ตรัง - ประธาน “พะยูนพิฆาต” เปิดใจทำทีมฤดูกาลใหม่ เน้นวางระบบและทุ่มเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนจะป้องกันแชมป์โซนใต้ และไปเล่นรอบแชมเปียนส์ลีกได้อีกหรือไม่ แล้วแต่ผลงาน
วันนี้ (30 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสโมสรฟุตบอล ตรัง เอฟซี หรือ “พะยูนพิฆาต” กล่าวว่า สำหรับการเตรียมทีมแข่งขันในระดับดิวิชัน 2 ของฤดูกาลนี้ ทางสโมสรได้เตรียมงบประมาณไว้รวมทั้งสิ้น 12 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าฤดูกาลที่แล้วที่ใช้งบประมาณไปถึง 15 ล้านบาท แม้ว่าจะสามารถผ่านไปเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ แต่ลักษณะของการทุ่มเงินงบประมาณลงไปจำนวนมากเพื่อกว้านซื้อนักเตะชั้นนำมาร่วมทีมนั้นถือเป็นวิธีการที่ไม่คุ้มค่า เพราะท้ายสุดทีมก็ไม่อาจไปถึงระดับดิวิชัน 1 ได้อย่างที่หวัง จึงเห็นควรใช้จ่ายงบประมาณให้น้อยลงตามความเหมาะสม และจัดสรรส่วนหนึ่งไปเพื่อพัฒนาทีมเยาวชน เพื่อเป็นการปูทางสู่ความเข้มแข็งในอนาคตดีกว่าจะใช้วิธีการแบบฉาบฉวยหรือหวือหวาอย่างเช่นที่ผ่านมา
ดังนั้น นักเตะชุดใหม่จึงมิได้เน้นคนเด่นคนดังที่มีค่าตัวแพงเป็นหลัก แต่จะมุ่งไปสู่นักเตะในท้องถิ่น เพื่อวางระบบทีมให้แข็งแกร่งภายใน 1-2 ปีข้างหน้า โดยอาจมีระดับดิวิชัน 1 และ 2 เข้ามาเสริมบ้างเล็กน้อย รวมทั้งนักแตะต่างชาติ ซึ่งขณะนี้ได้มาแล้ว 4 คน โดยเป็นแคเมอรูน 3 คน กับเกาหลี 1 คน และอาจจะมีเสริมเข้ามาอีก 1 คน ซึ่งแม้ว่าในฤดูกาลนี้ ตรัง เอฟซี อาจจะไม่ได้แชมป์โซนภาคใต้ หรืออาจจะไม่ได้ไปเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง แต่ทีมก็ยังคงอยู่ และพร้อมที่จะเดินหน้าในฤดูกาลถัดไปอีก ดีกว่ามาสร้างทีมแบบปีต่อปีที่ไม่อาจหาความยั่งยืนได้ เช่นเดียวกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ คือ Mr.บาโก้ ชาวแคเมอรูน ซึ่งมีผลงานล่าสุดอยู่ในสโมสรฟุตบอลที่ประเทศอินโดนีเซีย ก็ถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และวิสัยทัศน์ตรงตามที่สโมสรต้องการ
นอกจากนั้น ตรัง เอฟซี โฉมใหม่ ยังจะมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน นับตั้งแต่ประธานสโมสร ลงไปจนถึงโค้ช และผู้เล่น จะปล่อยให้สะเปะสะปะเหมือนกับการบริหารงานที่ผ่านมาไม่ได้ โดยมอบอำนาจให้ทางบริษัท สปอร์ตฟอร์ม จำกัด เข้ามาดูแลในส่วนนี้ ซึ่งต่อไปทุกๆ คนจะต้องรู้บทบาทของตนเองในทีม และเดินทางไปตามระบบที่วางไว้ เพื่อก้าวไปสู่ยังจุดหมายที่ต้องการ ประกอบกับตนเองก็มีภาระต้องเดินทางไปเข้าเรียนที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) กรุงเทพฯ จึงไม่ค่อยจะมีเวลาลงดูแลสโมสรอย่างเต็มที่เหมือนก่อน แต่หากได้มีการดึงบุคคลระดับมืออาชีพมาทำงานแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่ประธานสโมสรจะต้องลงไปทำงานเองในทุกๆ เรื่อง เพียงแค่คอยดูและและอำนวยความสะดวกก็เพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับผลงานการอุ่นเครื่องของตรัง เอฟซี ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าไปเสมอกับภูเก็ต เอฟซี 0-0 และพ่ายให้กับสตูล ยูไนเต็ด 0-1 ทำให้จนถึงเวลานี้ยังไม่ได้สกอร์มาเลยสักแต้ม จึงได้ให้ทีมสตาฟโค้ชชุดใหม่นำจุดอ่อนไปรีบเร่งปรับปรุง โดยเฉพาะในเรื่องของการทำเกม และการปิดเกม รวมทั้งการทำเกมรุกในส่วนของนักเตะศูนย์หน้า และการทำความเข้าใจระหว่างหัวหน้าผู้ฝึกสอนกับนักเตะ เนื่องจากต่างก็เป็นคนใหม่อาจจะยังมีช่องว่างระหว่างกันอยู่บ้าง อันเป็นปัญหาเดิมๆ ที่เคยเกิดขึ้นในฤดูกาลที่ผ่านมาแต่คงไม่ไปกดดันอะไร เพราะในฤดูกาลนี้มิได้คาดหวังไว้สูงมาก เพียงแต่ขอให้ทำทีมอยู่ในระดับต้นๆ ของภาคใต้เท่านั้น และหากมีโอกาสได้ไปเล่นในรอบแชมเปียนส์ลีก ก็ให้ถือว่าเป็นโบนัส
