ตรัง - กรรมการอิสลามประจำ จ.ตรัง ติงการผลักดันเรือของชาวโรฮิงญาซึ่งมีผู้โดยสาร 145 คน ซึ่งมีทั้งสตรี เด็ก และคนป่วยออกนอกพื้นที่ เป็นวิธีการที่ไม่ค่อยเหมาะสม ระบุดูแลช่วยเหลือได้ไม่เต็มที่ตามหลักมนุษยธรรม ซ้ำยังถูกเจ้าหน้าที่พยายามสกัดกั้นไม่ให้ช่วยเหลือด้วย
วันนี้ (4 ก.พ.) นายสมาน ลิประพันธ์ กรรมการอิสลามประจำ จ.ตรัง กล่าวถึงกรณีที่ทางจังหวัดได้ผลักดันชาวโรฮิงญา จำนวน 145 คน ออกไปนอกพื้นที่ ขณะกำลังเข้ามาจอดลอยลำอยู่บริเวณหน้าชายหาดปากเมง หมู่ที่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ว่า เป็นการกระทำที่ไม่ค่อยจะเหมาะสมตามหลักมนุษยธรรม เนื่องจากเรือลำนี้มีสภาพทรุดโทรม และต้องบรรทุกผู้คนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับขณะนี้ลมมรสุมตะวันออกยังพัดอย่างรุนแรง จนเสี่ยงที่เรือจะเกิดอับปางลงกลางทะเลได้ทุกเมื่อ
นอกจากนั้น จากการที่ตนขึ้นไปตรวจสอบบนเรือลำดังกล่าว ยังพบชาวโรฮิงญาที่เป็นผู้หญิง 4 คน และเด็ก 2 คน โดยมีอายุ 6 ปี กับอายุ 10 ปี และยังมีคนป่วยที่เป็นผู้ชายอีกหลายคน อีกทั้งเรือลำนี้ต้องลอยคออยู่กลางทะเลมาถึง 16 วันแล้ว นับตั้งแต่โดยสารออกมาจากประเทศพม่า จนมีชาวโรฮิงญาต้องเสียชีวิตไปแล้วถึง 4 คน และไม่สามารถนำศพไปทำพิธีได้ จึงต้องแก้ปัญหาด้วยโยนทิ้งลงไปกลางทะเล นับเป็นภาพที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้พบเห็นอย่างมาก แต่กลับไม่มีการช่วยเหลือตามแนวทางที่ควรจะเป็น
พร้อมกันนั้น เมื่อตนได้นำพี่น้องชาวมุสลิมขนข้าว ขนน้ำ และยารักษาโรคไปช่วยเหลือชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ ขณะกำลังอยู่บนเรือที่ลอยลำอยู่กลางทะเล กลับถูกเจ้าหน้าที่พยายามสกัดกั้นด้วยวิธีการต่างๆ แต่เนื่องจากตนเดินทางลงไปในนามของสำนักจุฬาราชมนตรี จึงสามารถเข้าไปช่วยเหลือชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ได้สำเร็จ ซึ่งก็กระทำได้เพียงในระดับหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากมืดค่ำลงเสียก่อน และต่อมาทราบว่า ทางกองเรือภาคที่ 3 จ.พังงา ได้มาผลักดันชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ออกไปนอกน่านน้ำไทย เพื่อให้เดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3
ด้านนายสมาน กล่าวว่า ความจริงแล้วเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็มีชาวโรฮิงญาอีกกลุ่มหนึ่งได้หนีไปขึ้นฝั่งที่ จ.สุราษฎร์ธานีด้วย และได้รับการดูแลช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ เป็นอย่างดี ต่างไปจาก จ.ตรัง ที่นอกจากไม่ยอมให้ขึ้นฝั่งแล้ว ยังดูแลช่วยเหลือไม่เต็มที่ ทั้งๆ ที่พวกเขาต้องอดข้าวอดน้ำมาแล้วหลายวัน หรืออย่างน้อยก็ให้นำผู้หญิง เด็ก และคนป่วยมาขึ้นฝั่ง มิใช่ปล่อยให้ลอยเรือไปเผชิญชะตากรรมแบบนี้ ซึ่งเป็นวิธีการที่ทางจังหวัดจะต้องรีบหันมาทบทวน เพราะปัญหาชาวโรฮิงญาอพยพยังคงเกิดขึ้นอีกไม่จบสิ้น