮາຮາຮາ" (ของดีเอามาเลย ไม่กลัวหรอก เจอของชั่วแล้วจะหนาว ทักกี้ ฮาฮาฮาฮา)

ดูเหมือนว่าประชาคมออนไลน์ชาวลาวเขียนความเห็นต่างๆ เหล่านี้ด้วยความสนุกสนานเท่านั้นเอง เนื่องจากทุกคนทราบดีว่า ทางการลาวได้จัดรักษาความปลอดภัยให้แก่นักโทษชายอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ให้เครื่องบินส่วนตัวไปลงจอดในบริเวณสนามบินทหาร ที่อยู่ถัดไปจากบริเวณสนามบินพลเรือน ภายในบริเวณเดียวกันกับสนามบินนานาชาตินครเวียงจันทน์ และจัดเจ้าหน้าที่ รปภ.ติดตามตลอดเวลา

ภาพที่เผยแพร่กันผ่านเว็บไซต์ต่างๆ รวมทั้งภาพเคลื่อนไหวที่เผยแพร่ทางยูทิวบ์ในช่วง 2 วันมานี้ ได้แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ รปภ.ลาว 3-4 คน คอยติดตาม และรายล้อมทักษิณอย่างใกล้ชิด คอยกันมิให้ผู้ใดเข้าถึงชั้นใน ยกเว้นผู้ที่มีบัตรติดบนอกว่า “VIP” เท่านั้น

กิจกรรมของทักษิณขณะอยู่ในนครเวียงจันทน์ ยังรวมทั้งการเข้าพิธีบายศรีสู่ขวัญที่จัดโดยสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมลาว โดยมีนายกิดสะหนา วงไซ ประธานกรรมการบริษัทเบียร์ลาว และประธานสภาหอการค้าฯ กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าร่วมพิธีด้วยจำนวนหนึ่ง

ในภาพหนึ่งยังมีเอกอัครราชทูตไทยประจำสาธา่รณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายวิทวัส ศรีวิหค ร่วมอยู่ในพิธีบายศรีของนักโทษที่หลบหนีอาญาแผ่นดินจากประเทศไทยด้วย

นอกจากนั้น ยังมีภาพทีทักษิณไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง และไปปราศรัยในหัวข้อเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ริมฝั่งไม่น้ำโขง ตรงข้ามกับ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งจัดโดยสภาหอการค้าฯ ลาว

ชาวเน็ตลาวอีกจำนวนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นลงในเว็บไซต์ของชาวลาวโพ้นทะเล ติเตือนรัฐบาลคอมมิวนิสต์ลาวว่า ไม่ควรแสดงการสนับสนุนทักษิณอย่างออกหน้าออกตาขนาดนี้ แต่บางคนได้แสดงความเห็นสนับสนุนทักษิณอย่างชัดแจ้ง แม้จะเตือนให้คนอื่นๆ วางตัวเป็นกลางก็ตามที

"ຄົນລາວທັງມວນ ທີ່ຈະອອກຄວາມເຫັນໃຫ້ລະວັງຄັກໆໆ ເຫັນ...ເຫົ່າຢ່າຊິ ເຫົ່າຕາມ.... ເພາະມັນບໍ່ຄືຈົ່ງໃຊ້ສະໝອງພິຈາຣະນາ ທຳຕົວເປັນກາງໄວ້" สมาชิกประชาคมออนไลน์คนหนึ่งเขียน

ชาวเน็ตคนเดียวกันนี้ ยังทิ้งท้ายเอาไว้ว่า หากใคร “อยากเอียงซ้าย-ขวา” ควรไปถามแม่ค้าที่ตลาดเช้าเวียงจันทน์ซึ่งจะทราบว่า ในสมัยที่นักโทษชายเป็นนายกฯ นั้น แม่ค้าที่ตลาดเช้าขายของขายดิบขายดี ใครๆ ก็ร่ำรวยขึ้น การท่องเที่ยวลาวคึกคัก

แต่ที่กล่าวอ้างมาข้างต้นก็ดูจะไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการท่องเที่ยวของลาวนั้น เติบโตอย่างคงเส้นคงวาเฉลี่ย 20% ต่อปีในช่วง 10 ปีมานี้ ซึ่งสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจโลกมาโดยตลอด

เจ้าของความเห็นเดียวกันนี้ยังเขียนต่อไปอีกโดยอ้างว่า ในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ นั้น แม่ค้ารายเล็กรายน้อยที่ตลาดเช้า เลิกกิจการกันไปหลายราย แต่ในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ “แม่ค้าในตลาดเช้ามีใบหน้าใหม่อันสวยสดงดงาม การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น สะพานมิตรภาพแต่ละแห่งแน่นขนัด”

ตามรายงานบนเว็บบล็อก คนเสื้อแดงจำนวนมากไปรอต้อนรับทักษิณที่บริเวณสนามบินวัดไต บางกลุ่มถือแผ่นป้ายข้อความต่างๆ แสดงความอาลัยหา แต่ทางการลาวไม่อนุญาตให้สวมเสื้อแดง และไม่อนุญาตให้เคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ ขณะอยู่ในประเทศนี้.

เหมือน "หมาว้อ" ระหกระเหินไปทั่ว




กำลังโหลดความคิดเห็น