สุราษฎร์ธานี - ญาตินักท่องเที่ยวชาวจีนตายปริศนาในสระน้ำบ้านพักตากอากาศหรู บริเวณโรงแรมดังที่เกาะสมุย รุดพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี หวั่นคดีพลิก เชื่อสามีผู้ตายเป็นคนลงมือหลังพบมีพิรุธหลายอย่าง
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่กองบังการตำรวจสุราษฎร์ธานี นายหว่าง ไฮเจียง อายุ 41 ปี ชาวจีนพร้อมญาติ และทนายความคนไทย ได้เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกรณี นางลิน ลิน อายุ 34 ปี น้องสาว ที่เสียชีวิตปริศนาบริเวณสระน้ำภายในบ้านพักตากอากาศ บริเวณโรงแรมหรู พื้นที่หมู่ 5 ต.ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องเกรงว่าการดำเนินคดีจะไม่มีความเป็นธรรม
โดยนายหว่าง ระบุว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคาคมที่ผ่านมา นางลิน ลิน พร้อมสามี คือนายยู ลิน ได้เดินทางมาท่องเที่ยว และพักผ่อนที่เกาะสมุย ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ทางญาติได้รับแจ้งจากนายยู ลิน เมื่อวันที่ 20 ม.ค.56 ว่า น้องสาวจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งจริงๆ แล้วน้องสาวถูกฆาตกรรมเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ม.ค.56โดยคนร้ายได้ทิ้งศพในสระน้ำบ้านพักตากอากาศหรู สภาพศพมีรอยถูกรัดที่บริเวณลำคอ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย ขอหมายศาลจับกุมนายยู ลิน สามีผู้ตาย ในข้อหาฆาตกรรมอำพรางเมียตัวเอง
โดยนายยู ลิน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และขอยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน พร้อมร้องเรียนไปยัง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมให้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อคลี่ปมปริศนาฆาตกรรม ต่อมา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ และเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดพร้อมเก็บหลักฐานที่สำคัญได้บางอย่าง พร้อมระบุว่า สามีผู้ตายไม่น่าใช่ฆาตกรตัวจริงตามที่มีข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งนำเสนอไป
นายหว่าง ยังได้กล่าวอีกว่า จากข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมาเกรงว่าคดีดังกล่าวอาจจะพลิกได้ จึงได้เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา นายยู ลิน สามี ผู้ตายได้โทรศัพท์ติดต่อกลับไปหาบิดามารดาผู้ตาย พร้อมระบุว่า นางลิน ลิน ได้เสียชีวิตแล้วจากเหตุจมน้ำตาย ที่เกาะสมุย พร้อมกำชับไม่ต้องส่งญาติคนใดมารับศพ โดยสามีของผู้ตายจะเป็นผู้ดำเนินการส่งกลับไปเอง แต่หลังจากนั้น ทางบิดามารดาผู้ตายได้รับเอกสารจากสถานกงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดสงขลา ว่า นางลิน ลิน เสียชีวิตโดยมีเงื่อนงำ ขอให้ญาติเดินทางมาประเทศไทยเพื่อตรวจสอบสาเหตุการตายที่แท้จริง
หลังจากนั้น ตนพร้อมด้วยญาติก็ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย และไปดูศพน้องสาวที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พบว่า บริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ ลักษณะคล้ายถูกบีบรัดคออย่างแรง และที่นิ้วมือข้างขวามีลักษณะเกร็ง โดยแพทย์ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตมาจากการขาดอากาศหายใจ จากการกดรัดบริเวณลำคอ ขัดแย้งกับการที่นายยู ลิน แจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า จมน้ำตาย
นอกจากนั้น ยังพบพิรุธหลายอย่างของนายยู ลิน เช่น ที่ต้องการให้ทางบิดามารดาผู้ตายรีบนำศพน้องสาวกลับเมืองจีนทันที ซึ่งทางญาติเชื่อมั่นว่า นายยู ลินต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องสาว และมั่นใจต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่ทำมาถูกทาง แต่เมื่อมีข่าวออกมาว่า นายยู ไม่เกี่ยวข้อง ทำให้ไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมของเมืองไทย จึงเข้าขอความเป็นธรรมให้แก่น้องสาว เกรงคดีพลิกจนผู้ต้องหาหลุดคดี
พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนการจับกุมสามีผู้ตายนั้นทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานสำคัญจากการตรวจดีเอ็นเอจากศพผู้ตาย ประกอบกับ ผู้ต้องหาร่างกายมีร่องรอยบาดแผลเป็นรอยขีดข่วน จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นคนลงมือก่อเหตุสังหารภรรยาตัวเอง พร้อมให้ความมั่นใจทางญาติผู้ตายว่าคดีจะไม่พลิกแน่นอน
