ตรัง - ม็อบโพงพาง 3 อำเภอกว่า 200 คน บุกศาลากลางพบพ่อเมืองตรัง หลังถูกชุดใบไม้เขียวบุกตัดโพงพาง จนขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว ยื่น 4 ข้อเรียกร้อง พร้อมขู่ปิดสนามบิน ก่อนสลายตัว
วันที่ (28 ม.ค.) บริเวณหน้าศาลากลาง จ.ตรัง ชาวประมงพื้นบ้านที่ประกอบอาชีพทำโพงพาง กว่า 200 คน นำโดยนายวุฒิพงษ์ สาเหล้ ผู้ประสานงานชาวประมงพื้นบ้านหยงสตาร์ อ.ปะเหลียน ได้เดินทางมาชุมนุมประท้วงเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังจากถูกชุดปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามกระทำความผิดการประมง (ชุดใบไม้เขียว) ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน บุกทำลายเครื่องมือประมงโพงพางในพื้นที่ 3 อำเภอ ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านได้รับความเดือดร้อนและขาดรายได้หาเลี้ยงครอบครัว
โดยชาวบ้านได้เปิดเวทีไฮด์ปาร์กผ่านเครื่องขยายเสียงติดรถยนต์ สลับขึ้นโจมตีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่โกหกหลอกลวงชาวบ้าน พร้อมขอเข้าพบนายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.ตรัง เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้อง พร้อมขู่ว่าหากไม่ลงมาพบทางกลุ่มผู้ประท้วงจะเคลื่อนขบวนไปปิดสนามบินตรัง ต่อมาเวลา 12.30 น.กลุ่มผู้ชุมนุมได้ส่งตัวแทนทั้ง 13 คนเข้าร่วมหารือที่ห้องพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ชั้น 3 ศาลากลาง จ.ตรัง กับนายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.ตรัง พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ประมงจังหวัดตรัง ประมงอำเภอกันตัง และป้องกันจังหวัดตรัง เพื่อหาข้อสรุป
ทั้งนี้ ทางผู้ชุมนุมประท้วงได้ยื่น 4 ข้อเรียกร้อง คือ 1. ให้ตรวจสอบงบประมาณการปรับเปลี่ยนเครื่องมือประมงว่า เจ้าหน้าที่ประมงได้รับประโยชน์กับโครงการนี้หรือไม่ 2. ให้ทางจังหวัดร่วมกับ มทร.ศรีวิชัยวิทยาเขตตรังหรืออื่นๆ และตัวแทนชาวประมง ศึกษาผลเสียของการทำโพงพางก่อนตัดสินใจปฏิบัติงานต่างๆ 3. ทางตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านจะยื่นคำร้องฟ้องศาลปกครองให้ไต่สวนกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติว่าขัดกับกฎหมายหรือไม่ 4. ให้ชาวประมงพื้นบ้านได้ประกอบอาชีพโพงพางตามปกติไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.ตรัง ได้กล่าวยอมรับว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ลงพื้นที่ติดตามดูแลโครงการและให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง จึงสั่งให้มีการเข้าไปสำรวจเครื่องมือประมงของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย พร้อมตรวจสอบว่าชาวบ้านได้นำเครื่องมือประมงที่ได้รับไปใช้งานจริง ตลอดจนจัดการส่งเสริมอาชีพเพิ่มเติมให้กับกลุ่มชาวบ้าน และสนับสนุนงบประมาณการประกอบอาชีพใหม่ รวมทั้งยังยืนยันว่าภาครัฐไม่ได้มีส่วนได้ส่วนได้เสียใดๆ กับงบประมาณก้อนนี้
นอกจากนั้น ทางจังหวัดจะตั้งงบประมาณให้ มทร.วิทยาเขตตรัง เพื่อสนับสนุนงานวิจัยตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง ให้การดำเนินโครงการนี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว พร้อมประสานไปยังกรมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งจะประสานไปยังศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน จ.กระบี่ ให้ยุติการทำลายเครื่องมือโพงพางไปพร้อมๆ กับปรับเปลี่ยนเครื่องมือประมง ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงพอใจกับคำตอบ และข้อตกลงที่ได้รับจาก ผวจ.ตรัง และสลายตัวในเวลาต่อมา