ระนอง - ชาวประมงพื้นบ้านระนองเดือดร้อนจากชาวประมงพม่าลักลอบทำการประมงในเขตพื้นที่อนุรักษ์ แจ้งพร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ประมงไปดักซุ่มทั้งคืน สามารถรวบเรือประมงพม่าได้ 4 ลำ พร้อมชาวพม่า 5 คน เจ้าหน้าที่ประมงรวบตัวทั้งหมดส่งตำรวจท้องที่ สภ.ปากน้ำ ดำเนินคดีทันที
วันนี้ (26 ม.ค.) นายศักดา สุขเกษม หัวหน้าหน่วยบริหารจัดการประมงทะเล เกาะสุรินทร์ จ.พังงา พร้อมด้วยนายพิทยา มณีโชติ เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดระนอง และชาวบ้านในพื้นที่พร้อมกำลังจำนวนหนึ่ง ลงเรือเร็วออกลาดตระเวนที่บริเวณลำแม่นำกระบุรี พื้นที่อนุรักษ์ ม.4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง ตั้งแต่ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.30 น.วันนี้ (26 ม.ค.) ได้พบเรือประมงหางยาว ที่วิ่งมาจากจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า จำนวน 4 ลำ กำลังลักลอบทำการประมงในพื้นที่อนุรักษ์ โดยใช้อวนปากเสือ แม้เห็นเจ้าหน้าที่ไปถึงก็ไม่ได้สนใจ ยังคงทำการประมงอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
สามารถจับกุมผู้กระทำผิดเป็นชายพม่าได้ จำนวน 5 คน เรือหางยาวพร้อมเครื่อง จำนวน 4 ลำ พร้อมอุปกรณ์ทำการประมง และสัตว์น้ำเบญจพรรณหลายชนิดอีกจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบไม่มีเอกสารการเข้าเมือง จึงได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง และร่วมกันลักลอบทำการประมงในเขตการประมงไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.2482 และข้อหาใช้เครื่องมือต้องห้ามในการทำประมง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำดำเนินคดี
นายศักดา กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ เนื่องจากมีพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านที่มีใจอนุรักษ์แจ้งข้อมูลต่างๆ เข้ามา ว่า มีชาวต่างด้าวนำเครื่องมือต้องห้ามลักลอบเข้ามาทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำในเขตน่านน้ำจังหวัดระนอง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อให้สัตว์น้ำได้ทำการขยายพันธุ์ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากกลัวว่าจะไม่มีสัตว์น้ำให้จับอีก เพราะว่าชาวพม่าใช้เครื่องมืออวนตาถี่ และมีการจับสัตว์น้ำทุกประเภท ทุกขนาด โดยไม่มีการเลือกแม้กระทั่งสัตว์น้ำวัยอนุบาลซึ่งเป็นการทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำเป็นอย่างมาก