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่กองบังการตำรวจสุราษฎร์ธานี นายหว่าง ไฮเจียง อายุ 41 ปี ชาวจีนพร้อมญาติ และทนายความคนไทย ได้เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกรณี นางลิน ลิน อายุ 34 ปี น้องสาว ที่เสียชีวิตปริศนาบริเวณสระน้ำภายในบ้านพักตากอากาศ บริเวณโรงแรมหรู พื้นที่หมู่ 5 ต.ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องเกรงว่าการดำเนินคดีจะไม่มีความเป็นธรรม
โดยนายหว่าง ระบุว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคาคมที่ผ่านมา นางลิน ลิน พร้อมสามี คือนายยู ลิน ได้เดินทางมาท่องเที่ยว และพักผ่อนที่เกาะสมุย ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ทางญาติได้รับแจ้งจากนายยู ลิน เมื่อวันที่ 20 ม.ค.56 ว่า น้องสาวจมน้ำเสียชีวิต ซึ่งจริงๆ แล้วน้องสาวถูกฆาตกรรมเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 ม.ค.56โดยคนร้ายได้ทิ้งศพในสระน้ำบ้านพักตากอากาศหรู สภาพศพมีรอยถูกรัดที่บริเวณลำคอ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย ขอหมายศาลจับกุมนายยู ลิน สามีผู้ตาย ในข้อหาฆาตกรรมอำพรางเมียตัวเอง
โดยนายยู ลิน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และขอยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน พร้อมร้องเรียนไปยัง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมให้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อคลี่ปมปริศนาฆาตกรรม ต่อมา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ และเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดพร้อมเก็บหลักฐานที่สำคัญได้บางอย่าง พร้อมระบุว่า สามีผู้ตายไม่น่าใช่ฆาตกรตัวจริงตามที่มีข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งนำเสนอไป
นายหว่าง ยังได้กล่าวอีกว่า จากข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมาเกรงว่าคดีดังกล่าวอาจจะพลิกได้ จึงได้เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา นายยู ลิน สามี ผู้ตายได้โทรศัพท์ติดต่อกลับไปหาบิดามารดาผู้ตาย พร้อมระบุว่า นางลิน ลิน ได้เสียชีวิตแล้วจากเหตุจมน้ำตาย ที่เกาะสมุย พร้อมกำชับไม่ต้องส่งญาติคนใดมารับศพ โดยสามีของผู้ตายจะเป็นผู้ดำเนินการส่งกลับไปเอง แต่หลังจากนั้น ทางบิดามารดาผู้ตายได้รับเอกสารจากสถานกงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดสงขลา ว่า นางลิน ลิน เสียชีวิตโดยมีเงื่อนงำ ขอให้ญาติเดินทางมาประเทศไทยเพื่อตรวจสอบสาเหตุการตายที่แท้จริง
หลังจากนั้น ตนพร้อมด้วยญาติก็ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทย และไปดูศพน้องสาวที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พบว่า บริเวณลำคอมีรอยเขียวช้ำ ลักษณะคล้ายถูกบีบรัดคออย่างแรง และที่นิ้วมือข้างขวามีลักษณะเกร็ง โดยแพทย์ระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตมาจากการขาดอากาศหายใจ จากการกดรัดบริเวณลำคอ ขัดแย้งกับการที่นายยู ลิน แจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า จมน้ำตาย
นอกจากนั้น ยังพบพิรุธหลายอย่างของนายยู ลิน เช่น ที่ต้องการให้ทางบิดามารดาผู้ตายรีบนำศพน้องสาวกลับเมืองจีนทันที ซึ่งทางญาติเชื่อมั่นว่า นายยู ลินต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องสาว และมั่นใจต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่ทำมาถูกทาง แต่เมื่อมีข่าวออกมาว่า นายยู ไม่เกี่ยวข้อง ทำให้ไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมของเมืองไทย จึงเข้าขอความเป็นธรรมให้แก่น้องสาว เกรงคดีพลิกจนผู้ต้องหาหลุดคดี
พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนการจับกุมสามีผู้ตายนั้นทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานสำคัญจากการตรวจดีเอ็นเอจากศพผู้ตาย ประกอบกับ ผู้ต้องหาร่างกายมีร่องรอยบาดแผลเป็นรอยขีดข่วน จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นคนลงมือก่อเหตุสังหารภรรยาตัวเอง พร้อมให้ความมั่นใจทางญาติผู้ตายว่าคดีจะไม่พลิกแน่นอน
