พังงา - จังหวัดพังงา พร้อมแล้วนำเรือหลวงพระทองจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเลเพื่อการอนุรักษ์ และฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมจะประกอบพิธีจมเรือซึ่งห่างจากเกาะพระทองประมาณ 5 ไมล์ทะเล เป็นจุดเหมาะสมที่จะเป็นจุดดำน้ำชมปะการัง
นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมคณะทำงานโครงการจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเลเพื่อการอนุรักษ์ และฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยมีนายกฤษ ศรีฟ้า เลขานุการ รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมคณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าร่วมประชุม ซึ่งจังหวัดพังงาร่วมกับกองทัพเรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมประชาชนชาวจังหวัดพังงาได้จัดทำโครงการจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเลเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะนำเรือหลวงพระทอง เรือ ต.13 และโบกี้รถไฟ ที่หมดสภาพการใช้งาน จำนวน 15 โบกี้ มาประกอบการจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเล
สำหรับเรือหลวงพระทอง เป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ต่อที่อู่เจฟเฟอร์สันโบต ประเทศสหรัฐอเมริกา กองทัพเรือได้สั่งซื้อ และรับมอบเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2519 ขึ้นระวางประจำการเมื่อ 22 มิถุนายน 2519 ขนาดเรือยาว 98.1 เมตร กว้าง 15 เมตร มีระวางขับน้ำปกติ 3,310 ตัน หลังจากปลดระวาง จะมีการลากขนย้ายมาที่จังหวัดพังงา ระหว่างวันที่ 10-20 มี.ค.56 และระหว่างวันที่ 25-30 มี.ค. จะเปิดให้ประชาชนเข้าชม และจะประกอบพิธีจมเรือซึ่งห่างจากเกาะพระทองประมาณ 5 ไมล์ทะเล เป็นจุดที่มีความลึก 18-20 เมตร เหมาะสมที่จะเป็นจุดดำน้ำชมปะการัง ระหว่าง 1-15 เมษายน 2556
ส่วนงบประมาณในการดำเนินการนั้น มีหลายภาคส่วนให้การสนับสนุน เช่น งบประมาณยุทธศาสตร์ จำนวน 3 ล้านบาท องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ.พังงา เทศบาลเมืองตะกั่วป่า เทศบาลเมืองพังงา รวมถึงเทศบาลตำบล และ อบต.ในพื้นที่จังหวัดพังงา อีกจำนวน 2.5 ล้าน สมาคมธุรกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยวในจังหวัดพังงา สมาคมประมงในจังหวัดพังงา สภาอุตสาหกรรมในจังหวัดพังงา รวมถึงภาคประชาชนร่วมบริจาคอีก จำนวน 4 ล้านบาท สำนักนายกรัฐมนตรีร่วมสมทบ จำนวน 5 ล้านบาท
นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมคณะทำงานโครงการจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเลเพื่อการอนุรักษ์ และฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยมีนายกฤษ ศรีฟ้า เลขานุการ รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมคณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าร่วมประชุม ซึ่งจังหวัดพังงาร่วมกับกองทัพเรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมประชาชนชาวจังหวัดพังงาได้จัดทำโครงการจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ท้องทะเลเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะนำเรือหลวงพระทอง เรือ ต.13 และโบกี้รถไฟ ที่หมดสภาพการใช้งาน จำนวน 15 โบกี้ มาประกอบการจัดสร้างอุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเล
สำหรับเรือหลวงพระทอง เป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ต่อที่อู่เจฟเฟอร์สันโบต ประเทศสหรัฐอเมริกา กองทัพเรือได้สั่งซื้อ และรับมอบเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2519 ขึ้นระวางประจำการเมื่อ 22 มิถุนายน 2519 ขนาดเรือยาว 98.1 เมตร กว้าง 15 เมตร มีระวางขับน้ำปกติ 3,310 ตัน หลังจากปลดระวาง จะมีการลากขนย้ายมาที่จังหวัดพังงา ระหว่างวันที่ 10-20 มี.ค.56 และระหว่างวันที่ 25-30 มี.ค. จะเปิดให้ประชาชนเข้าชม และจะประกอบพิธีจมเรือซึ่งห่างจากเกาะพระทองประมาณ 5 ไมล์ทะเล เป็นจุดที่มีความลึก 18-20 เมตร เหมาะสมที่จะเป็นจุดดำน้ำชมปะการัง ระหว่าง 1-15 เมษายน 2556
ส่วนงบประมาณในการดำเนินการนั้น มีหลายภาคส่วนให้การสนับสนุน เช่น งบประมาณยุทธศาสตร์ จำนวน 3 ล้านบาท องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ.พังงา เทศบาลเมืองตะกั่วป่า เทศบาลเมืองพังงา รวมถึงเทศบาลตำบล และ อบต.ในพื้นที่จังหวัดพังงา อีกจำนวน 2.5 ล้าน สมาคมธุรกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยวในจังหวัดพังงา สมาคมประมงในจังหวัดพังงา สภาอุตสาหกรรมในจังหวัดพังงา รวมถึงภาคประชาชนร่วมบริจาคอีก จำนวน 4 ล้านบาท สำนักนายกรัฐมนตรีร่วมสมทบ จำนวน 5 ล้านบาท
