กระบี่ - เกษตรกรเลี้ยงปลาเก๋าเสือที่กระบี่ เร่งจับปลาส่งข่ายพ่อค้าที่มารับซื้อ เผยมียอดสั่งซื้อไม่จำกัดรองรับผู้บริโภคช่วงตรุษจีน เกษตรกรครวญราคาตก แต่จำเป็นต้องจับขาย เพราะถ้าเลี้ยงนานจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น
วันนี้ (7 ก.พ.) เกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง จ.กระบี่ เร่งจับปลาเก๋าเสือ และเก๋าพันธุ์ผสมที่เลี้ยงไว้ในกระชัง เพื่อนำมาขายต่อให้พ่อค้าที่มารับซื้อที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงพื้นบ้าน ม.7 บ้านคลองหิน ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ หลังจากที่มียอดการสั่งซื้อจำนวนมาก แต่ในปีนี้พบว่า ได้ราคาต่ำกว่า ปที่ผ่านมา จากเดิม กก.ละ 450-500 บาท ลดลงเหลือกิโลกรัมละ 350-360 บาท แต่เกษตรกรจำเป็นต้องขาย เพราะปลาโตได้ขนาด 6-7 นิ้ว หากเลี้ยงต่อไปก็จะเป็นภาระต้นทุนค่าอาหาร
นางจิ้วโห้ย เจริญหัถกิจ อายุ 73 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาเก๋ามานานกว่า 30 ปี กล่าวว่า ขณะนี้มีพ่อค้าสั่งซื้อปลาเก๋าเสือจำนวนมาก โดยจะซื้อแบบปลาเป็นใส่ออกซิเจนนำไปส่งพ่อค้าที่กรุงเทพฯ โดยไม่จำกัดจำนวน ซึ่งปลาของตนจับมาได้ 100 กิโลกรัม ขายได้ราคาเพียงกิโลกรัมละ 360 บาทเท่านั้น ซึ่งในปีนี้ถือว่าราคาตกต่ำมาก เพราะปีที่ผ่านมาขายได้กก.ละ 450-550 บาท แต่ตนก็จำเป็นต้องขายเพราะปลาโตขึ้นมาก ขนาด 6-7 ขีดขึ้นไป หากเลี้ยงต่อไปก็จะเป็นภาระต้นทุนค่าอาหารเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องขาย
นางจิ้วโห้ย กล่าวอีกว่า สำหรับต้นทุนการเลี้ยงปลาเก๋าเสือเฉลี่ยตัวละ 100-120 บาท จะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 7-8 เดือน หรือประมาณ 1 ปี ก็สามารถขายได้ โดยราคาที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ กก.ละ 450-550 บาท จึงจะคุ้มทุน เพราะในปัจจุบันนี้เกษตรกรจะมีต้นทุนค่าอาหารสูงมาก เนื่องจากต้องใช้ปลาสดๆ เป็นอาหารให้แก่ปลาเสือ
วันนี้ (7 ก.พ.) เกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง จ.กระบี่ เร่งจับปลาเก๋าเสือ และเก๋าพันธุ์ผสมที่เลี้ยงไว้ในกระชัง เพื่อนำมาขายต่อให้พ่อค้าที่มารับซื้อที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงพื้นบ้าน ม.7 บ้านคลองหิน ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ หลังจากที่มียอดการสั่งซื้อจำนวนมาก แต่ในปีนี้พบว่า ได้ราคาต่ำกว่า ปที่ผ่านมา จากเดิม กก.ละ 450-500 บาท ลดลงเหลือกิโลกรัมละ 350-360 บาท แต่เกษตรกรจำเป็นต้องขาย เพราะปลาโตได้ขนาด 6-7 นิ้ว หากเลี้ยงต่อไปก็จะเป็นภาระต้นทุนค่าอาหาร
นางจิ้วโห้ย เจริญหัถกิจ อายุ 73 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาเก๋ามานานกว่า 30 ปี กล่าวว่า ขณะนี้มีพ่อค้าสั่งซื้อปลาเก๋าเสือจำนวนมาก โดยจะซื้อแบบปลาเป็นใส่ออกซิเจนนำไปส่งพ่อค้าที่กรุงเทพฯ โดยไม่จำกัดจำนวน ซึ่งปลาของตนจับมาได้ 100 กิโลกรัม ขายได้ราคาเพียงกิโลกรัมละ 360 บาทเท่านั้น ซึ่งในปีนี้ถือว่าราคาตกต่ำมาก เพราะปีที่ผ่านมาขายได้กก.ละ 450-550 บาท แต่ตนก็จำเป็นต้องขายเพราะปลาโตขึ้นมาก ขนาด 6-7 ขีดขึ้นไป หากเลี้ยงต่อไปก็จะเป็นภาระต้นทุนค่าอาหารเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องขาย
นางจิ้วโห้ย กล่าวอีกว่า สำหรับต้นทุนการเลี้ยงปลาเก๋าเสือเฉลี่ยตัวละ 100-120 บาท จะใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 7-8 เดือน หรือประมาณ 1 ปี ก็สามารถขายได้ โดยราคาที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ กก.ละ 450-550 บาท จึงจะคุ้มทุน เพราะในปัจจุบันนี้เกษตรกรจะมีต้นทุนค่าอาหารสูงมาก เนื่องจากต้องใช้ปลาสดๆ เป็นอาหารให้แก่ปลาเสือ