ตรัง - 145 โรฮิงญา หิวโซ อดข้าว-น้ำ 2 วัน ล่องเรือขออาหารชาวเกาะมุกด์ ที่ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่นำอาหาร และน้ำดื่มเข้าช่วยเหลือ ก่อนผลักดันออกไปนอกจังหวัด
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (3 ก.พ.) พ.ต.อ.อาทิตย์ ดำสนิท ผกก.9 กองบังคับการตำรวจน้ำ อ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับแจ้งจากเรือทัวร์ท่องเที่ยวว่า พบเห็นกลุ่มคนจำนวนมากลักษณะคล้ายชาวโรฮิงญา โดยสารมากับเรือ และกำลังจอดลอยลำอยู่ห่างจากที่หน้าชายหาดปากเมง หมู่ที่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้นำชุมชนที่อยู่ใน ต.ไม้ฝาด นำเรือตรวจการณ์ออกตรวจสอบ
ทั้งนี้ เมื่อไปถึงพบว่าเรือลำดังกล่าวมีชาวโรฮิงญาทั้งหมด 145 คน โดยในจำนวนนี้เป็นหญิง 2 คน และเด็กอีก 2 คน ทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดโรยอ่อนเพลีย เนื่องจากขาดอาหาร และน้ำ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุด ฉก.ทะเล ตำรวจ ภ.จว.ตรัง ที่ประจำการที่ ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา และเจ้าหน้าที่กาชาด จ.ตรัง ให้นำอาหาร ปลากระป๋อง ไข่เจียว และน้ำดื่มไปช่วยเหลือชาวโรฮิงญา แต่ไม่ได้มีการจับกุมแต่อย่างใด เนื่องจากหากมีการจับกุมก็จะสร้างความยุ่งยาก เพราะไม่มีสถานที่รองรับ จึงได้ผลักดันออกนอกพื้นที่ต่อไป
จากการสอบถามได้ความว่า ทั้งหมดโดยสารเรือออกจากประเทศพม่า เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ระหว่างทางเสบียงที่เตรียมมาได้หมดลง และไม่ได้รับประทานอาหารมา 2 วันแล้ว ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย และหมดแรงจนไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ จึงจอดเรือลอยลำเข้าไปขออาหารจากชาวบ้านที่เกาะมุกด์ แล้วจะออกเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย กระทั่งมีชาวบ้านมาพบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว
ด้าน นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง หลังจากทราบเรื่องก็ได้สั่งการให้ นายสมควร ขันเงิน นายอำเภอสิเกา พร้อมด้วย พ.อ.อัษฎา แสงฤทธิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.จ.ตรัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชุด ฉก.ทางทะเล กว่า 50 นาย ไปเตรียมความพร้อมรอดูสถานการณ์ และอำนวยความสะดวก หากพบว่าชาวโรฮิงญามีการบาดเจ็บ หรือมีอาการป่วย ก็จะได้ให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยมีชาวมุสลิมในละแวกดังกล่าวที่ทราบข่าวกว่า 20 คน ได้เดินทางมาให้กำลังใจชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ด้วย แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะเจ้าหน้าที่ได้นำอาหาร และน้ำดื่มไปให้ แล้วผลักดันออกพื้นที่ไปแล้ว และไม่ได้นำชาวโรฮิงญากลุ่มนี้กลับเข้าฝั่ง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ชาวบ้านซึ่งเป็นชุด ฉก.ทางทะเล กำลังนำเรือออกไปกลางทะเล เพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้บันทึกภาพชาวโรฮิงญา แต่กลับถูกทางเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนฝั่ง สั่งห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวลงเรือไป โดยอ้างว่าจะสร้างความแตกตื่นให้แก่ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้สื่อข่าวเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถออกไปเก็บภาพข่าวมาได้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (3 ก.พ.) พ.ต.อ.อาทิตย์ ดำสนิท ผกก.9 กองบังคับการตำรวจน้ำ อ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับแจ้งจากเรือทัวร์ท่องเที่ยวว่า พบเห็นกลุ่มคนจำนวนมากลักษณะคล้ายชาวโรฮิงญา โดยสารมากับเรือ และกำลังจอดลอยลำอยู่ห่างจากที่หน้าชายหาดปากเมง หมู่ที่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้นำชุมชนที่อยู่ใน ต.ไม้ฝาด นำเรือตรวจการณ์ออกตรวจสอบ
ทั้งนี้ เมื่อไปถึงพบว่าเรือลำดังกล่าวมีชาวโรฮิงญาทั้งหมด 145 คน โดยในจำนวนนี้เป็นหญิง 2 คน และเด็กอีก 2 คน ทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดโรยอ่อนเพลีย เนื่องจากขาดอาหาร และน้ำ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุด ฉก.ทะเล ตำรวจ ภ.จว.ตรัง ที่ประจำการที่ ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา และเจ้าหน้าที่กาชาด จ.ตรัง ให้นำอาหาร ปลากระป๋อง ไข่เจียว และน้ำดื่มไปช่วยเหลือชาวโรฮิงญา แต่ไม่ได้มีการจับกุมแต่อย่างใด เนื่องจากหากมีการจับกุมก็จะสร้างความยุ่งยาก เพราะไม่มีสถานที่รองรับ จึงได้ผลักดันออกนอกพื้นที่ต่อไป
จากการสอบถามได้ความว่า ทั้งหมดโดยสารเรือออกจากประเทศพม่า เพื่อเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ระหว่างทางเสบียงที่เตรียมมาได้หมดลง และไม่ได้รับประทานอาหารมา 2 วันแล้ว ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย และหมดแรงจนไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ จึงจอดเรือลอยลำเข้าไปขออาหารจากชาวบ้านที่เกาะมุกด์ แล้วจะออกเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย กระทั่งมีชาวบ้านมาพบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือดังกล่าว
ด้าน นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง หลังจากทราบเรื่องก็ได้สั่งการให้ นายสมควร ขันเงิน นายอำเภอสิเกา พร้อมด้วย พ.อ.อัษฎา แสงฤทธิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.จ.ตรัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชุด ฉก.ทางทะเล กว่า 50 นาย ไปเตรียมความพร้อมรอดูสถานการณ์ และอำนวยความสะดวก หากพบว่าชาวโรฮิงญามีการบาดเจ็บ หรือมีอาการป่วย ก็จะได้ให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยมีชาวมุสลิมในละแวกดังกล่าวที่ทราบข่าวกว่า 20 คน ได้เดินทางมาให้กำลังใจชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ด้วย แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะเจ้าหน้าที่ได้นำอาหาร และน้ำดื่มไปให้ แล้วผลักดันออกพื้นที่ไปแล้ว และไม่ได้นำชาวโรฮิงญากลุ่มนี้กลับเข้าฝั่ง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ชาวบ้านซึ่งเป็นชุด ฉก.ทางทะเล กำลังนำเรือออกไปกลางทะเล เพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้บันทึกภาพชาวโรฮิงญา แต่กลับถูกทางเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนฝั่ง สั่งห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวลงเรือไป โดยอ้างว่าจะสร้างความแตกตื่นให้แก่ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้สื่อข่าวเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถออกไปเก็บภาพข่าวมาได้