ด้วยระยะทางที่ห่างจากตัวจังหวัดตรัง ประมาณ 59 กิโลเมตร หากเดินทางผ่านมาตามถนนเลียบชายหาดปากเมง และประมาณ 47 กิโลเมตร หากเดินทางผ่านมาทางอำเภอกันตัง นักท่องเที่ยวก็จะได้พบกับแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งซึ่งอยู่เคียงคู่กับ “อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม” จนกลายเป็นจุดเด่นที่ทุกๆ คนจะต้องแวะมาเยือน และจะต้องหลงใหลในสภาพธรรมชาติที่ยังสวยสดงดงาม
ทั้งนี้ หลังจากผ่านประตูทางเข้าอุทยานฯ ไปแล้ว สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวจะได้แลเห็นโดดเด่นเป็นสง่าตั้งแต่ไกลก็คือ “เกาะเจ้าไหม” ซึ่งถูกโอบล้อมด้วยทะเลด้านหนึ่ง และลำคลองอีกด้านหนึ่ง โดยมีเขารูปกระโดงฉลามที่โดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ โดยบริเวณด้านบนที่มีความสูงหลายร้อยเมตรนั้น มีลักษณะเป็นหินสลับกับต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมอยู่จำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะลิง และนก
ขณะที่ด้านหน้าของเขาแห่งนี้ จะเป็น “หาดเจ้าไหม” ที่มีลักษณะเป็นลานทั้งกว้าง และยาวแบบสุดสายตา จึงเหมาะต่อการเข้ามาจัดกิจกรรมอยู่ค่ายพักแรม อีกทั้งยังเหมาะในการเล่นน้ำด้วย เพราะมีระดับน้ำที่ตื้น และคลื่นไม่แรงจัด แถมในช่วงที่น้ำลง ยังสามารถเดินลงไปในท้องทะเลได้ไกลเป็นกิโลเมตร จึงเหมาะสมต่อการพาครอบครัว และคนใกล้ชิดมาเดินเล่นในยามเย็น หรือชักชวนเพื่อนฝูงมาร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ
เบื้องหน้าของชายหาดทรายขาว และสงบเงียบแห่งนี้ จะมองเห็น “เกาะลิบง” อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลชื่อดังอยู่ไม่ไกลนัก ส่วนเบื้องหลังจะเป็นดงสนร่มรื่นเป็นทิวยาวไปจนสุดชายหาด เพื่อไปบรรจบกับอีกด้านหนึ่งของเขารูปกระโดงฉลาม นอกจากนั้น การที่แนวชายฝั่งของ “หาดเจ้าไหม” มีหญ้าทะเลขึ้นอยู่จำนวนมาก จึงกลายเป็นแหล่งหากินของฝูงพะยูน สัตว์อนุรักษ์ชื่อดังคู่เมืองตรัง จำนวนหลายสิบตัวด้วย
ในยามน้ำลง อาจเดินลัดเลาะโขดหินไปสู่เวิ้งอ่าวเล็กๆ ที่เรียก “อ่าวปอ” จนลึกเข้าไปตามคลองเจ้าไหม อันเป็นที่ตั้งของถ้ำสวยที่ชื่อว่า “ถ้ำเจ้าไหม” ซึ่งสามารถแล่นเรือเข้าไปถึงปากถ้ำที่มีหลายชั้นได้ โดยชั้นล่างจะเป็นถ้ำกว้างที่มีหินงอกหินย้อยเหมือนเสาต้นใหญ่ๆ เมื่อไต่หน้าผาไปทางขวาประมาณ 100 เมตร ก็จะถึงถ้ำชั้นบน ตามผนังมีลักษณะเหมือนเปลือกหอยเรียงซ้อนเป็นชั้นๆ และยังมีแอ่งน้ำใสเย็นก่อนเข้าสู่ชั้นใน
บริเวณ “หาดเจ้าไหม” แห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขต “อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม” ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งทะเลทางด้านทิศตะวันตก ที่ยาวถึง 20 กิโลเมตร รวมเนื้อที่ทั้งสิ้น 144,300 ไร่ นับจากปากอ่าวทางด้านเหนือในพื้นที่อำเภอสิเกา มาจนถึงอำเภอกันตัง โดยเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย ทั้งชายหาด และเกาะแก่ง รวมทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารหลายสาย ที่มารวมกันเป็นคลองบางสัก ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำตรัง
พืชพรรณภายในเขตอุทยานฯ มีความหลากหลายเป็นอย่างยิ่ง โดยมีทั้งป่าดงดิบ เช่น ยาง ตะเคียน ตำเสา หลุมพอ คอแลน มีป่าเขาหินปูน เช่น จันทน์ผา เป้ง สลัดได ยอป่า เตยเขา ปรงเขา กล้วยไม้ชนิดต่างๆ มีป่าชายหาด เช่น หูกวาง สนทะเล กระทิง เม่า ปอทะเล เคี่ยม นนทรี เสม็ดแดง ยอป่า หนามแท่ง ช้องแมว มีป่าชายเลน เช่น โกงกาง ตะบูน และมีสังคมพืชน้ำ โดยเฉพาะหญ้าทะเล และสาหร่ายทะเล
ส่วนสัตว์ที่พบ เฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีถึง 51 ชนิด โดยเฉพาะพะยูน เลียงผา ค่างดำ เก้ง กระจงเล็ก เสือไฟ แมวดาว นากเล็กเล็บสั้น ชะมดแผงหางสั้น หนูฟานสีเหลือง และค้างคาวชนิดต่างๆ ส่วนนก ก็พบมากถึง 137 ชนิด พบสัตว์เลื้อยคลาน 29 ชนิด และพบสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 9 ชนิด จึงทำให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งระบบนิเวศที่สำคัญของจังหวัดตรัง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเชิงอนุรักษ์
ผู้ใดสนใจเดินทางไปเที่ยวชมสามารถติดต่อได้ที่ “อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม” หมายเลขโทรศัพท์ 0-7521-3260
ภาพ/เรื่อง โดย เมธี เมืองแก้ว