ระนอง - ผวจ.ระนอง ลงพื้นที่อำเภอสุขสำราญ รับฟังปัญหาพลับพลึงธารถูกทำลาย พร้อมมอบนโยบายดูแลชาวบ้าน ขณะที่ชมรมเพลินไพรศรีนาคา ขอให้ อบต.นาคา หยุดขุดลอกคลองเพื่อรักษาพลับพลึงธารให้คงอยู่
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ปลัดจังหวัดระนอง และคณะ ลงพื้นที่ หมู่ 4 ต.คลองนาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง เพื่อรับฟังปัญหาการทำลายพลับพลึงธาร และประชุมร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้านในการดูแลทุกข์สุขของประชาชนในพื้นที่ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายสิทธิชัย เผ่าพันธุ์ นายอำเภอสุขสำราญ กำนัน และผู้ใหญ่บ้านอำเภอสุขสำราญ ร่วมให้การต้อนรับ
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้เน้นย้ำต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่า ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน และขยายผลงานของรัฐบาลสู่ประชาชนด้วย รวมทั้งจะต้องอยู่ตรงกลางระหว่างรัฐกับประชาชน โดยให้ความสำคัญด้านต่างๆ ในการพัฒนาจังหวัดระนอง 4 ด้าน คือ 1) โครงการที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โครงการในพระราชดำริ 2) โครงการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 3) โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเน้นเรื่องสุขภาพ และท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และ 4) เรื่องการค้าชายแดน เนื่องจากระนองเป็นจังหวัดที่มีแนวชายแดนติดกับประเทศพม่า
จากนั้น นายอำเภอสุขสำราญได้นำคณะของ ผวจ.ระนอง และสื่อมวลชนลงพื้นที่หาดประพาส และบ้านทะเลนอก ซึ่งทางอำเภอสุขสำราญต้องการผลักดันให้มีการสร้างท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว เนื่องจากจุดนี้จะสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังเกาะกำ เกาะช้าง เกาะญี่ปุ่น เกาะค้างคาว เกาะพยาม และเกาะสุรินทร์ ได้อย่างสะดวก
หลังจากนั้น เดินทางต่อไป ม.4 ต.คลองนาคา ซึ่งเคยมีพลับพลึงธารอยู่จำนวนมาก แต่หลังจากที่ อบต.นาคา ได้ขุดลอกคลองแล้ว ทำให้จำนวนพลับพลึงธารลดน้อยลงโดยทางชมรมเพลินไพรศรีนาคาได้กล่าวว่า อยากขอร้องให้มีการระงับการขุดลอกคลองนาคา เพื่อคงไว้ให้เป็นที่อยู่ของพลับพลึงธารคู่คลองนาคาตลอดไป
ขณะที่นายก อบต.นาคา กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมีการขุดลอกคลองนาคา เนื่องจากตลิ่งของคลองถูกน้ำกัดเซาะส่งผลให้ที่ดินของชาวบ้านที่อยู่ริมคลองเสียหาย จึงจำเป็นต้องขุดลอกคลองนาคา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับฟังปัญหาของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วจะนำข้อมูลกลับไปพิจารณา อาจต้องมีการทำประชาคมเพื่อรับฟังความต้องการที่แท้จริงของชาวบ้านคลองนาคาด้วย
ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ปลัดจังหวัดระนอง และคณะ ลงพื้นที่ หมู่ 4 ต.คลองนาคา อ.สุขสำราญ จ.ระนอง เพื่อรับฟังปัญหาการทำลายพลับพลึงธาร และประชุมร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้านในการดูแลทุกข์สุขของประชาชนในพื้นที่ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นายสิทธิชัย เผ่าพันธุ์ นายอำเภอสุขสำราญ กำนัน และผู้ใหญ่บ้านอำเภอสุขสำราญ ร่วมให้การต้อนรับ
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้เน้นย้ำต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่า ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน และขยายผลงานของรัฐบาลสู่ประชาชนด้วย รวมทั้งจะต้องอยู่ตรงกลางระหว่างรัฐกับประชาชน โดยให้ความสำคัญด้านต่างๆ ในการพัฒนาจังหวัดระนอง 4 ด้าน คือ 1) โครงการที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โครงการในพระราชดำริ 2) โครงการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 3) โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเน้นเรื่องสุขภาพ และท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และ 4) เรื่องการค้าชายแดน เนื่องจากระนองเป็นจังหวัดที่มีแนวชายแดนติดกับประเทศพม่า
จากนั้น นายอำเภอสุขสำราญได้นำคณะของ ผวจ.ระนอง และสื่อมวลชนลงพื้นที่หาดประพาส และบ้านทะเลนอก ซึ่งทางอำเภอสุขสำราญต้องการผลักดันให้มีการสร้างท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว เนื่องจากจุดนี้จะสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังเกาะกำ เกาะช้าง เกาะญี่ปุ่น เกาะค้างคาว เกาะพยาม และเกาะสุรินทร์ ได้อย่างสะดวก
หลังจากนั้น เดินทางต่อไป ม.4 ต.คลองนาคา ซึ่งเคยมีพลับพลึงธารอยู่จำนวนมาก แต่หลังจากที่ อบต.นาคา ได้ขุดลอกคลองแล้ว ทำให้จำนวนพลับพลึงธารลดน้อยลงโดยทางชมรมเพลินไพรศรีนาคาได้กล่าวว่า อยากขอร้องให้มีการระงับการขุดลอกคลองนาคา เพื่อคงไว้ให้เป็นที่อยู่ของพลับพลึงธารคู่คลองนาคาตลอดไป
ขณะที่นายก อบต.นาคา กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมีการขุดลอกคลองนาคา เนื่องจากตลิ่งของคลองถูกน้ำกัดเซาะส่งผลให้ที่ดินของชาวบ้านที่อยู่ริมคลองเสียหาย จึงจำเป็นต้องขุดลอกคลองนาคา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับฟังปัญหาของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วจะนำข้อมูลกลับไปพิจารณา อาจต้องมีการทำประชาคมเพื่อรับฟังความต้องการที่แท้จริงของชาวบ้านคลองนาคาด้วย
