ชุมพร - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศปิดอ่าว 3 เดือน ช่วงฤดูปลาวางไข่และเลี้ยงตัวอ่อน เผยผลการปิดอ่าวในช่วงนี้ทำปริมาณสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น
ที่ลานอเนกประสงค์เทศบาลตำบลปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี ประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ ในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน หรือปิดอ่าว ประจำปี 2556 โดยมี ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง นายปฐม สาธิตานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยผู้บริหารกรมประมง ตัวแทนสมาคมประมง จาก จ.ประจวบคิรีขันธ์ ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ ร่วมพิธีหลายพันคน
โดยพิธีประกาศปิดอ่าวอย่างเป็นทางการ ได้มีพิธีบวงสรวงพระรูป พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงค์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ การปล่อยเรือตรวจการณ์ประมงออกปฏิบัติการในทะเล และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มทรัพยากรประมง
ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ ในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน หรือปิดอ่าว บังคับใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2496 มีการปรับปรุงแก้ไขให้มีความเหมาะสมหลายครั้ง ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ใช้บังคับในปัจจุบัน เป็นประกาศ ฉบับลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งมีสาระสำคัญคือ ระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-15 พ.ค. ของทุกปี เป็นระยะเวลาห้ามทำการประมงด้วยเครื่องมือประมงบางชนิด ในพื้นที่ประมาณ 26,400 ตารางกิโลเมตร หรือ 16.5 ล้านไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ทะเลบางส่วนของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ จากการประเมินผลทางวิชาการ ตามมาตรการปิดอ่าว ปี 2554-2555 พบว่า ทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาทูฟื้นฟูได้อย่างเห็นชัดเจน มีปริมาณการจับเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงก่อนปิดอ่าวมากกว่า 2 เท่า สามารถรักษาระดับปริมาณเฉลี่ยได้กว่า 1 แสนตันต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท การประกาศปิดอ่าวจึงเป็นแนวทางอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนที่ชาวประมงต้องช่วยกันปฏิบัติตามประกาศอย่างเคร่งครัด
ที่ลานอเนกประสงค์เทศบาลตำบลปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี ประกาศใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ ในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน หรือปิดอ่าว ประจำปี 2556 โดยมี ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง นายปฐม สาธิตานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยผู้บริหารกรมประมง ตัวแทนสมาคมประมง จาก จ.ประจวบคิรีขันธ์ ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ ร่วมพิธีหลายพันคน
โดยพิธีประกาศปิดอ่าวอย่างเป็นทางการ ได้มีพิธีบวงสรวงพระรูป พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงค์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ การปล่อยเรือตรวจการณ์ประมงออกปฏิบัติการในทะเล และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเพิ่มทรัพยากรประมง
ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ ในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน หรือปิดอ่าว บังคับใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2496 มีการปรับปรุงแก้ไขให้มีความเหมาะสมหลายครั้ง ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ใช้บังคับในปัจจุบัน เป็นประกาศ ฉบับลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งมีสาระสำคัญคือ ระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-15 พ.ค. ของทุกปี เป็นระยะเวลาห้ามทำการประมงด้วยเครื่องมือประมงบางชนิด ในพื้นที่ประมาณ 26,400 ตารางกิโลเมตร หรือ 16.5 ล้านไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ทะเลบางส่วนของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ จากการประเมินผลทางวิชาการ ตามมาตรการปิดอ่าว ปี 2554-2555 พบว่า ทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาทูฟื้นฟูได้อย่างเห็นชัดเจน มีปริมาณการจับเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงก่อนปิดอ่าวมากกว่า 2 เท่า สามารถรักษาระดับปริมาณเฉลี่ยได้กว่า 1 แสนตันต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท การประกาศปิดอ่าวจึงเป็นแนวทางอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนที่ชาวประมงต้องช่วยกันปฏิบัติตามประกาศอย่างเคร่งครัด