ระนอง - ประมงระนองสนธิกำลังหน่วยบริหารจัดการประมงทะเล เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จับ 5 หม่อง ลักลอบทำประมงโพงพางฝั่งไทย ยึดเรือ 3 ลำ เครื่องมือจับปลา ลักลอบเข้ามาจับสัตว์น้ำขายให้แก่นายทุน และผู้เลี้ยงปลากระชังในพื้นที่จังหวัดระนอง
เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์ สุขเกษม หัวหน้าหน่วยบริหารจัดการประมงทะเล เกาะสุรินทร์ จ.พังงา กรมประมง สนธิกำลังกับนายพิทยา มณีโชติ เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดระนอง นำเรือตรวจการณ์ประมงทะเล 206 ออกสืบหาผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการทำประมง ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้รับแจ้งจากชาวประมงในพื้นที่ระนองว่ามีการใช้อวนโพงพางในการจับสัตว์น้ำ
โดยซุ่ม และลาดตระเวนใช้เวลา 2 วัน จนกระทั่งแล่นเรือมาถึงบริเวณร่องกลางน้ำ ใกล้เกาะหม้อ ม.6 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง พบเรือหางยางจำนวน 3 ลำ กำลังทำการประมงด้วยอวนโพงพาง จึงนำเรือไปจอดเทียบพร้อมแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น และจับกุม สามารถจับกุมชาวพม่าได้จำนวน 5 คน ไม่มีหลักฐานการเข้าเมือง พบอวนชนิดโพงพาง และสัตว์น้ำขนาดเล็กหลากหลายชนิดบรรจุอยู่ในถังพลาสติก จำนวน 6 ถัง
จากการสอบสวนชาวพม่าทั้งหมดทราบว่า อยู่ที่จังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า แต่มีนายทุนชาวไทยจ้างให้มาทำการประมง พร้อมทั้งให้อุปกรณ์จำพวกอวนมาให้ พวกตนเพียงนำเรือมาเท่านั้น เมื่อทำการประมงได้สัตว์น้ำแล้ว จะมีชาวไทยมารับซื้อ เท่าที่ทราบส่วนใหญ่จะใช้สำหรับนำไปเลี้ยงปลาในกระชัง
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวร่วมกันลักลอบทำการประมง ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตประมงไทย พ.ศ.2482 และร่วมกันใช้เครื่องมือโพงพาง (ปากเสือ) มีโทษปรับสูงสุดเป็นเงินมูลค่า 1 ล้านบาท ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำระนอง ให้ทำการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อขยายผลหานายทุนที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์ สุขเกษม หัวหน้าหน่วยบริหารจัดการประมงทะเล เกาะสุรินทร์ จ.พังงา กรมประมง สนธิกำลังกับนายพิทยา มณีโชติ เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดระนอง นำเรือตรวจการณ์ประมงทะเล 206 ออกสืบหาผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการทำประมง ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้รับแจ้งจากชาวประมงในพื้นที่ระนองว่ามีการใช้อวนโพงพางในการจับสัตว์น้ำ
โดยซุ่ม และลาดตระเวนใช้เวลา 2 วัน จนกระทั่งแล่นเรือมาถึงบริเวณร่องกลางน้ำ ใกล้เกาะหม้อ ม.6 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง พบเรือหางยางจำนวน 3 ลำ กำลังทำการประมงด้วยอวนโพงพาง จึงนำเรือไปจอดเทียบพร้อมแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้น และจับกุม สามารถจับกุมชาวพม่าได้จำนวน 5 คน ไม่มีหลักฐานการเข้าเมือง พบอวนชนิดโพงพาง และสัตว์น้ำขนาดเล็กหลากหลายชนิดบรรจุอยู่ในถังพลาสติก จำนวน 6 ถัง
จากการสอบสวนชาวพม่าทั้งหมดทราบว่า อยู่ที่จังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า แต่มีนายทุนชาวไทยจ้างให้มาทำการประมง พร้อมทั้งให้อุปกรณ์จำพวกอวนมาให้ พวกตนเพียงนำเรือมาเท่านั้น เมื่อทำการประมงได้สัตว์น้ำแล้ว จะมีชาวไทยมารับซื้อ เท่าที่ทราบส่วนใหญ่จะใช้สำหรับนำไปเลี้ยงปลาในกระชัง
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวร่วมกันลักลอบทำการประมง ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตประมงไทย พ.ศ.2482 และร่วมกันใช้เครื่องมือโพงพาง (ปากเสือ) มีโทษปรับสูงสุดเป็นเงินมูลค่า 1 ล้านบาท ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำระนอง ให้ทำการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อขยายผลหานายทุนที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป