xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายท้องถิ่นใต้ล่างร่วมบูรณาการนำนโยบาย 7+1 พัฒนาท้องถิ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใต้ล่าง ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนจังหวะก้าวการขับเคลื่อนของเครือข่าย 7 จังหวัดใต้ล่าง เพื่อพัฒนาแนวทางในการบูรณาการ ลดปัจจัยเลี่ยงด้านสุขภาพ และพัฒนานโยบายสาธารณะของเครือข่ายท้องถิ่นในนโยบาย 7+1

ระหว่างวันที่ 30-31 มกราคม 2556 มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนจังหวะก้าวการขับเคลื่อนเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ที่โรงแรมซากุระ แกรนด์วิว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี 205 องค์กรปกครองท้องถิ่นใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ประมาณ 600 คนเข้าร่วมประชุม

นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ อดีตนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ท้องถิ่นจะเจริญเป็นตำบลสุขภาวะได้หรือไม่นั้น ประชาชนต้องเข้ามามีส่วนร่วม ตนในฐานะนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อนำพาหาดใหญ่ไปสู่มหานครแห่งความสุข ทั้งได้เฝ้ามองจังหวะก้าวการขับเคลื่อนของเครือข่ายทั้ง 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างเพื่อจะนำมาประยุกต์ใช้กับสภาประชาชนเทศบาลนครหาดใหญ่ รูปแบบที่เครือข่ายดำเนินการมาจะถูกนำมาต่อยอดใช้กับเทศบาลนครหาดใหญ่ด้วย

“การขับเคลื่อนตำบลสุขภาวะต้องอาศัยการทำงานร่วมกันในหลายภาคส่วน แต่ส่วนที่สำคัญคือ ภาคประชาชน ท้องถิ่นจะยั่งยืนได้ ประชาชนต้องเข้มแข็ง”

จากนั้นนายสุริยา ยีขุน นายกเทศมนตรีตำบลปริก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นเพื่อการเรียนรู้ ภาคใต้ตอนล่าง กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานว่า เป็นการสืบสานการขับเคลื่อนสู่ตำบลสุขภาวะ ที่พวกเราได้ดำเนินการมา 3 ปี แล้ว การมาทบทวนจังหวะก้าวการขับเคลื่อนในครั้งนี้ก็เพื่อพัฒนาแนวทางในการบูรณาการ เพื่อลดปัจจัยเลี่ยงด้านสุขภาพ และพัฒนานโยบายสาธารณะของเครือข่ายท้องถิ่นใน 7+1 ประเด็น ได้แก่ 1. การบริหารจัดการท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วม 2. การจัดสวัสดิการสังคมโดยชุมชน 3. เกษตรกรรมยั่งยืน 4. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5. การเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน 6. การดูแลสุขภาพชุมชนโดยชุมชน 7. การจัดการภัยพิบัติ และ 8. การลงทุนด้านสุขภาพโดยชุมชน

จากนั้นนายสมพร ใช้บางยาง ประธานคณะกรรมการบริหารแผน คณะที่ 3 ได้ปาฐกถาพิเศษ “พลังท้องถิ่น พลังขับเคลื่อนชุมชนเข้มแข็ง” ว่า ปัจจุบันมีศูนย์การเรียนรู้กระจายอยู่ทั่วประเทศ 57 แห่ง เป็นเครือข่ายลูก และเครือข่ายขยายผล 2,000 กว่าแห่ง เพื่อสร้างชุมชนของเราให้น่าอยู่ แต่การจะสร้างชุมชนให้น่าอยู่ได้ เราควรพัฒนาหัวใจสำคัญ คือ คน ที่ผ่านมาประเทศไทยพัฒนาประเทศโดยใช้เศรษฐกิจนำ ทิ้งมิติทางสังคม ละเลยการพัฒนาทรัพยากรที่มีค่า คือ คน ทำให้คนของเราขาดคุณภาพ ขาดคุณธรรม จริยธรรม ขาดปัญญาที่จะไปต่อสู้กับโลกที่กำลังแข่งขันกันอยู่ในปัจจุบันนี้ เราจึงต้องเป็นผู้ตามอยู่ตลอดเวลา การไม่พัฒนาคน ทำให้การพัฒนาในหลายๆ ด้านไม่เกิดขึ้น รวมทั้งประชาธิปไตยด้วย

“เราต้องยกระดับการเป็นเพียงราษฎร หรือประชาชน ไปสู่การเป็นพลเมืองให้ได้ เพราะการเป็นพลเมืองคือผู้ที่มีความรับผิดต่อสังคม ประเทศชาติ มีจิตสาธารณะที่จะแก้ปัญหาสังคม ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ยอมรับกติกาบ้านเมือง ใช้ความคิดเห็นร่วมในการจัดการปัญหา มีความซื่อสัตย์ ยอมรับเสียงข้างมาก เคารพเสียงส่วนน้อย ละอายต่อความชั่ว กล้าและเชื่อมั่นทำให้สิ่งที่ถูกต้อง วันนี้คนไทยยังทำตัวเป็นราษฎร เป็นประชาชน ยังไม่ยกระดับไปสู่ความเป็นพลเมือง ผมเชื่อว่าการสร้างคนให้เข้มแข็ง จะทำให้ชุมชนและบ้านเมืองเข้มแข็งได้ในอนาคต และเมื่อชุมชนเข้มแข็งก็จะเป็นแรงกระเพื่อมให้สังคมมุ่งไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง” นายสมพกล่าว


นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ อดีตนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย

นายสุริยา ยีขุน นายกเทศมนตรีตำบลปริก
กำลังโหลดความคิดเห็น